บุญเป็นสิ่งที่มีแก่นสาร มีประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น เราต้องตั้งใจทำจึงจะเกิดขึ้น แต่บาปเป็นสิ่งที่มีโทษแก่ตนและผู้อื่น มักเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องตั้งใจทำ
พม่ามีคำพังเพยว่า “ในคนผู้หนึ่ง มีศลอย่างเดียว” หมายความว่า ถ้ากุศลเกิดขึ้น อกุศลก็ไม่เกิด เหมือนความมืดไม่เกิดในที่มีแสงสว่าง แต่ถ้ากุศลไม่เกิด อกุศลก็เกิดขึ้นเอง เหมือนความมืดที่เกิดขึ้นเองเมื่อแสงสว่างดับไป
บุญเหมือนไม้ดอกไม้ผลที่มีค่า ต้องตั้งใจปลูกและหมั่นดูแลรักษา จึงจะเจริญงอกงามผลิดอกออกผลได้ ส่วนบาปเหมือนวัชพืชที่ไร้ค่า ไม่ต้องตั้งใจปลูกก็งอกขึ้นเอง แถมยังขุดรากถอนโคนกำจัดให้หมดสิ้นไปได้ยากดังพระพุทธพจน์ว่า
เย เกจิ ภิกฺขเว กุสลา ธมฺมา กุสลภาคิยา กุสลปกฺขิกา, สพฺเพ เต โยนิโสมนสิการมูลกา โยนิโสมนสิการสโมสรณา. (สํ.ม. ๑๙/๒๑๓/๘๒)
“ภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล เป็นส่วนกุศล เป็นฝ่ายกุศล ทั้งหมดนั้นมีโยนิโสมนสิการ (การพิจารณาด้วยปัญญา) เป็นมูลเหตุ รวมลงในโยนิโสมนสิการ”
@ Bhavana Manjari""""by....วันที่ไร้แสงเหนือ
บุญทำยาก บาปเกิดเอง
บุญเหมือนไม้ดอกไม้ผลที่มีค่า ต้องตั้งใจปลูกและหมั่นดูแลรักษา จึงจะเจริญงอกงามผลิดอกออกผลได้ ส่วนบาปเหมือนวัชพืชที่ไร้ค่า ไม่ต้องตั้งใจปลูกก็งอกขึ้นเอง แถมยังขุดรากถอนโคนกำจัดให้หมดสิ้นไปได้ยากดังพระพุทธพจน์ว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล เป็นส่วนกุศล เป็นฝ่ายกุศล ทั้งหมดนั้นมีโยนิโสมนสิการ (การพิจารณาด้วยปัญญา) เป็นมูลเหตุ รวมลงในโยนิโสมนสิการ”
@ Bhavana Manjari""""by....วันที่ไร้แสงเหนือ