บันทึกเล็กๆของฉัน : 2 วัน 1 คืน : เป้ 1 ใบ มอไซค์ 1 คัน และแฟน 1 คน : จ.สมุทรสงคราม @อัมพวา

วันหยุดยาวปีนี้จะไปไหนกันดี
“อยากไปพักผ่อนวิวธรรมชาติแบบชิลๆ”
หลังจากพูดจบเราก็แยกกันหาสถานที่และตกลงกันได้ว่าจะไปเที่ยวกันที่ ” อัมพวา ” จ.สมุทรสงคราม เมื่อตกลงกันได้แล้วว่าจะไปเราก็หาที่พักกันทันที อย่างทุกทีเราหาที่พักกันที่แอพ agoda
เราได้ที่พักที่ At Casa Amphawa (แอท คาซา เกสต์เฮาส์ อัมพวา) ค่ะ (ราคาประมาณ 1200 ลดเหลือ 700.-) ห้องธรรมดาชั้น 2 เป็นห้องที่เหลือห้องสุดท้าย ไปถึงห้องไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรเราแค่ใช้นอนเท่านั้น แต่ที่ชอบมากๆคือ มีเฉลียงริมน้ำ และที่พักใกล้ตลาดน้ำค่ะ เดินไปแปปเดียวก็ถึง ^^

ได้เวลาออกเดินทางแล้ว ฮึบ!! เป้ 1ใบ กับ มอไซค์ 1 คัน
เราออกเดินทางกันตอน 9:30น. อากาศวันนี้ถือว่าดีเลยทีเดียวไม่ร้อนและไม่หนาว ระหว่างทางเราแวะพักกันที่อเมซอนในปั้มปตท.ดื่มกาแฟเย็นคนละแก้ว เพราะรู้สึกยังง่วงอยู่นิดหน่อย .zZ

13.00น.มาถึงที่พักแล้ว ^^ สิ่งที่ประทับใจมากคือมันได้บรรยากาศชาวบ้านริมน้ำจริงๆเงียบสงบและไม่วุ่นวาย เรานั่งรอเช็กอินที่เฉลียง ทางที่พักยกน้ำมาต้อนรับเป็นน้ำเก๊กฮวยใส่ขันเงินเล็กๆ น่ารักมากค่ะ 555 เราเช็คอินเสร็จก็เก็บกระเป๋าไว้ที่ห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ พากันเดินไปที่ตลาดวันนี้โชคดีที่คนน้อยและร้านค้าเปิดกันเยอะ 
หลังจากเดินจนทั่วแล้วเราก็แวะที่ร้านนึงในตลาดเป็นร้านอาหาร ร้านนี้เค้ากำหนดให้สั่ง 2 อย่างขึ้นไป วิวดีมากเรานั่งติดริมแม่น้ำเป็นโตะญี่ปุ่นแบบนั่งกับพื้น ราคาอาจจะแรงหน่อยอย่างว่าเพราะมันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย แต่อาหารได้ปริมาณเยอะ และอร่อยมากๆถูกปากเราทั้งคู่เลยทำให้เราไม่ค่อยเสียดายค่าอาหารเท่าไหร่ค่ะ^^ เรา 2 คนเป็นคนตัวเล็ก กินแทบไม่หมดตอนกลางคืนร้านนี้จะมีดนตรีสดด้วย น่าไปนั่งมากแต่เราตั้งใจจะนั่งชิลที่เฉลียงบ้านพักมากกว่า อีกอย่างประหยัดงบด้วย 555
กลับจากเดินตลาดเราก็กลับมานวดกันในที่พัก เรานวดเท้าคนละ 1 ชั่วโมง ราคา 250.- ต่อคนค่ะ เท่าที่ฟังหมอนวดคุยกันคือแต่ละที่พักเค้าจะโทรเรียกหมอนวดมาบริการลูกค้าไม่ได้มีหมอนวดประจำค่ะ ราคาก็อาจแตกต่างกันไปนะคะ
ตกดึกเราไปที่ตลาดเพื่อไปนั่งเรือชมหิ่งห้อย ตอนนั้นประมาณ 6 โมงเกือบ 1 ทุ่ม ค่าโดยสารคนละ 60 บาท ก็ถือว่าคุ้มนะคะ ได้ทั้งร่องเรือทั้งชมหิ่งห้อย บรรยากาศดีมากแต่เสียดายหิ่งห้อยน้อยไปหน่อยอาจจะเพราะเราไปหัวค่ำก็ได้
กลับมาจากชมหิ่งห้อยเราก็พากันไปซื้อของที่ตลาด บรรยากาศคึกคักมากทั้งแสงไฟและเสียงเพลง อากาศเย็นสบาย เราซื้อของกินมา 2-3 อย่างกับเบียร์ 2 ขวด มานั่งดื่มกันที่เฉลียง เปิดเพลงเบาๆนั่งคุยกันพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศโดยรอบ มีความสุขและรู้สึกผ่อนคลายมากๆ ประมาณ 5 ทุ่มเราก็พากันขึ้นไปนอนค่ะ พรุ่งนี้เราจะต้องกลับกันแล้ว T^T
05:40น. เราตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันเพื่อที่จะลงไปตักบาตร ทางที่พักเตรียมของใส่บาตรไว้ให้แล้ว (ต้องแจ้งตอนเช็คอินนะคะว่าเราจะใส่บาตรไหมจะใส่กี่ชุด ค่าของใส่บาตร 60บาท/1ชุด ค่ะ) ที่นี่จะมีพระพายเรือมาบิณฑบาตรด้วย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้ใส่บาตรทางน้ำแบบนี้ ทางที่พักมีอาหารเช้าให้วันนี้มีข้าวมันไก่ ขนมปังปิ้ง ปลาท่องโก๋ กาแฟ โอวัลตินให้เลือก กินเสร็จเราก็ไปเดินดูบรรยากาศตอนเช้าในระแวกที่พัก 1 รอบแล้วกลับไปนอนจนถึง 11:30น. เราก็เช็คเอาท์ออกค่ะ
ต้องกลับแล้วแต่ไหนๆก็มาละ ขากลับขอแวะกันสักหน่อย เราไปกันต่อที่  บ้านสวนพาฝัน  เป็นคาเฟ่ที่รีวิวค่อนข้างเยอะ และสถานที่ในรูปคือน่าไปมาก เราโทรไปจองที่นั่งกันก่อนเพราะเห็นในเพจอัพเดทว่าที่นั่งเต็มบ่อยมาก ทั้งนี้เราไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะนั่งตรงไหน ทางคาเฟ่จะเลือกให้ค่ะ พอไปถึง ทางคาเฟ่ต้อนรับอย่างอบอุ่น บรรยากาศดีจริงๆไม่ผิดกับภาพโปรโมทเลย เราได้ที่นั่งตรงคลองเล็กๆ ถูดใจเราไม่น้อยเลย อาหารอร่อยมากรู้สึกโชคดีกับทริปนี้จริงๆ ที่เจอแต่ของอร่อย 555 ราคาอาหารก็เหงื่อแตกอยู่ค่ะ แต่ก็ยังคุ้มที่แวะมา เราสั่งพิซซ่าแบบบางหน้าแซลม่อนรมควันของขึ้นชื่อของคาเฟ่นี้กับ หมูติดสวนแซ่บ ทั้ง 2 อย่างอร่อยมาก ถ้าไปก็แวะมาที่นี้กันให้ได้นะคะ ^^ (หมูติดสวนแซ่บคืออยากได้ข้าวเหนียวมากจ้า แต่ทางคาเฟ่ไม่มีขาย 555)