[CR] * พาเที่ยวเหนือแบบไม่วุ่นวาย ในเทศกาลปีใหม่ครับ *

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง เที่ยวไทย สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ สถานที่ท่องเที่ยว เที่ยวภูเขา

พูดถึงการท่องเที่ยวต่างจังหวัด ในช่วงเทศกาล หลายคน คงส่ายหัว ขอนอนอยู่บ้านเฉยๆดีกว่า ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งกันใช้ ... ซึ่งก็ไม่ผิดครับ แต่กับ มนุษย์เงินเดือน ทำงานบริษัท จะให้ไปลาวันปกติยาวๆหลายวัน เค้าก็คงเชิญไปนั่งทำงานที่บ้านแหละ

ดังนั้น ถ้าอยากเที่ยว ก็ต้องเที่ยวช่วงเทศกาล เหมือนคนอื่นแหละ แต่มันก็มีทริค มีเทคนิค เล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้ไม่ต้องไปเจอคน เจอรถ ที่มากจนเกินไปครับ ลองไล่ตามดูครับ เผื่อเป็นไอเดียครับ

วางแผนล่วงหน้า
ผมเป็นนักท่องเที่ยว ที่ชอบวางแผนครับ อย่างเทศกาลเนี่ย จองที่พักล่วงหน้า ราวๆ 6 เดือนครับ คิดแผนในหัวคร่าวเลยว่า จะไปเที่ยวที่ไหน ออกกี่โมง ถึงกี่โมง ใช้ google map ให้เป็นประโยชน์ แล้วก็ไป จองที่พัก ครับ ส่วนปลีกย่อย เช่น จะแวะตรงไหนบ้างในจังหวัดนั้น ไว้ใกล้ๆค่อย plan ครับ

อีกอย่าง การวางแผนล่วงหน้า มันทำให้คุณ วางแผนทางการเงินได้ด้วย เพราะไปเที่ยวครั้งนึง รวมหมด ก็มีหมื่นกลางๆเป็นอย่างต่ำนะครับ

ปล.รีวิวนี้ไม่ต้องกลัวจะเห็นหน้าผมนะครับ ... เพราะลืมเอาขาตั้งกล้องไป คิดได้อีกที ตอนเดินอยู่งานดอกไม้ ที่เชียงรายละ 55+ (รอบนี้เปลี่ยนรถไป เลยไม่คุ้นพื้นที่ในรถ)

27 ธันวาคม 2019 ... ล้อหมุน
แผนแรก ที่วางคือ อยากไป ใส่บาตรข้าวเหนียว ริมกว๊านพะเยา .. ซึ่ง search ดู เค้าจะใส่กันราวๆ 7 โมงเช้า กด GPS ดู ในช่วงปกติ จะต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ดังนั้น ออกจาก ปราจีนบุรี ไม่เกินทุ่ม น่าจะถึงสัก 6 โมงเช้า คิดว่า .. ทัน จากนั้น ขึ้นดอยช้าง หากาแฟกิน ลงมาต่อด้วย พายไร่จริณ แล้วค่อยเข้า check in เข้าที่พัก

แต่แผนสอง ที่วางเผื่อก็คือ ถ้าผมขับไม่ไหว เกิดง่วง หรือ รถติด (เพราะเทศกาล นี่นา) ก็น่าจะได้นอนแถวพิษณุโลก หรือ อุตรดิตถ์ แล้วเช้ามา ค่อยไปวัดพระธาตุสุโทน และ ตัดเข้า check in ที่พักที่เชียงรายเลย

ซึ่งพอเอาเข้าจริง ก็ได้ใช้แผนสอง แหละ ผมล้อหมุนตอน 18.30 น. ตามแผนนะ วิ่งเข้าเมืองปราจีนบุรี – บ้านนา – วิหารแดง ออกพหลโยธิน แล้ววิ่งย้อนกลับไปขึ้น ต่างระดับบางปะอิน (ผมไม่เข้าเส้น นครหลวง ตาม GPS บอก เพราะ สภาพถนนแย่มาก ขนาด CRV ยังเหนื่อย รอบนี้เอา Pulsar ไปด้วย ถ้าไป มีหวังท้องลาย ล่ะครับ ไม่คุ้มกัน)

พอออกพหลโยธินได้ ก็ติดยาวๆ เพราะขาเข้า โดนบังคับให้วิ่งคู่ขนาน แต่ยังไม่ห้ามรถใหญ่วิ่ง รถใหญ่ก็วิ่งขวาไปสิ ติดกันยาวๆ เสียเวลาไป 2 ชั่วโมงกว่าครับ เข้าสายเอเชียได้ ก็ไปตามการจราจร รถเยอะ แต่ไปได้ 90 – 110 กม./ช.ม.ครับ

ถึงนครสวรรค์ ก็วิ่งเข้าเมือง ออกเส้น 117 อาการง่วงก็เริ่มมา เริ่มแวะปั๊ม หา เครื่องดื่มชูกำลังกิน (กินแล้ว สำหรับผม จะไปได้อีกสัก 2 ช.ม.) ก็พอดี หมดฤทธิ์ตอนตี 3 ครึ่ง ถึงพิษณุโลก พอดี แล้วก็หาปั๊ม หามุมมืด ล็อครถ ลดกระจกลงนิดนึง แล้วก็หลับยาวๆไป

28 ธันวาคม 2019 ... วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี / งานดอกไม้สวนตุงและโคม / ถนนคนเดิน
ฟื้นขึ้นมา 6.30น. ก็ล้างหน้า ล้างตา แวะเติมน้ำมัน แล้วไปต่อครับ (การเติมน้ำมัน ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องวางแผน ยิ่งใครใช้รถเล็ก ถังน้ำมันความจุน้อยด้วย ยิ่งต้องวางแผนครับ วางว่า ถังนึงรถเราวิ่งได้กี่กม. แล้วต้องไปเติมที่ไหน วางเป็นกฎเหล็กเลยว่า ถึงที่กำหนดแล้ว ถ้าหาแบรนด์ที่ถูกใจไม่ได้ ยังไงก็ต้องเติม ไม่มีไปลุ้นเอาดาบหน้า แน่นอน

วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
8.00 น. ผมถึงวัดพระธาตุสุโทน ครับ มาเช้าก็ดีไปอย่าง คนน้อยมาก เดินถ่ายรูปสบายเลยครับ

เดินเที่ยว / ไหว้พระเรียบร้อย ก็เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามครับ มีร้านข้าวมันไก่ / ก๋วยเตี๋ยว อยู่ จะได้ไม่ต้องแวะกันอีกครับ (ผมว่า ผมถ่ายรูปอาหารอยู่นะ แต่กลับมาหาไม่เจอ)

อิ่มแล้ว เดินทางกันต่อครับ (ระหว่างเดินทาง การทานอาหาร ควรทานแค่พอไม่ให้หิว ไม่ควรทานจนอิ่ม เพราะจะทำให้ง่วงในขณะขับรถนะครับ) ขับรถย้อนกลับเข้าตัวเมืองแพร่ (101) มุ่งหน้าถึง อ.สอง แล้วเลี้ยวซ้าย (103) มุ่งหน้า อ.งาว ครับ

ถนนช่วงแรก ไม่มีปัญหาครับ เป็น 4 เลนสบายๆไปหลายกม. แล้วจึงเหลือ 2 เลนสวน ซึ่งถนนก็สภาพค่อนข้างดีครับ ในช่วงขึ้นเขา ก็จะมีการแบ่งถนนเป็นขึ้น 2 เลน ลง 1 เลน สลับกันครับ (แต่เจอพวกกระบะป้าย กทม. กับ PPV เอามาตัดเลนตอนเข้าโค้งเล่นกันซะงั้น แถมขับช้าอีก .. ปกติ เส้นนี้ ถ้าไม่ใช่เทศกาล พอถึงช่วงนี้ รถช้าจะหลบให้รถที่เร็วกว่านะ .. ไม่ต้องห่วง ผมจัดการรถพวกนั้นไปละ)

ก่อนออก อ.งาว สัก 5 กม. ถนนเสีย กำลังปรับปรุง ต้องค่อยๆหยอดไปครับ รถเตี้ยๆอย่างผมไปได้ครับ แต่ไม่เร็วนัก ก่อนถึง ม.พะเยา มีกล้องดักความเร็วอยู่ 2 จุดนะ เห็นป้ายกำหนดความเร็วแล้วลดได้เลย ลดไปยาวๆด้วย (เพราะโดนมารอบนึงละ ตรงนี้ ต้องไม่พลาดอีก)

โรงแรมเวียงอินทร์ริเวอร์ไซด์
พอเข้าเขตเชียงราย เลยแยกที่จะไปวัดร่องขุ่นมา Google Map ก็พาออกเส้นบายพาส (131) หนีรถติดครับ ก็ดีครับ โล่งๆ ยาวๆไป โรงแรมจะอยู่เส้นเดียวกับไปวัดห้วยปลากั้งแหละ

ถึงโรงแรมราวๆบ่ายโมงครึ่ง เลยลองเสี่ยง ไปถามว่า check in ได้ก่อนไหม ? … คำตอบคือ “บ่ายสองค่อยมาใหม่” ..  โอเค ไม่ว่ากัน เดินถ่ายรูปรอบๆไปก่อน

ราวๆ 14.30 น. ผมเดินกลับเข้าไป check in  พนง รับเรื่อง แล้วแจ้งให้รอห้องสักครู่ จากนั้นก็รอไปยาวๆ จนบ่ายสามกว่า เดินไปทวงอีกที พนง จึงขึ้นไปตามแม่บ้านบนตึก ถึงได้ check in เข้าห้องครับ !!!

เปิดห้องพักมา ... อ้าว เฮ้ยย ใน agoda ผมระบุขอ double bed นะ ไม่ใช่ twin bed แต่เอาเถอะ ขี้เกียจละ ไม่งั้นก็รออีก ซึ่งจะบอกว่า สภาพห้องรอบนี้แย่มากครับ ประตูตู้เสื้อผ้า ก็จะหลุด ในห้องน้ำสุขภัณฑ์เหลืองตามอายุมาเลย คราบเชื้อราเต็มผนัง แถมด้วย น้ำอุ่นที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น

อาบน้ำพักเหนื่อย แล้วก็ลงมาติดต่อข้างล่าง เพื่อขอรถตู้โรงแรมไปส่งในเมือง (โทร.ถามล่วงหน้าแล้วว่า มีบริการ รอบละ 50 บาท) ปรากฏว่า จ่ายเงินเรียบร้อย ออกตั๋วเรียบร้อย พอยื่นเอกสารให้ bellboy ทาง bellboy ก็เดินมาต่อว่า front ว่า ออกตั๋วได้ยังไง คนขับรถลาหมดเลย !!! (อ้าว เทศกาล แบบนี้ โรงแรมคุณบริหารยังไง ปล่อยให้พนักงานลา ถ้ามีลูกค้าต้องการให้ไปรับสนามบิน ทำไงล่ะนั่น ???)

คงครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆสำหรับโรงแรมนี้ ราคาพันห้า แต่ สภาพเหมือนห้าร้อย

สุดท้ายก็ได้ใช้บริการ Grab Taxi แหละ

งานเชียงรายดอกไม้งาม@สวนตุงและโคม
ผมถึงงานราวๆ 16.00 น.ครับ เนื่องจาก เป็นวันเสาร์ บริเวณหน้าสวนตุงและโคม จึงมีถนนคนเดินพอดีครับ แต่เดี๋ยวเดินเที่ยวในงานก่อน .. รอบนี้ ดูเหงาๆชอบกลแฮะ ดอกไม้สวยใช้ได้นะ แต่ไม่อลังการ เหมือน 3 – 4 ปีก่อนแฮะ คนก็ค่อนข้างน้อยครับ แต่เอาเถอะ สำหรับผม มันคือ ข้อดี เพราะถ่ายรูปสะดวกครับ

จากนั้นก็ ออกไปเดิน หามื้อเย็นทาน ที่ถนนคนเดินด้านหน้า ไล่ยาวไปถึง หอนาฬิกา แล้วย้อนกลับมาที่งานในช่วงค่ำครับ .. ช่วงค่ำคนเริ่มหนาตา แล้วก็เข้าใจละว่า ทำไมคนถึงเยอะช่วงค่ำ เพราะแสงไฟสวยกว่านั่นเอง