ประสบการณ์สอบสัมภาษณ์มหาลัยที่ มจธ. (โดนยำเละ!!!)

วันนี้ขอมาเล่นประสบณ์การสอบสัมภาษณ์มหาลัย มจธ. สดๆร้อนที่ไม่มีวันลืมมหาลัย มจธ. หรือพระจอมเกล้าธนบุรีเป็นมหาลัยที่ผมใฝ่ฝันอยากจะเข้ามานานเนื่องจากเป็นมหาลัยที่ติด Top เรื่องทางด้านวิศวะกรรมผมเรียน ปวช. เเผนกไฟฟ้ากำลังในย่านฝั่งธนเเละวันที่มหาลัยเปิดรับสมัครผมก็ไม่รอช้าที่จะสมัครครับผมสมัครโครงการเรียนดีโดยเกณฑ์การรับสมัครของ ปวช. คือต้องใช้เกรด 5 เทอมเเละต้องไม่ต่ำกว่า 3.00 เกรดของผมถึงตามที่มหาลัยกำหนดเลยสมัครคณะครุศาสตร์ไฟฟ้า (ค.อ.บ) ไปเเต่ใจจริงอยากจะเข้าคณะวิศวะกรรมไฟฟ้ามากกว่าเพราะตรงกับสายที่เราเรียนมาเเต่ปีนี้คณะวิศวะกรรมเขาไม่ได้รับเด็ก ปวช. ผมก็เลยสมัครเป็นคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาเอกไฟฟ้ากำลังที่เลือกสมัครคณะกับสาขานี้เพราะว่าสายนี้ค่อนค้างที่จะเหมือนคณะวิศวะกรรมมากเพิ่มเติมคือวิชาที่เกี่ยวกับครูเท่านั้นเองก็เลยสมัครไปหลังจากที่สมัครไปเเล้วผมก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสัมภาษณ์หาความรู้พื้นฐานที่คาดว่าจะโดนถามในวันสัมภาษณ์มาอย่างดีเพราะรอบที่ผมเข้าเป็นโครงการเรียนซึ่งเราเเค่ไปสอบสัมภาษณ์เเล้วก็รอลุ้นผลเลย ผมเลยมองว่ารอบนี้มันได้เปรียบกว่ารอบอื่นๆ โดยที่รอบอื่นๆต้องมีการสอบข้อเขียนยุ่งยากเเต่รอบของผมคือการณ์สอบสัมภาษณ์อย่างเดียวเลยอยากจะพยายามให้ดีที่สุดผมหาข้อมูลเเละอ่านหนังสืออย่างมากเพื่อที่จะให้สอบสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดีเเละเเล้วก็มาถึงมาสอบสัมภาษณ์ในวันสอบสัมภาษณ์ก็ทั่วๆไปครับไปถึงมหาลัยเซ็นชื่อนั่งรอที่จะสัมภาษณ์เเล้วก็จะมีพวกรุ่นพี่มาเเนะนำมาคุยกับรุ่นน้องไม่ให้ตื่นเต่นเเต่วันสอบสัมภาษณ์ทุกๆคนก็ตื่นเต้นกันหมดเเหละครับรวมถึงผมด้วยรุ่นพี่เขาก็เเนะนำอย่างดีเลยว่า
คณะนี้เปิดรับคนเยอะเเต่มีคนสมัครน้อยคิดว่าคงติดกันทุกคนผมก็คิดว่ามันก็มีโอกาสติดทุกๆคนจริงๆเเหละครับคณะนี้เปิดรับ 15 คน มีคนมาสมัครเเค่ 6 คน (ยังไม่รวม ม.6) จึงทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะสอบติดเเต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอะไรเพราะผมคิดไว้อยู่เเล้วว่ามหาลัยนี้เขาไม่ได้ปล่อยขนาดนั้นเขาก็เลือกเหมือนกันพอได้เวลาสอบสัมภาษณ์ก็จะมีคนเข้าไปทีละคนเเละออกมาเล่าสู่กันฟังให้กับๆเพื่อนที่รอนั่งสอบต่อบางคนก็ออกมากบอกว่าไม่มีอะไรมากคำถามชิวๆมันก็เลยทำให้ผมโล่งใจมาเเละเเล้วก็ถึงตราผมซักที พอเข้าไปเจออาจาร์ 1 ท่านเป็นผู้ชายค่อนข้างมีอายุที่จริงอาจาร์จะมี 2 คนอีกคนนึงเป็นผู้ชายเหมืนกันเเต่อายุน้อยเเต่จังหวะที่ผมเข้าไปสอบอาจาร์เขาออกมาทำธุระอะไรซักอย่างเลยทำให้ผมนั่งต้องสอบสัมภาษณ์กับอาจาร์ที่อายุเยอะเเละเเล้ว
ความยิ้มก็มาเยือนหลังจากที่ผมยื่น portfolio ให้กับอาจาร์เเล้วเขาก้ให้ผมเเนะนำตัวผมก็เเนะนำไป ชื่อ/นามสกุล/อายุ/เรียนที่/คณะ/สาขา จากนั้นพอเเนะนำตัวเสร็จเท่านั้นเเหละอาจารเปิด port ของผมดูเเล้วเห็นชื่อสถาบันที่ผมศึกษาอยู่ถึงกับส่ายหัวเพราะสถาบันที่ผมศึกษาอยู่ค่อนค้างที่จะมีชื่อเสียงทางด้านการตีกัน เเต่ถ้าพูดตามความจริงมันก็มีตีกันทุกสถาบันนั้นเเหละในย่านฝั่งธนไม่มีหรอกที่จะไม่มีตีกันหลังจากนั้นก็ก็เข้าสู่เนื้อหาวิชาการณ์ทันทีโดยที่ไม่ถามเรื่องทั่วๆไปเลยซักคำเเละคำถามที่เขาถามจะเป็นเนื้อหาที่ผมไม่ได้เตรียมมาทั้งนั้นผมตอบไม่ได้ทุกคำถาม (ไม่ได้ทุกคำถาม) ใจตอนนั้นเริ่มหมดไฟทันที เวลาเขาถามอะไรผมตอบไม่ได้ก็จะอ้ำๆอึ้งๆก่อนพอเราไม่รู้จริงๆเดาไปก็เท่านั้นเลยยบอกไปว่า ไม่ทราบครับ ผมไม่รู้คำตอบนั้นจริงๆครับ จนเขาบอกว่าไม่ไหวให้ผมสมัครรอบหน้าเเทนเเล้วกัน เเล้วก็จบการสัมภาษณ์ของผม ผมเดินมาคอตกคิดในใจเห้ยทำไมคนที่ออกมาเล่าให้ฟังมันเป็นอีกอย่างเเต่พอผมเข้าไปทำไมโหดจังไม่มีคำถามทั่วๆไปเลยไปถึงก็ยำรวมมิตรผมเลย งงเลยทำไรไม่ถูกเเล้วก็มีรุ่นพี่พยายามบอกว่าไม่ต้องเครียดพวกพี่ก็ตอบไม่ได้ทุกคำ
ถามนั้นเเหละก็เขาก็ให้ผ่านมันเหมือนกับเขากดดันเราเฉยๆไม่มีอะไรมากผ่านเเน่นอนผมก็คิดเป็น 2 มุมเเละมุมนึงมองว่ายังไงผมก็ไม่ผ่าน 100% เพราะผมตอบไม่ได้ทุกคำถามโดนกดดันมาเเบบไม่รู้จะทำยังไงหน้าเสียมากเเต่อีกมุมนึงก็คิดว่าถ้าเป็นอย่างที่รุ่นพี่พูดจริงๆมันก็ดีดิเเต่โอกาสไม่จะไม่ติดก้มีมากเเละนี่ก็คือทั้งหมดครับอยากให้เพื่อนคอมเม้นถึงเรื่องราวนี้หน่อยครับว่าคิดยังไงกับเรื่องราวนี้ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่