ผิดพลาดตรงไหนไม่ดียังไงก็บอกมาได้เลยนะครับ
พอมาลองดูอีกทีรู้สึกว่ามันสั้นจริงป่าวเนี่ย
ผมตื่นขึ้นมาในห้องๆหนึ่ง มองไปรอบๆแต่ก็มีเพียงแค่ห้องเปล่าๆ ได้แต่นึกสงสัยว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน พอรู้ตัวอีกทีก็มีแสงสลัวลอดออกมาทางหน้าต่าง ข้างหน้าก็มีเก้าอี้อยู่ตัวนึง ผมเดินไปข้างหน้าได้สองถึงสามก้าว เก้าอี้ที่อยู่ข้างหน้าผมก็หายไปพร้อมกับแสงที่ลอดออกมาทางหน้าต่าง มันมืดมากผมมองไม่เห็นอะไรเลย น่ากลัวมันช่างน่ากลัว ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน ผมได้ตะโกนออกไปแต่เสียงมันไม่ได้ออกมาจากลำคอของผมเลยสักนิด ราวกับว่าผมได้ตะโกนอยู่แค่ในใจของผมคนเดียว ผมพยายามเปล่งเสียงออกมาแต่ร่างกายมันไม่ยอมฟังคำสั่งของผม ผมล้มเลิกความคิดแล้วได้แต่เดินไปข้างหน้าอีกครั้ง แม้ว่าผมจะมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะมันมืดมาก เหมือนกันกับก่อนหน้านี้ที่มีเก้าอี้อยู่ข้างหน้าพร้อมแสงที่ลอดออกมาทางเพดานอีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้มีคุณลุงวัยกลางคนอายุราวห้าสิบกว่าๆกำลังยิ้มอยู่ แต่กลับกันดวงตานั้นมืดมนแสดงออกถึงความเกลียดชัง มือซ้ายถือมีดที่ยาวประมาณสี่นิ้วได้ มืออีกข้างกำลังบีบคอเด็กชายอยู่ อายุประมาณสิบห้าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ดวงตามีแต่ความสิ้นหวังเหมือนกับคนที่ได้ตายไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างงั้นแล้วผมจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเด็กชายคนนั้น ก่อนที่จะเกิดเรื่องที่มันเลวร้ายขึ้น แต่ทุกอย่างก็มืดดับไป คราวนี้พอรู้ตัวอีกที ผมก็นั่งอยู่บนเก้าอี้แทนเด็กชายคนที่ผมกำลังเข้าไปช่วย และคุณลุงที่พยายามจะฆ่าเด็กชายก็อยู่ข้างหน้าผมพร้อมกับมีดที่ปักอยู่ที่อกของผม เลือดก็ได้ไหลออกมา เจ็บ ชักจะเจ็บเกินไปแล้ว ทำไมเรื่องมันเป็นอย่างงี้ไปได้ อา...ใช่แล้วผมนึกออกแล้ว คุณลุงคนนั้นก็คือพ่อของผมเอง ส่วนเด็กชายคนนั้นก็คือผม ที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ก็เพราะตอนที่ผมเกิดมา คุณแม่ที่ให้กำเนิดผมได้ตายจากไป คุณพ่อที่เสียใจจากการจากไปของคุณแม่และทำใจไม่ได้ก็ได้แต่ดื่มสุรา พอเมาก็มักจะเข้ามาทำร้ายผม ทำไมกันนะ... ทำไมถึงเกิดแต่เรื่องเลวร้ายกับชีวิตของผม ทำไมผมต้องเกิดมาด้วยล่ะครับคุณแม่ พอนึกได้แล้วสติของผมก็ได้มืดดับไป...
เช้าวันสดใส
พอมาลองดูอีกทีรู้สึกว่ามันสั้นจริงป่าวเนี่ย
ผมตื่นขึ้นมาในห้องๆหนึ่ง มองไปรอบๆแต่ก็มีเพียงแค่ห้องเปล่าๆ ได้แต่นึกสงสัยว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน พอรู้ตัวอีกทีก็มีแสงสลัวลอดออกมาทางหน้าต่าง ข้างหน้าก็มีเก้าอี้อยู่ตัวนึง ผมเดินไปข้างหน้าได้สองถึงสามก้าว เก้าอี้ที่อยู่ข้างหน้าผมก็หายไปพร้อมกับแสงที่ลอดออกมาทางหน้าต่าง มันมืดมากผมมองไม่เห็นอะไรเลย น่ากลัวมันช่างน่ากลัว ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน ผมได้ตะโกนออกไปแต่เสียงมันไม่ได้ออกมาจากลำคอของผมเลยสักนิด ราวกับว่าผมได้ตะโกนอยู่แค่ในใจของผมคนเดียว ผมพยายามเปล่งเสียงออกมาแต่ร่างกายมันไม่ยอมฟังคำสั่งของผม ผมล้มเลิกความคิดแล้วได้แต่เดินไปข้างหน้าอีกครั้ง แม้ว่าผมจะมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะมันมืดมาก เหมือนกันกับก่อนหน้านี้ที่มีเก้าอี้อยู่ข้างหน้าพร้อมแสงที่ลอดออกมาทางเพดานอีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้มีคุณลุงวัยกลางคนอายุราวห้าสิบกว่าๆกำลังยิ้มอยู่ แต่กลับกันดวงตานั้นมืดมนแสดงออกถึงความเกลียดชัง มือซ้ายถือมีดที่ยาวประมาณสี่นิ้วได้ มืออีกข้างกำลังบีบคอเด็กชายอยู่ อายุประมาณสิบห้าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ดวงตามีแต่ความสิ้นหวังเหมือนกับคนที่ได้ตายไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างงั้นแล้วผมจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเด็กชายคนนั้น ก่อนที่จะเกิดเรื่องที่มันเลวร้ายขึ้น แต่ทุกอย่างก็มืดดับไป คราวนี้พอรู้ตัวอีกที ผมก็นั่งอยู่บนเก้าอี้แทนเด็กชายคนที่ผมกำลังเข้าไปช่วย และคุณลุงที่พยายามจะฆ่าเด็กชายก็อยู่ข้างหน้าผมพร้อมกับมีดที่ปักอยู่ที่อกของผม เลือดก็ได้ไหลออกมา เจ็บ ชักจะเจ็บเกินไปแล้ว ทำไมเรื่องมันเป็นอย่างงี้ไปได้ อา...ใช่แล้วผมนึกออกแล้ว คุณลุงคนนั้นก็คือพ่อของผมเอง ส่วนเด็กชายคนนั้นก็คือผม ที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ก็เพราะตอนที่ผมเกิดมา คุณแม่ที่ให้กำเนิดผมได้ตายจากไป คุณพ่อที่เสียใจจากการจากไปของคุณแม่และทำใจไม่ได้ก็ได้แต่ดื่มสุรา พอเมาก็มักจะเข้ามาทำร้ายผม ทำไมกันนะ... ทำไมถึงเกิดแต่เรื่องเลวร้ายกับชีวิตของผม ทำไมผมต้องเกิดมาด้วยล่ะครับคุณแม่ พอนึกได้แล้วสติของผมก็ได้มืดดับไป...