สวัสดีครับทุกท่าน ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าถึงสิ่งที่ไปเจอมาแบบไม่น่าประทับใจ......ที่วัดแห่งหนึ่ง จนตอนนี้ก็ยังหยุดคิดถึงเหตุการณ์นี้ไม่ได้
สืบเนื่องจากวันที่ 4 มกราคม 2563 ผมไปรับรถที่โชว์รูมแห่งหนึ่งในเขต กทม โดยไปกับลุง ตรวจสอบสภาพรถก่อนรับ เช็คของแถมเสร็จสรรพ เซลล์ก็ให้พวงมาลัยมาไหว้พระขอพรก่อนขับออกศูนย์ ซึ่งผมก็รับแรถแล้ว ขับรถออกไปเล่นเรื่อยๆเพราะอยากลองรถ (ตื่นเต้น) และไปทางจังหวัด ฉะเชิงเทรา กะจะไปไหว้พระแล้วเจิมรถสักหน่อย ก็ไปถึงวัดแห่งหนึ่ง อยู่กลางทะเลน้ำกร่อย สวยมาก ซึ่งไปไหว้เป็นครั้งที่2
พอทำบุญไหว้พระเสร็จสรรพก็ลงมาถามพระ เกี่ยวกับเรื่องเจิมรถคันใหม่ ได้คำตอบมาว่า ที่นี่มีทำ แต่ไม่แนะนำ เพราะญาติโยมมาทำบุญเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา ให้ไปวัดอื่น.........ผมก็โอเคร ไม่เป็นไรครับ ก็ขับรถออกจากวัด ไม่คิดไรมาก
จากนั้น เปลี่ยนลุงขับ ผมก็มาดูในพันทิบว่า วัดในจังหวัด ชบร...ที่ไหนรับเจิมรถ เอาจริงๆผมก็ไม่ได้อยากเจิมอะไรมากนะคับ ผมเชื่อว่าหากเรามีสติ ไม่ประมาท ก็จะปลอดภัยทุกเส้นทาง แต่นี้ ผู้ใหญ่อยากให้ทำเพื่อความสบายใจ ก็ตามนั้นครับ
ได้ไกด์ไลน์ในพันทิปแล้ว มีแต่คนเชียวัดนี้ๆๆๆ ผมเปิด MAP ดู ก็อยู่ห่างจากที่อยู่ไม่ไกลเลยจากที่ตนเองอยู่ตอนนั้นประมาณ 20 ++กิโล
ก็ไม่ชักช้า รีบบึ่งรถไปวัดดังกล่าวที่เจอ พอไปถึงวัด ก็ไปตามหาพระในวัดนั้น ไปเจอ คุณลุงคุณป้าคู่หนึ่ง ก็ได้เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับการเจิมรถของหลวงพ่อท่านนั้นที่ใครๆในพันทิปก็เชียร์ให้ไปเจิม พอถามได้ความก็บอกว่า โอเครวัดนี้แหละ หลวงพ่อท่านเจอมบ่อย ไปเตรียมพวงมาลัย และทองคำเปลวเต็มแผ่นมา ไปหาซื้อในตัวจังหวัดนะหนู เราก็ขอบคุณลุงป้า และรีบเปิด Google ตามหา ร้านสังฆภัณฑ์ใกล้ฉัน ก็โอเคร ขับรถวนๆไปทางทะเล หลงทางไป สุดท้ายก็เจอ เดชะบุญจริงๆ พอเข้าไปในร้าน บอกขอซื้อทองคำเปลวเต็มแผ่น คนขายก็ อ๋อออออออออออ จะไปเจิมรถ วัดนี้ใช่ไหม หูยยยย คนมาซื้อบ่อย พระรูปนี้ คนนิยมเจิม เราก็โอเคร ดีใจใหญ่ที่มาถูกทาง ตามที่ได้ข้อมูลมา จากนั้นก็ถามเกี่ยวกับที่ขายพวงมาลัย ร้านก็แนะนำ ไปซื้อหน้าศาล เราก็ไปตามหา จนเจอ..............
ได้ทุกอย่างเสร็๋จแล้ว เราก็รีบกลับมาวัดทันที ก็ขับรถเข้าไป แต่ไม่เจอลุงป้าตอนแรกแล้ว เลยขับวนๆไปทางกุฏิ เจอพระ 2 รูป ท่านก็บอกว่า ต้องขับไปกุฏิตรงนั้น หลังนั้น เราก็นมัสการลา แล้วก็ขับไปตรงที่พระชี้ทางให้ พอไปถึง ลุงก็ลงไปก่อน ผมก็กลับรถหันหัวออกมาให้เหมาะสม จะได้เจิมสะดวก คุณลุงก็ไปเรียกขาน ว่า
ลุง: พระอาจารย์อยู่ไหมครับ กราบนมัสการครับท่าน (ได้ยินเสียงตอบรับว่า อะไร เดี่ยว ดังมาก !!!!!!!!!)
เราก็รอเวลาสักพัก แล้วประตูกุฏิก็เปิดออกมา
พระ: มีอะไร มาทำอะไร มีธุระอะไร (ทำหน้าไม่พอใจ) ผมและลุงก็สตั้นกับเสียงคำถาม ลุงก็เลยตอบไปว่า
ลุง : วันนี้จะมาให้พระอาจารย์เจิมรถใหม่ให้ครับ พอดีมาจากกรุงเทพ (ในมือลุงถือพวงมาลัย และทองคำเปลวที่ไปตระเวณหาซื้อมา)
******ลุงยังไม่ทันพูดเสร็จ
พระ: โอ้ย ไม่เอา ออกไปๆๆๆๆๆ กลับไปๆๆๆๆ กลับไปเลย กลับไปก่อน ออกไป แล้วก็เดินหนีเลย (เสียงดุมาก ยังกะเราเป็นผู้ก่อการจะมาเผาวัด)
ในเหตุการณ์เมื่อวานสิ่งที่เจอยังหดหู่ไม่หายเลยครับ) ผมกะลุงสตั้น หน้าจ๋อย หน้าเสีย งงกะเหตุการที่เกิดขึ้น ขับออกจากวัดแบบงงๆ มองหน้ากัน เราทำอะไรผิด ว้อชชชชชชช ไม่ได้ติดใจอะไรนะครับ ถ้าไม่ว่างก็คือบอกไม่ว่างก้ได้ครับ นี่เล่นชักสีหน้า ใส่อารมณ์อินเนอร์ไม่พอใจมาเต็ม..... ไม่น่ามาบวชเลย หดหู่กะเหตุการที่เจอมาก นาทีนั้น เหมือนน้ำตาจะไหล แต่ไม่ออก......... T_T
ความมุ่งมานะ อุตสาหะที่ไปตามซื้อพวงมาลัย ซื้อทองคำมา เป็น 0 ไม่ได้เหนื่อยนะครับ เต็มใจ แต่ งงมาก กะการใช้อารมณ์หงุดหงิดของพระรูปนั้น เป็นถึงท่านเจ้าคุณ เจ้ายศเจ้าอย่าง อยากไล่ใครก็ไล่ อยากรับกิจนิมนต์หรือไม่อยากรับ ก็ตามอารมณ์ งี้หรอครับ............ไม่ว่าจะมาไกลจากไหน กี่ร้ายกี่พันโล จะไปตะเวนตามหาซื้ออะไรมากี่ที่ก็ช่าง ฉันไม่มีอารมณ์ ฉันก็จะไล่หนี้แบบนี้ไม่โอเครครับ
หลังจากนั้น ผมบอกเลย ผมไม่เจิมเลยครับ เอามาลัยเอาที่ซื้อมา ทิ้งให้หมด เสียฤกษ์หมด สู้เดือนหน้าขับรถป้ายแดงไปให้แม่ให้พระในบ้านนั่ง ให้พรเกี่ยวกับการขับรถ รถใหม่ยังจะดีกว่า ที่จะมาศรัทธาพระแบบนี้...........
จากนั้น เราขับรถไปแบนสาง.........ไม่มีอารมณ์ที่จะดูวิวดูอะไร แม้แต่ถ่ายภาพเลยครับ ขับกลับ กทม.แบบความมึนงง เหนื่อยล้า แทนที่จะมีเรื่องดีๆในวันรับรถคันใหม่ แต่มาเจอแบบนี้ ผมเครียดมากเลยครับ ความรู้สึกที่ผิดหวัง มันเป็นแบบนี้.......................
เวลาผ่านไป อาจจะดีขึ้นครับ แต่ให้กลับไปอีก คงไม่ครับ ถ้าจะทำบุญ ผมขอทำกะเด็กกำพร้า ผู้พิการ ผู้ด้วยโอกาสดีกว่าครับ ปกติก็ทำอยู่แล้ว..........
กราบขอบคุณที่ท่านรับฟังผม ขอบพระคุณครับ
เสียความรู้สึกมาก กับพระวัดหนึ่งในจังหวัด ชบร.
สืบเนื่องจากวันที่ 4 มกราคม 2563 ผมไปรับรถที่โชว์รูมแห่งหนึ่งในเขต กทม โดยไปกับลุง ตรวจสอบสภาพรถก่อนรับ เช็คของแถมเสร็จสรรพ เซลล์ก็ให้พวงมาลัยมาไหว้พระขอพรก่อนขับออกศูนย์ ซึ่งผมก็รับแรถแล้ว ขับรถออกไปเล่นเรื่อยๆเพราะอยากลองรถ (ตื่นเต้น) และไปทางจังหวัด ฉะเชิงเทรา กะจะไปไหว้พระแล้วเจิมรถสักหน่อย ก็ไปถึงวัดแห่งหนึ่ง อยู่กลางทะเลน้ำกร่อย สวยมาก ซึ่งไปไหว้เป็นครั้งที่2
พอทำบุญไหว้พระเสร็จสรรพก็ลงมาถามพระ เกี่ยวกับเรื่องเจิมรถคันใหม่ ได้คำตอบมาว่า ที่นี่มีทำ แต่ไม่แนะนำ เพราะญาติโยมมาทำบุญเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา ให้ไปวัดอื่น.........ผมก็โอเคร ไม่เป็นไรครับ ก็ขับรถออกจากวัด ไม่คิดไรมาก
จากนั้น เปลี่ยนลุงขับ ผมก็มาดูในพันทิบว่า วัดในจังหวัด ชบร...ที่ไหนรับเจิมรถ เอาจริงๆผมก็ไม่ได้อยากเจิมอะไรมากนะคับ ผมเชื่อว่าหากเรามีสติ ไม่ประมาท ก็จะปลอดภัยทุกเส้นทาง แต่นี้ ผู้ใหญ่อยากให้ทำเพื่อความสบายใจ ก็ตามนั้นครับ
ได้ไกด์ไลน์ในพันทิปแล้ว มีแต่คนเชียวัดนี้ๆๆๆ ผมเปิด MAP ดู ก็อยู่ห่างจากที่อยู่ไม่ไกลเลยจากที่ตนเองอยู่ตอนนั้นประมาณ 20 ++กิโล
ก็ไม่ชักช้า รีบบึ่งรถไปวัดดังกล่าวที่เจอ พอไปถึงวัด ก็ไปตามหาพระในวัดนั้น ไปเจอ คุณลุงคุณป้าคู่หนึ่ง ก็ได้เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับการเจิมรถของหลวงพ่อท่านนั้นที่ใครๆในพันทิปก็เชียร์ให้ไปเจิม พอถามได้ความก็บอกว่า โอเครวัดนี้แหละ หลวงพ่อท่านเจอมบ่อย ไปเตรียมพวงมาลัย และทองคำเปลวเต็มแผ่นมา ไปหาซื้อในตัวจังหวัดนะหนู เราก็ขอบคุณลุงป้า และรีบเปิด Google ตามหา ร้านสังฆภัณฑ์ใกล้ฉัน ก็โอเคร ขับรถวนๆไปทางทะเล หลงทางไป สุดท้ายก็เจอ เดชะบุญจริงๆ พอเข้าไปในร้าน บอกขอซื้อทองคำเปลวเต็มแผ่น คนขายก็ อ๋อออออออออออ จะไปเจิมรถ วัดนี้ใช่ไหม หูยยยย คนมาซื้อบ่อย พระรูปนี้ คนนิยมเจิม เราก็โอเคร ดีใจใหญ่ที่มาถูกทาง ตามที่ได้ข้อมูลมา จากนั้นก็ถามเกี่ยวกับที่ขายพวงมาลัย ร้านก็แนะนำ ไปซื้อหน้าศาล เราก็ไปตามหา จนเจอ..............
ได้ทุกอย่างเสร็๋จแล้ว เราก็รีบกลับมาวัดทันที ก็ขับรถเข้าไป แต่ไม่เจอลุงป้าตอนแรกแล้ว เลยขับวนๆไปทางกุฏิ เจอพระ 2 รูป ท่านก็บอกว่า ต้องขับไปกุฏิตรงนั้น หลังนั้น เราก็นมัสการลา แล้วก็ขับไปตรงที่พระชี้ทางให้ พอไปถึง ลุงก็ลงไปก่อน ผมก็กลับรถหันหัวออกมาให้เหมาะสม จะได้เจิมสะดวก คุณลุงก็ไปเรียกขาน ว่า
ลุง: พระอาจารย์อยู่ไหมครับ กราบนมัสการครับท่าน (ได้ยินเสียงตอบรับว่า อะไร เดี่ยว ดังมาก !!!!!!!!!)
เราก็รอเวลาสักพัก แล้วประตูกุฏิก็เปิดออกมา
พระ: มีอะไร มาทำอะไร มีธุระอะไร (ทำหน้าไม่พอใจ) ผมและลุงก็สตั้นกับเสียงคำถาม ลุงก็เลยตอบไปว่า
ลุง : วันนี้จะมาให้พระอาจารย์เจิมรถใหม่ให้ครับ พอดีมาจากกรุงเทพ (ในมือลุงถือพวงมาลัย และทองคำเปลวที่ไปตระเวณหาซื้อมา)
******ลุงยังไม่ทันพูดเสร็จ
พระ: โอ้ย ไม่เอา ออกไปๆๆๆๆๆ กลับไปๆๆๆๆ กลับไปเลย กลับไปก่อน ออกไป แล้วก็เดินหนีเลย (เสียงดุมาก ยังกะเราเป็นผู้ก่อการจะมาเผาวัด)
ในเหตุการณ์เมื่อวานสิ่งที่เจอยังหดหู่ไม่หายเลยครับ) ผมกะลุงสตั้น หน้าจ๋อย หน้าเสีย งงกะเหตุการที่เกิดขึ้น ขับออกจากวัดแบบงงๆ มองหน้ากัน เราทำอะไรผิด ว้อชชชชชชช ไม่ได้ติดใจอะไรนะครับ ถ้าไม่ว่างก็คือบอกไม่ว่างก้ได้ครับ นี่เล่นชักสีหน้า ใส่อารมณ์อินเนอร์ไม่พอใจมาเต็ม..... ไม่น่ามาบวชเลย หดหู่กะเหตุการที่เจอมาก นาทีนั้น เหมือนน้ำตาจะไหล แต่ไม่ออก......... T_T
ความมุ่งมานะ อุตสาหะที่ไปตามซื้อพวงมาลัย ซื้อทองคำมา เป็น 0 ไม่ได้เหนื่อยนะครับ เต็มใจ แต่ งงมาก กะการใช้อารมณ์หงุดหงิดของพระรูปนั้น เป็นถึงท่านเจ้าคุณ เจ้ายศเจ้าอย่าง อยากไล่ใครก็ไล่ อยากรับกิจนิมนต์หรือไม่อยากรับ ก็ตามอารมณ์ งี้หรอครับ............ไม่ว่าจะมาไกลจากไหน กี่ร้ายกี่พันโล จะไปตะเวนตามหาซื้ออะไรมากี่ที่ก็ช่าง ฉันไม่มีอารมณ์ ฉันก็จะไล่หนี้แบบนี้ไม่โอเครครับ
หลังจากนั้น ผมบอกเลย ผมไม่เจิมเลยครับ เอามาลัยเอาที่ซื้อมา ทิ้งให้หมด เสียฤกษ์หมด สู้เดือนหน้าขับรถป้ายแดงไปให้แม่ให้พระในบ้านนั่ง ให้พรเกี่ยวกับการขับรถ รถใหม่ยังจะดีกว่า ที่จะมาศรัทธาพระแบบนี้...........
จากนั้น เราขับรถไปแบนสาง.........ไม่มีอารมณ์ที่จะดูวิวดูอะไร แม้แต่ถ่ายภาพเลยครับ ขับกลับ กทม.แบบความมึนงง เหนื่อยล้า แทนที่จะมีเรื่องดีๆในวันรับรถคันใหม่ แต่มาเจอแบบนี้ ผมเครียดมากเลยครับ ความรู้สึกที่ผิดหวัง มันเป็นแบบนี้.......................
เวลาผ่านไป อาจจะดีขึ้นครับ แต่ให้กลับไปอีก คงไม่ครับ ถ้าจะทำบุญ ผมขอทำกะเด็กกำพร้า ผู้พิการ ผู้ด้วยโอกาสดีกว่าครับ ปกติก็ทำอยู่แล้ว..........
กราบขอบคุณที่ท่านรับฟังผม ขอบพระคุณครับ