คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก กระทู้นี้ถูกลบโดยระบบอัตโนมัติทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการสนทนา ของเพื่อนสมาชิกโดยรวมค่ะ
ความคิดเห็นนี้ได้ถูก Pantip.com ลบออกไปจากระบบแล้ว หากเนื้อหาที่ถูกลบยังคงถูกนำไปแสดงใน application หรือเว็บไซต์ใดๆ
ทาง Pantip.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วย การดำเนินการทางกฎหมายกรุณาติดต่อผู้พัฒนา application หรือเว็บไซต์นั้นๆโดยตรงค่ะ
ทาง Pantip.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วย การดำเนินการทางกฎหมายกรุณาติดต่อผู้พัฒนา application หรือเว็บไซต์นั้นๆโดยตรงค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
คนกลางคือนางแย้มแต่งกายแบบชาวล้านนาหรือไทยวน คนขวาคือนางจวงแต่งกายแบบไทยภาคกลางครับ
อ้างอิงจากหนังสือบุพเพสันนิวาส ไม่ได้ระบุว่าการะเกดและบ่าวคือนางผิน นางแย้ม แต่งกายอย่างชาวล้านนา แต่เข้าใจว่าทีมสร้างละครได้ไอเดียมาจากนิยายที่ระบุว่า แม่หญิงการะเกดเป็นธิดาของพระยารามณรงค์แห่งเมืองพิษณุโลกสองแคว โดยพระยารามณรงค์มีแม่เป็นคนล้านนา ทำให้การะเกดมีเชื้อสายล้านนาจากย่า เลยต้องการจะสื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าการะเกดมีเชื้อสายล้านนา ด้วยการให้การกะเกดตอนเดินทางมากรุงศรีอยุทธยาใหม่ๆ รวมถึงบ่าวไพร่คือนางผิน นางแย้ม แต่งกายแบบล้านนาด้วย (แต่ก็มีส่วนผสมของภาคกลางตอนบนเข้าไปด้วยคือบางตอนนุ่งซิ่นตีนจกของเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสุโขทัยเดิมเช่นเดียวกับพิษณุโลก)
อย่างไรก็ตาม พิษณุโลกเป็นหัวเมืองชั้นเอกในปกครองของกรุงศรีอยุทธยาโดยตรงมายาวนาน แม้จะอยู่ห่างไกลออกไปทางเหนือ แต่น่าจะมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยสยามภาคกลางมากกว่าล้านนาที่ถูกคนไทยสยามในสมัยโบราณเรียกว่าเป็น "ลาว" (แต่ล้านนาไม่เรียกตนเองว่าลาว เรียกตนเองว่า ไท/ไทย เหมือนคนสยาม) การที่ลูกสาวข้าราชการผู้ใหญ่ของกรุงอยุทธยาอย่างเจ้าเมืองพิษณุโลกจะแต่งตัวเป็น "ลาว" แบบชัดเจนก็ดูจะแปลกพอสมควร หากยังอยู๋ในเมืองเหนือก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่อยุทธยาโดยแต่งกายสภาพนั้นแล้ว ก็อาจจะถูกคนอยุทธยามองว่าเป็นพวก "ลาว" ที่แปลกแยกจากคนอยุทธยาทั่วไปด้วย
สำหรับนางผิน นางแย้ม ถ้าจะอธิบายว่าเป็นชาวล้านนาในเมืองพิษณุโลกจึงแต่งกายแบบชาวล้านนาก็อาจจะไม่แปลกประหลาดนัก แต่นอกจากการแต่งกายแล้วก็ไม่มีอะไรสื่อถึงความเป็นล้านนาเลย สำเนียงการพูดก็เป็นคนไทยภาคกลางแบบชัดเจนครับ
รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ แม่หญิงการะเกด ผู้แต่งกายอย่าง “ลาว” ครับ
https://www.facebook.com/WipakHistory/posts/1686718611391602/
นางจวง ไว้ผมสั้น ห่มผ้าแถบ นุ่งโจงกระเบน ซึ่งเป็นการแต่งกายทั่วไปของคนไทยภาคกลางสมัยโบราณ โจงกระเบนเป็นเครื่องแต่งกายที่พบในวัฒนธรรมขอม-เขมร มาจากภาษาเขมรคือ จงกฺบิน (อ่านว่า จอง-เกฺบิน) จง (อ่านว่า จอง) แปลว่าผูก กฺบิน (อ่านว่า เกฺบิน) เป็นคำเรียกชายของผ้านุ่งที่ม้วนขึ้นไปเหน็บไว้ข้างหลัง มีการสันนิษฐานว่ามาจากการนุ่งผ้าแบบอินเดียเรียกว่า โธตี (Dhoti) ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมในหลายภูมิภาคทั้งในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ
การะเกด ห่มสไบเฉียง นุ่งผ้านุ่งจับจีบหน้านาง เป็นการแต่งกายทั่วไปของคนไทยภาคกลางสมัยโบราณ แต่เป็นทางการมากกว่า การห่มผ้าเบี่ยงคลุมไหล่แบบสไบนี้พบในหลายวัฒนธรรม ทั้งไทยสยาม มอญ ล้านนา ล้านช้าง เขมรยุคหลังๆ ปรากฏเก่าที่สุดในประเทศไทยพบตั้งแต่วัฒนธรรมทวารวดี ดังที่ปรากฏภาพปูนปั้นนักดนตรีหญิงที่โบราณสถานเมืองคูบัวห่มผ้าเบี่ยงคลุมไหล่ จึงเข้าใจว่าเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายในภูมิภาคนี้มาตั้งแต่โบราณแล้วครับ มีการสันนิษฐานว่าได้รับมาจากอินเดียเช่นเดียวกัน
อ้างอิงจากหนังสือบุพเพสันนิวาส ไม่ได้ระบุว่าการะเกดและบ่าวคือนางผิน นางแย้ม แต่งกายอย่างชาวล้านนา แต่เข้าใจว่าทีมสร้างละครได้ไอเดียมาจากนิยายที่ระบุว่า แม่หญิงการะเกดเป็นธิดาของพระยารามณรงค์แห่งเมืองพิษณุโลกสองแคว โดยพระยารามณรงค์มีแม่เป็นคนล้านนา ทำให้การะเกดมีเชื้อสายล้านนาจากย่า เลยต้องการจะสื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าการะเกดมีเชื้อสายล้านนา ด้วยการให้การกะเกดตอนเดินทางมากรุงศรีอยุทธยาใหม่ๆ รวมถึงบ่าวไพร่คือนางผิน นางแย้ม แต่งกายแบบล้านนาด้วย (แต่ก็มีส่วนผสมของภาคกลางตอนบนเข้าไปด้วยคือบางตอนนุ่งซิ่นตีนจกของเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสุโขทัยเดิมเช่นเดียวกับพิษณุโลก)
อย่างไรก็ตาม พิษณุโลกเป็นหัวเมืองชั้นเอกในปกครองของกรุงศรีอยุทธยาโดยตรงมายาวนาน แม้จะอยู่ห่างไกลออกไปทางเหนือ แต่น่าจะมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยสยามภาคกลางมากกว่าล้านนาที่ถูกคนไทยสยามในสมัยโบราณเรียกว่าเป็น "ลาว" (แต่ล้านนาไม่เรียกตนเองว่าลาว เรียกตนเองว่า ไท/ไทย เหมือนคนสยาม) การที่ลูกสาวข้าราชการผู้ใหญ่ของกรุงอยุทธยาอย่างเจ้าเมืองพิษณุโลกจะแต่งตัวเป็น "ลาว" แบบชัดเจนก็ดูจะแปลกพอสมควร หากยังอยู๋ในเมืองเหนือก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่อยุทธยาโดยแต่งกายสภาพนั้นแล้ว ก็อาจจะถูกคนอยุทธยามองว่าเป็นพวก "ลาว" ที่แปลกแยกจากคนอยุทธยาทั่วไปด้วย
สำหรับนางผิน นางแย้ม ถ้าจะอธิบายว่าเป็นชาวล้านนาในเมืองพิษณุโลกจึงแต่งกายแบบชาวล้านนาก็อาจจะไม่แปลกประหลาดนัก แต่นอกจากการแต่งกายแล้วก็ไม่มีอะไรสื่อถึงความเป็นล้านนาเลย สำเนียงการพูดก็เป็นคนไทยภาคกลางแบบชัดเจนครับ
รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ แม่หญิงการะเกด ผู้แต่งกายอย่าง “ลาว” ครับ
https://www.facebook.com/WipakHistory/posts/1686718611391602/
นางจวง ไว้ผมสั้น ห่มผ้าแถบ นุ่งโจงกระเบน ซึ่งเป็นการแต่งกายทั่วไปของคนไทยภาคกลางสมัยโบราณ โจงกระเบนเป็นเครื่องแต่งกายที่พบในวัฒนธรรมขอม-เขมร มาจากภาษาเขมรคือ จงกฺบิน (อ่านว่า จอง-เกฺบิน) จง (อ่านว่า จอง) แปลว่าผูก กฺบิน (อ่านว่า เกฺบิน) เป็นคำเรียกชายของผ้านุ่งที่ม้วนขึ้นไปเหน็บไว้ข้างหลัง มีการสันนิษฐานว่ามาจากการนุ่งผ้าแบบอินเดียเรียกว่า โธตี (Dhoti) ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมในหลายภูมิภาคทั้งในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ
การะเกด ห่มสไบเฉียง นุ่งผ้านุ่งจับจีบหน้านาง เป็นการแต่งกายทั่วไปของคนไทยภาคกลางสมัยโบราณ แต่เป็นทางการมากกว่า การห่มผ้าเบี่ยงคลุมไหล่แบบสไบนี้พบในหลายวัฒนธรรม ทั้งไทยสยาม มอญ ล้านนา ล้านช้าง เขมรยุคหลังๆ ปรากฏเก่าที่สุดในประเทศไทยพบตั้งแต่วัฒนธรรมทวารวดี ดังที่ปรากฏภาพปูนปั้นนักดนตรีหญิงที่โบราณสถานเมืองคูบัวห่มผ้าเบี่ยงคลุมไหล่ จึงเข้าใจว่าเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายในภูมิภาคนี้มาตั้งแต่โบราณแล้วครับ มีการสันนิษฐานว่าได้รับมาจากอินเดียเช่นเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งดูบุพเพสันนิวาสมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเสื้อผ้าของข้าบริวารในเรื่อง?