สมัยหลังแฮมเบอร์เกอร์ไครซิสมีคนออกสื่อมากมาย เขียนหนังสือเกี่ยวกับความสำเร็จในการเล่นหุ้น เช่น จาก10,000 เป็น 1,000,000 ง่ายนิดเดียว
ทำให้พี่แจ้เสพแล้วเดลิ้มเข้ามาวงการคิดว่าจะเป็นอย่างเขาบ้าง ปรากฎว่าดอยตั้งแต่แรกเข้า
หุ้นตัวแรกๆก็ Lhbank ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น LHFG ราคาซื้อ 1.44 บาท/หุ้น ตอนนี้ 1.37 บาท
ตอนแรกๆก็ตะลุยซื้อเอาปริมาณ เพราะเงินน้อยชอบหุ้นไม่เกิน 5 บาท ส่วนใหญ่จะดอย ดอยแล้วคัท
ทำไมไม่เป็นเหมือนเทพนิยายที่เสพมาจากเหล่าผู้กล้าน้อ...ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละคร ในตลาดหุ้น
นิยายแนว ViVi
พิ้นถัน เทตนิค กราฟ อินดี้ วงนอก วงในก็พยายามศึกษา นับคลื่น ฟิโบ ก็พยายามศึกษา
แต่ก็ได้ น้ำเต้าปูๆปลา ก็เลยไม่มุ่งมั่นเอาแค่มีวิชาพอรู้
พอดีได้ดูคลิปของชาว VI มันถูกจริต
นิยายแนว VI
และนวนิยายแนวปรมจารย์ VI แนวอินเดียน่าเต่าวีไอ
และพอดีมีสายมโนและชาวสวนมาโลดแล่นในพันทิพย์ก็เลย Copy and Paste เอามาเป็นเคล็ดวิชา
สมัยเข้าตลาดใหม่ๆ ปู โลละ 700 บาท เป็นของนักลงทุนต้องมี บางคนว่าปูจะขึ้นโลละ 1000 บาท
หลังปู แยกร่างจาก 1 ตัว เป็น 10 ตัว ราคาก็ดิ่งลงทู๊กวัน นิยายปูพลิกชีวิต พระเอกตายตอนจบ
ก็ได้แนวคิดสำหรับชาวสวนว่า
>>>จะไม่ไปตะลุมบอนกับหุ้นฮอทฮิต หุ้นที่ดูดีทุกอย่าง มีสตอรีวาบหวิว ราคาเด้งขึ้นชูชัน
เพราะสุดท้ายพระเอกจะตายตอนจบ เพราะกำกับโดยเจ้ามือ
>>> จะหาหุ้นที่คนไม่สนใจราคานิ่งๆ ธุรกิจกำไรสม่ำเสมอ มีโครงการใหม่ๆ ผู้บริหารดูไม่เจ้าเล่ห์
ถ้าเป็นหุ้นที่บริหารโดยลูกจ้างมืออาชีพ ไม่ใช่เจ้าของบริหารเองจะพิจารณาเป็นพิเศษ
เพราะเจ้าของบริหารเองก็จะมีแทคติกมากมาย ส่วนลูกจ้างบริหารจะมีการตรวจสอบเข้มงวดกว่าเจ้าของบริหาร
ถ้าเป็นนิยายก็ พจมาน สว่างวงษ์ เป็นหุ้นนอกสายตาน่าสะสม
ตอนเข้ามาใหม่ๆ คนไม่สนใจ ตอนนี้แหละน่าซื้อสุดๆ จะไปซื้อตอนเปิดพินัยกรรมได้เป็นเจ้าของบ้านทรายทอง
ราคามันก็ไปไกลแล้ว เหมือนหุ้นโรงไฟฟ้าใหม่ๆ มีคนพูดถึงกันน้อยราคาพอซื้อได้ ตอนนี้ค่าไฟแพงทุกตัวซื้อแล้วอาจโดนไฟซ๊อต
>>> หลักการง่ายๆของชาวสวน ล็อคเป้าหุ้นที่สนใจไว้ ขาขึ้นเราก็นั่งทับมือไม่ซื้อ แน่นอนละครับ
มันต้องมีช่วงลง อาจเกิดจากเจ้าทุบ เศรษฐกิจซบเซา บริหารผิดพลาด ราคาดิ่ง ก็ค่อยๆซื้อ
อย่าหักโหม เพราะขาลงมันยาวนานมากอาจเกิน 1 ปี ไม่มีใครรู้ว่าก้นเหวอยู่ตรงไหน เลยอย่ารีบซื้อ
เพราะคิดว่าถูก ยังมีถูกกว่า ค่อยๆตอดเหมือนปลาแขยง อย่าฮุบเหยื่อครั้งเดียวเหมือนปลาชะโด อาจถูกเจ้าจับกิน
ระหว่างนั้นดูผลประกอบการ 3 ไตรมาส ถ้าไม่ดีขึ้น ก็ควรเผ่นพันลี้ ยอมเจ็บตัว ไปหาหุ้นตัวใหม่แทนชีวิตจะได้ไม่เครียดมาก
สรุป สำหรับตลาดหุ้นแล้ว สิ่งที่คิด กับความจริง มันต่างกัน น่ะนะ
สบายดี....
#### ที่สุดของของนักลงทุนแห่งสยาม #### เทพนิยายของตลาดหุ้น
ทำให้พี่แจ้เสพแล้วเดลิ้มเข้ามาวงการคิดว่าจะเป็นอย่างเขาบ้าง ปรากฎว่าดอยตั้งแต่แรกเข้า
หุ้นตัวแรกๆก็ Lhbank ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น LHFG ราคาซื้อ 1.44 บาท/หุ้น ตอนนี้ 1.37 บาท
ตอนแรกๆก็ตะลุยซื้อเอาปริมาณ เพราะเงินน้อยชอบหุ้นไม่เกิน 5 บาท ส่วนใหญ่จะดอย ดอยแล้วคัท
ทำไมไม่เป็นเหมือนเทพนิยายที่เสพมาจากเหล่าผู้กล้าน้อ...ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละคร ในตลาดหุ้น
นิยายแนว ViVi
พิ้นถัน เทตนิค กราฟ อินดี้ วงนอก วงในก็พยายามศึกษา นับคลื่น ฟิโบ ก็พยายามศึกษา
แต่ก็ได้ น้ำเต้าปูๆปลา ก็เลยไม่มุ่งมั่นเอาแค่มีวิชาพอรู้
พอดีได้ดูคลิปของชาว VI มันถูกจริต
นิยายแนว VI
และนวนิยายแนวปรมจารย์ VI แนวอินเดียน่าเต่าวีไอ
และพอดีมีสายมโนและชาวสวนมาโลดแล่นในพันทิพย์ก็เลย Copy and Paste เอามาเป็นเคล็ดวิชา
สมัยเข้าตลาดใหม่ๆ ปู โลละ 700 บาท เป็นของนักลงทุนต้องมี บางคนว่าปูจะขึ้นโลละ 1000 บาท
หลังปู แยกร่างจาก 1 ตัว เป็น 10 ตัว ราคาก็ดิ่งลงทู๊กวัน นิยายปูพลิกชีวิต พระเอกตายตอนจบ
ก็ได้แนวคิดสำหรับชาวสวนว่า
>>>จะไม่ไปตะลุมบอนกับหุ้นฮอทฮิต หุ้นที่ดูดีทุกอย่าง มีสตอรีวาบหวิว ราคาเด้งขึ้นชูชัน
เพราะสุดท้ายพระเอกจะตายตอนจบ เพราะกำกับโดยเจ้ามือ
>>> จะหาหุ้นที่คนไม่สนใจราคานิ่งๆ ธุรกิจกำไรสม่ำเสมอ มีโครงการใหม่ๆ ผู้บริหารดูไม่เจ้าเล่ห์
ถ้าเป็นหุ้นที่บริหารโดยลูกจ้างมืออาชีพ ไม่ใช่เจ้าของบริหารเองจะพิจารณาเป็นพิเศษ
เพราะเจ้าของบริหารเองก็จะมีแทคติกมากมาย ส่วนลูกจ้างบริหารจะมีการตรวจสอบเข้มงวดกว่าเจ้าของบริหาร
ถ้าเป็นนิยายก็ พจมาน สว่างวงษ์ เป็นหุ้นนอกสายตาน่าสะสม
ตอนเข้ามาใหม่ๆ คนไม่สนใจ ตอนนี้แหละน่าซื้อสุดๆ จะไปซื้อตอนเปิดพินัยกรรมได้เป็นเจ้าของบ้านทรายทอง
ราคามันก็ไปไกลแล้ว เหมือนหุ้นโรงไฟฟ้าใหม่ๆ มีคนพูดถึงกันน้อยราคาพอซื้อได้ ตอนนี้ค่าไฟแพงทุกตัวซื้อแล้วอาจโดนไฟซ๊อต
>>> หลักการง่ายๆของชาวสวน ล็อคเป้าหุ้นที่สนใจไว้ ขาขึ้นเราก็นั่งทับมือไม่ซื้อ แน่นอนละครับ
มันต้องมีช่วงลง อาจเกิดจากเจ้าทุบ เศรษฐกิจซบเซา บริหารผิดพลาด ราคาดิ่ง ก็ค่อยๆซื้อ
อย่าหักโหม เพราะขาลงมันยาวนานมากอาจเกิน 1 ปี ไม่มีใครรู้ว่าก้นเหวอยู่ตรงไหน เลยอย่ารีบซื้อ
เพราะคิดว่าถูก ยังมีถูกกว่า ค่อยๆตอดเหมือนปลาแขยง อย่าฮุบเหยื่อครั้งเดียวเหมือนปลาชะโด อาจถูกเจ้าจับกิน
ระหว่างนั้นดูผลประกอบการ 3 ไตรมาส ถ้าไม่ดีขึ้น ก็ควรเผ่นพันลี้ ยอมเจ็บตัว ไปหาหุ้นตัวใหม่แทนชีวิตจะได้ไม่เครียดมาก
สรุป สำหรับตลาดหุ้นแล้ว สิ่งที่คิด กับความจริง มันต่างกัน น่ะนะ
สบายดี....