พิธีกรรมแต่งงานเกี่ยวอะไรกับศาสนา อีกแง่มุมหนึ่งที่อยากให้ศึกษา

กระทู้สนทนา
ฉบับที่ ๙๙ วันพุธที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓

เรื่อง
พิธีกรรมแต่งงานเกี่ยวอะไรกับศาสนา อีกแง่มุมหนึ่งที่อยากให้ศึกษา
          
         ก่อนอื่นต้องขอบอกที่มาของหัวข้อเรื่อง คือ เมื่อวานอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสได้ร่วมงานแต่งของพี่ชาวแท้ๆ ที่คลานตามกันมา ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าว จัดได้อย่างประทับใจท่ามกลางธรรมชาติ และที่สำคัญคือ การจัดลำดับพิธีกรรมแต่ละอย่างกับเวลาที่กระชับได้อย่างลงตัว มี 4 ฉากสำคัญ ดังนี้ (ขอเขียนแบบสั้น ๆ มีคลิป VDO ประกอบคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ)
      1. 06.09 น. พิธีกรรมสงฆ์
      2. 08.19 น. แห่ขันหมาก
      3. 09.09 น. ยกน้ำชา รดน้ำสังข์
      4. 11.30 น.  รับประทานอาหารร่วมกัน
       
             กระผมรายการ book story ได้เห็นภาพทุกขั้นตอน ก่อนอื่นต้องขอชื่นชม อนุโมทนาในผลบุญนี้ของผู้จัดงานที่เกี่ยวเนื่องด้วยศาสนา

            ในฐานะ Book Story เป็นผู้เขียนที่เลื่อมใสในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงต้องการหาคำตอบว่าศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร สามารถสะท้อนข้อคิดหรือหลักธรรมใดบ้างให้แก่เจ้าบ่าว เจ้าสาว แม้กระทั่งผู้ร่วมงาน

             พบว่า มีแง่มุม 2 ประเด็นที่สามารถสะท้อนหลักธรรมสำคัญได้ 2 หลักธรรมที่น่าศึกษา คือ มงคลธรรม (พิธีเจริญพระพุทธมนต์ช่วงเช้า) และ ฆราวาสธรรม (ภาพรวมพิธีกรรมต่างๆ)
             ผู้เขียนยกหลักธรรม 2 เรื่องนี้มาเนื่องจาก การศึกษาพระพุทธศาสนา ควรศึกษาทั้งภาคปริยัติ (คำสอน) และภาคปฏิบัติ กระทั่งเกิดปฏิเวธ (ผลการปฏิบัติ)
             พระสงฆ์ได้เจริญพระพุทธมนต์คาถาต่าง ๆ ก็คือคำสอนของพระพุทธองค์ โดยช่วงสำคัญคือ การทำน้ำมนต์ ที่เริ่มหยดเทียนในบทสวด มงคลคาถา (มงคลชีวิต 38 ประการ)
             การแห่ขันหมาก (ทมะ) การสละซองผ่านด่านรับเจ้าสาว (จาคะ) ใส่แหวนมั่น (สัจจะ) แบกชุดหนัก ๆ เดินต้อนรับแขก ถ่ายรูปต่าง ๆ (ขันติ) ซึ่งทุกขั้นตอนการกระทำทุกกิจกรรมคู่บ่าวสาวสามารถสะท้อนถึงการฝึกคุณธรรมหลาย ๆ ผสมผสานกัน เปรียบเสมือนภาคปฏิบัติของ ฆราวาสธรรม กล่าวคือ

             ฆราวาสธรรม แปลว่า คุณสมบัติของผู้ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตทางโลก ประกอบด้วยธรรมะ 4 ประการ คือ
สัจจะ แปลว่า จริง ตรง แท้ มีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน เป็นคนจริงต่อความเป็นมนุษย์ของตน
ทมะ แปลว่า ฝึกตน ข่มจิต และรักษาใจ บังคับตัวเองเพื่อลดและละกิเลส และรักษาสัจจะ
ขันติ แปลว่า อดทน ไม่ใช่แพียงแต่อดทนกับคำพูดหรือการกระทำของผู้อื่นที่เราไม่พอใจ แต่หมายถึงการอดทนอดกลั้นต่อการบีบบังคับของกิเสส
จาคะ แปลว่า เสียสละ บริจาคสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในตน โดยเฉพาะกิเลสเพราะนั้นคือสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่กับตน ละนิสัยไม่ดีต่างๆ

             สรุป การจัดงานแต่งงานเกี่ยวข้องกับศาสนาในหลายแง่มุม ทั้งภาคปริยัติและภาคปฏิบัติ สามารถสะท้อนได้2 หลักธรรมสำคัญ ๆ เบื้องต้น คือ มงคลชีวิต และ ฆราวาสธรรม ถือเป็นแบบแผนปฏิบัติของบรรพบุรุษที่แฝงด้วยข้อคิดที่น่าศึกษา
             ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
         
                              B.S. 
                      8 ม.ค. 2563

       ตอน พิธีกรรมแต่งงานเกี่ยวอะไรกับศาสนา อีกแง่มุมหนึ่งที่อยากให้ศึกษา https://youtu.be/bpTjeZ5stBM
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่