สวัสดีค่ะ เราแค่อยากมาระบาย เราไม่รู้จะคุยเรื่องนี้กับใคร ไม่อยากให้คนรอบข้างกังวล
แม่เราเสียไปจะครบสามปีแล้วค่ะ
แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม่สู้มากๆค่ะ ก่อนจาก เราได้ทำอะไรหลายอย่างเพื่อแม่ มีทั้งทุกข์และสุข เราจะขอระบายเรื่องในใจเป็นลำดับไป
ครั้งแรกที่รู้ว่าแม่เป็น ตอนนั้นอยู่ช่วงม.ปลายค่ะ เราจำไม่ได้หมด แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือ จะทำยังไงให้แม่หาย เรายังมีความหวังว่าแม่จะหาย เราอ่านบทความ ข่าวๆต่างๆเรื่องคนที่เป็นแล้วหาย ก็พยายามสรรหาให้แม่กิน หวังว่าแม่จะดีขึ้น แต่ก็ไม่ดีขึ้น จริงๆเราคิดว่าเป็นเพราะเราค่ะ ตอนนั้นเราพลาดท้องกับแฟนเก่า เรายังเรียนไม่จบ แม่รู้เรื่อง จำได้เลยค่ะ แม่ร้องไห้ เราทำแม่ร้องไห้ มันเจ็บจริงๆค่ะ แต่สุดท้ายท้องได้เข้าเดือน 4 เราแท้งค่ะ เสียในครรภ์ คงเพราะเราดูแลตัวเองไม่ดี เราเครียดมากๆ ดรอปเรียน ทำงานเซเว่น ที่ทำงานดูแลดี ไม่ได้ให้ทำงานหนัก แต่เราไม่ชอบกลับบ้าน เรากลับไปก็นอนไม่หลับ ช่วงนั้นเราเลิกกับแฟนคนที่เราท้องด้วย ค่ะ เลิกกันแย่มาก แม่เราร้องไห้เพราะเราอีกแล้ว เราทำแม่เครียดมาก ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงจริงๆค่ะ ผ่านไปไม่กี่เดือน เราไม่ดูแลตัวเอง มันนอนไม่หลับ มันเครียด สุดท้าย ลูกหัวใจหยุดเต้น ตอนนั้นจำได้ว่าเรานอนร้องไห้บนเตียงอัลตราซาวด์ มันเสียใจ ปนดีใจเล็กๆ ดีใจที่เราจะกลับไปเรียนได้แล้ว เสียใจที่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เรามันแย่มากๆ ตอนเดินออกจากโรงพยาบาล คนแรกที่เราโทรหาคือแม่ แม่บอกว่า ดีแล้ว เราจะได้กลับไปเรียนหนังสือ หลังจากนั้น เรากลับมาเรียน ทำงาน แบ่งเงินให้แม่ ให้ที่บ้าน จ่ายค่าเทอม ค่าเรียน ไม่พอหรอกค่ะ พาร์ทไทม์ เงินเดือนยังไม่ถึง 7000 เลย ทุกครั้งที่แม่ไปหาหมอ จะเสียเงินราวๆสองพัน (นอกเหนือจากบัตร30บาท) เราก็จะพยายามหา เบิกเงิน ยืมเงิน ช่วยแม่ ทุกครั้งที่แม่ขอ เพราะลำพังแฟนแม่จ่ายคนเดียวไม่ไหว เราก็พยายามหามาให้ โชคดีตอนน้นได้เจ้านายดีค่ะ เขาเข้าใจ เขาช่วย แต่เบิกจริงๆ เงินเดือนเหลือไม่เท่าไหร่ ไม่เคยพอ มีครั้งนึงตอนนั้นแม่ต้องใช้เงินไปหาหมออีก ซึ่งแฟนแม่ไม่มี เราตัดสินใจไปรับงาน เราจำความรู้สึกนั้นได้ เรารู้สึกตัวเองไร้ค่า แต่ไม่เป็นไร เราจะอดทนผ่ายเวลานี้ไปให้ได้ สู้นะ เราบอกตัวเอง เสร็จจากงานนั้น เรากำเงินมาวางให้แม่ที่หัวเตียง แล้วเดินขึ้นห้องไปร้องไห้ ไม่ค่ะ เราไม่เคยโกรธแม่เลย เราเกลียดตัวเองด้วยซ้ำ ถ้าขยันกว่านี้ ถ้าอดออมกว่านี้ เราต้องดูแลแม่ให้ดีกว่านี้ นี่อะไร แม่ป่วย ยังต้องลำบากอีก เมื่อไหร่จะเรียนจบได้ทำงานเต็มที่ จะทันวันนั้นมั้ย กลัวแม่ไม่อยู่จัง...
ขอเล่าย้อนไปตอนเด็กนะคะ เราผูกพันธ์กับแม่มากๆ ตอนเด็กเราติดแม่ เลิกเรียนก็กลับบ้าน แม่ไปขายของตอนกลางคืน ตอนนั้นเราทำงานพาทไทม์ น่าจะ16 17 เพราะเราได้วุฒิก็ไปสมัครงานเสิร์ฟที่ห้างเลย เลิกงานสี่ทุ่ม เราก็นั่งรถไปช่วยแม่ขายของ จนตีสาม เราก็นอนที่แผง ตี5ก็เก็บของกลับ มานอนที่บ้านต่อจนเจ็ดโมงเช้าเราก็ตื่นไปเรียน จริงๆ เราไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ แต่ความเป็นห่วงอ่ะเนอะ เราห่วงเห็นแม่ไปคนเดียว อยู่ร้านคนเดียว เราทนได้น่ะ แค่นอนน้อยลง ไปอาศัยหลับที่ห้องเรียนก็ได้ จนหลายๆอย่าง ตรวจพบแม่เป็นมะเร็ง แล้วมาเกิดเหตุการณ์เราท้องขึ้นตอนนั้น แล้วมาแท้งอีก เป็นปีที่หนักมากๆสำหรับเด็กคนหนึ่งเลยค่ะ
เราไม่มีพ่อนะคะ ทิ้งไปตั้งแต่เราอยู่ในท้องแล้ว เคยมาง้อตอนเราเด็กมากๆ แต่ความใจแข็งของแม่ และความเด็ดเดี่ยวของตา หลานตาๆเลี้ยงเองได้ เราจึงโตมาได้ทุกวันนี้ ไม่เคยโหยหาพ่อ เพราะพอกับความรักของตาและแม่แล้ว
ในตอนที่แม่ยังอยู่ แม่ผ่าตัดใหญ่หลายครั้ง ทุกครั้งที่กลับจากโรงพยาบาล(เราไปด้วยบางครั้ง แม่ไปเช้ามาก ไปกับแฟนแม่ แล้วเราติดเรียนติดงานค่ะ) เราจะถามแม่ตลอด หมอว่าไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย หวังในใจทุกครั้ง หมอเอาใจช่วยแม่ขนาดนี้ ต้องดีขึ้นสิ แต่แม่ก็ได้แต่บอกว่า ต้องรอดูตอบสนองยาดีแค่ไหน ซึ่งเราก็เห็นแม่ปวดประจำ แม่จะมียาแก้ปวดแบบแรงติดตัวไว้เลยค่ะ ทุกครั้งที่แม่เจ็บ เรารู้ เราได้แต่เอาใจช่วย ขอให้แม่หายนะ ขอให้แม่ดีขึ้น ใครก็ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ได้ ช่วยแม่ที... มีครั้งนึง เป็นภาพในความทรงจำที่จำได้แม่น มะเร็งลามไปที่กระดูกก้นกบ มดลูก แม่ต้องตัดออก วันที่เราไปหาหลังออกจากห้องผ่าตัด เห็นแม่นอนให้ออกซิเจน ได้แต่ยืนกัดฟัน ไม่นะ อย่าร้อง อย่าให้แม่เห็นน้ำตานะ อดทนไว้ เราเดินไปจับมือแม่ พูดไม่ออก แกนี่ร้ายนะเจ้ามะเร็ว จะทำร้ายแม่เราไปถึงไหน เราจูบที่เท้าแม่ แล้วรีบเดินออกไป น้ำตามันไหล ได้แต่อดไว้ กลับไปร้องที่ห้องนะ
วันปีใหม่วันนั้น ครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่กับแม่ เรากลับจากบ้านเพื่อน ไปโรงพยาบาลตอนเช้า นั่งคุยกับแม่สักพัก เราก็หลับ อยู่บนเตียงแม่ รอจนกระทั่งแฟนแม่มา ก็กลับ ตอนนั้นหมอไม่ยอมให้กลับ เพราะอาการยังไม่ดีขึ้น แต่ในใจมันสังหรณ์แล้วแหละค่ะ อะไรก็ช่าง กลับบ้านดีกว่านะแม่ ไปอยู่บ้านกัน... และวันนั้นก็มาถึง เสียงโทรศัพท์จากโรงพยาบาลถึงพ่อเลี้ยง....
'หมอบอกให้ทำใจไว้นะ แม่เริ่มไม่รู้สึกตัว คุยไม่รู้เรื่องแล้ว' เราทรุด ใส่เสื้อผ้าเตรียมจะออก แต่น้องชายดึงไว้ บอกให้ใจเย็นๆ พรุ่งนี้เช้ามืดเราจะรีบไป เราได้แต่นอนเอาหน้ากดหมอน ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้... แม่อย่าทิ้งหนูไปนะ...แม่...
เช้าวันนั้นยังจำได้ดี ไปถึง น้ำตามากมายร่วงเผาะ ร้องไห้ไม่รู้จะร้องยังไง แม่ไม่รู้สึกตัว แต่หัวใจยังเต้นอยู่ ตื่นสิแม่ ตื่นมาคุยกับหนูก่อน...และวันนั้นแม่ก็เสีย...
ลืมเล่าไปช่วงหนึ่ง... ก่อนหน้าแม่เสียได้ 2-3 เดือน เราไปบวชที่วัดแถวสนามหลวงมา ถือศีล 8 วันนั้นก่อนไปแม่บอกว่า ขอผลบุญที่หนูบวชนี้ ให้แม่ไปแบบไม่ทรมานนะ... ชุดที่ใส่วันสวด วันเผา คือชุดขาวที่เราไปบวชเองค่ะ
สามปีแล้วนะแม่ ทุกครั้งที่หนูคิด หนูเจ็บเหลือเกิน มาวันนี้ชีวิตหนูสบาย หนูเจอคนที่ดี หนูมีงานที่ดี ทำไมหนูถึงดูแลแม่ไม่ได้แล้ว แม่รู้มั้ยหนูยอมแลกทุกอย่างในชีวิต เพื่อให้ดูแลแม่อีกครั้ง หนูไม่กล้าเล่าให้แฟนฟัง เพราะทุกครั้งที่เผลอเล่า เขาจะเศร้า หนุจะร้องไห้เหมือนเด็ก เหมือนตอนนี้เลย หนูได้แต่บอกคนที่หนูรู้จัก ให้เขาดูแลแม่ให้ดี ดูอย่างเราสิ แม่ไม่อยู่แล้ว อยากดูแลแทบตายก็ทำไม่ได้ หนูคิดถึงแม่เหลือเกิน ทำไมหนูเข้มแข็งไม่ได้สักทีคะ...
แผลลึก คิดว่าคงเหลือแต่แผลเป็น สุดท้ายก็เจ็บเหมือนวันแรกที่เป็น
แม่เราเสียไปจะครบสามปีแล้วค่ะ
แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม่สู้มากๆค่ะ ก่อนจาก เราได้ทำอะไรหลายอย่างเพื่อแม่ มีทั้งทุกข์และสุข เราจะขอระบายเรื่องในใจเป็นลำดับไป
ครั้งแรกที่รู้ว่าแม่เป็น ตอนนั้นอยู่ช่วงม.ปลายค่ะ เราจำไม่ได้หมด แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือ จะทำยังไงให้แม่หาย เรายังมีความหวังว่าแม่จะหาย เราอ่านบทความ ข่าวๆต่างๆเรื่องคนที่เป็นแล้วหาย ก็พยายามสรรหาให้แม่กิน หวังว่าแม่จะดีขึ้น แต่ก็ไม่ดีขึ้น จริงๆเราคิดว่าเป็นเพราะเราค่ะ ตอนนั้นเราพลาดท้องกับแฟนเก่า เรายังเรียนไม่จบ แม่รู้เรื่อง จำได้เลยค่ะ แม่ร้องไห้ เราทำแม่ร้องไห้ มันเจ็บจริงๆค่ะ แต่สุดท้ายท้องได้เข้าเดือน 4 เราแท้งค่ะ เสียในครรภ์ คงเพราะเราดูแลตัวเองไม่ดี เราเครียดมากๆ ดรอปเรียน ทำงานเซเว่น ที่ทำงานดูแลดี ไม่ได้ให้ทำงานหนัก แต่เราไม่ชอบกลับบ้าน เรากลับไปก็นอนไม่หลับ ช่วงนั้นเราเลิกกับแฟนคนที่เราท้องด้วย ค่ะ เลิกกันแย่มาก แม่เราร้องไห้เพราะเราอีกแล้ว เราทำแม่เครียดมาก ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงจริงๆค่ะ ผ่านไปไม่กี่เดือน เราไม่ดูแลตัวเอง มันนอนไม่หลับ มันเครียด สุดท้าย ลูกหัวใจหยุดเต้น ตอนนั้นจำได้ว่าเรานอนร้องไห้บนเตียงอัลตราซาวด์ มันเสียใจ ปนดีใจเล็กๆ ดีใจที่เราจะกลับไปเรียนได้แล้ว เสียใจที่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เรามันแย่มากๆ ตอนเดินออกจากโรงพยาบาล คนแรกที่เราโทรหาคือแม่ แม่บอกว่า ดีแล้ว เราจะได้กลับไปเรียนหนังสือ หลังจากนั้น เรากลับมาเรียน ทำงาน แบ่งเงินให้แม่ ให้ที่บ้าน จ่ายค่าเทอม ค่าเรียน ไม่พอหรอกค่ะ พาร์ทไทม์ เงินเดือนยังไม่ถึง 7000 เลย ทุกครั้งที่แม่ไปหาหมอ จะเสียเงินราวๆสองพัน (นอกเหนือจากบัตร30บาท) เราก็จะพยายามหา เบิกเงิน ยืมเงิน ช่วยแม่ ทุกครั้งที่แม่ขอ เพราะลำพังแฟนแม่จ่ายคนเดียวไม่ไหว เราก็พยายามหามาให้ โชคดีตอนน้นได้เจ้านายดีค่ะ เขาเข้าใจ เขาช่วย แต่เบิกจริงๆ เงินเดือนเหลือไม่เท่าไหร่ ไม่เคยพอ มีครั้งนึงตอนนั้นแม่ต้องใช้เงินไปหาหมออีก ซึ่งแฟนแม่ไม่มี เราตัดสินใจไปรับงาน เราจำความรู้สึกนั้นได้ เรารู้สึกตัวเองไร้ค่า แต่ไม่เป็นไร เราจะอดทนผ่ายเวลานี้ไปให้ได้ สู้นะ เราบอกตัวเอง เสร็จจากงานนั้น เรากำเงินมาวางให้แม่ที่หัวเตียง แล้วเดินขึ้นห้องไปร้องไห้ ไม่ค่ะ เราไม่เคยโกรธแม่เลย เราเกลียดตัวเองด้วยซ้ำ ถ้าขยันกว่านี้ ถ้าอดออมกว่านี้ เราต้องดูแลแม่ให้ดีกว่านี้ นี่อะไร แม่ป่วย ยังต้องลำบากอีก เมื่อไหร่จะเรียนจบได้ทำงานเต็มที่ จะทันวันนั้นมั้ย กลัวแม่ไม่อยู่จัง...
ขอเล่าย้อนไปตอนเด็กนะคะ เราผูกพันธ์กับแม่มากๆ ตอนเด็กเราติดแม่ เลิกเรียนก็กลับบ้าน แม่ไปขายของตอนกลางคืน ตอนนั้นเราทำงานพาทไทม์ น่าจะ16 17 เพราะเราได้วุฒิก็ไปสมัครงานเสิร์ฟที่ห้างเลย เลิกงานสี่ทุ่ม เราก็นั่งรถไปช่วยแม่ขายของ จนตีสาม เราก็นอนที่แผง ตี5ก็เก็บของกลับ มานอนที่บ้านต่อจนเจ็ดโมงเช้าเราก็ตื่นไปเรียน จริงๆ เราไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ แต่ความเป็นห่วงอ่ะเนอะ เราห่วงเห็นแม่ไปคนเดียว อยู่ร้านคนเดียว เราทนได้น่ะ แค่นอนน้อยลง ไปอาศัยหลับที่ห้องเรียนก็ได้ จนหลายๆอย่าง ตรวจพบแม่เป็นมะเร็ง แล้วมาเกิดเหตุการณ์เราท้องขึ้นตอนนั้น แล้วมาแท้งอีก เป็นปีที่หนักมากๆสำหรับเด็กคนหนึ่งเลยค่ะ
เราไม่มีพ่อนะคะ ทิ้งไปตั้งแต่เราอยู่ในท้องแล้ว เคยมาง้อตอนเราเด็กมากๆ แต่ความใจแข็งของแม่ และความเด็ดเดี่ยวของตา หลานตาๆเลี้ยงเองได้ เราจึงโตมาได้ทุกวันนี้ ไม่เคยโหยหาพ่อ เพราะพอกับความรักของตาและแม่แล้ว
ในตอนที่แม่ยังอยู่ แม่ผ่าตัดใหญ่หลายครั้ง ทุกครั้งที่กลับจากโรงพยาบาล(เราไปด้วยบางครั้ง แม่ไปเช้ามาก ไปกับแฟนแม่ แล้วเราติดเรียนติดงานค่ะ) เราจะถามแม่ตลอด หมอว่าไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย หวังในใจทุกครั้ง หมอเอาใจช่วยแม่ขนาดนี้ ต้องดีขึ้นสิ แต่แม่ก็ได้แต่บอกว่า ต้องรอดูตอบสนองยาดีแค่ไหน ซึ่งเราก็เห็นแม่ปวดประจำ แม่จะมียาแก้ปวดแบบแรงติดตัวไว้เลยค่ะ ทุกครั้งที่แม่เจ็บ เรารู้ เราได้แต่เอาใจช่วย ขอให้แม่หายนะ ขอให้แม่ดีขึ้น ใครก็ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ได้ ช่วยแม่ที... มีครั้งนึง เป็นภาพในความทรงจำที่จำได้แม่น มะเร็งลามไปที่กระดูกก้นกบ มดลูก แม่ต้องตัดออก วันที่เราไปหาหลังออกจากห้องผ่าตัด เห็นแม่นอนให้ออกซิเจน ได้แต่ยืนกัดฟัน ไม่นะ อย่าร้อง อย่าให้แม่เห็นน้ำตานะ อดทนไว้ เราเดินไปจับมือแม่ พูดไม่ออก แกนี่ร้ายนะเจ้ามะเร็ว จะทำร้ายแม่เราไปถึงไหน เราจูบที่เท้าแม่ แล้วรีบเดินออกไป น้ำตามันไหล ได้แต่อดไว้ กลับไปร้องที่ห้องนะ
วันปีใหม่วันนั้น ครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่กับแม่ เรากลับจากบ้านเพื่อน ไปโรงพยาบาลตอนเช้า นั่งคุยกับแม่สักพัก เราก็หลับ อยู่บนเตียงแม่ รอจนกระทั่งแฟนแม่มา ก็กลับ ตอนนั้นหมอไม่ยอมให้กลับ เพราะอาการยังไม่ดีขึ้น แต่ในใจมันสังหรณ์แล้วแหละค่ะ อะไรก็ช่าง กลับบ้านดีกว่านะแม่ ไปอยู่บ้านกัน... และวันนั้นก็มาถึง เสียงโทรศัพท์จากโรงพยาบาลถึงพ่อเลี้ยง....
'หมอบอกให้ทำใจไว้นะ แม่เริ่มไม่รู้สึกตัว คุยไม่รู้เรื่องแล้ว' เราทรุด ใส่เสื้อผ้าเตรียมจะออก แต่น้องชายดึงไว้ บอกให้ใจเย็นๆ พรุ่งนี้เช้ามืดเราจะรีบไป เราได้แต่นอนเอาหน้ากดหมอน ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้... แม่อย่าทิ้งหนูไปนะ...แม่...
เช้าวันนั้นยังจำได้ดี ไปถึง น้ำตามากมายร่วงเผาะ ร้องไห้ไม่รู้จะร้องยังไง แม่ไม่รู้สึกตัว แต่หัวใจยังเต้นอยู่ ตื่นสิแม่ ตื่นมาคุยกับหนูก่อน...และวันนั้นแม่ก็เสีย...
ลืมเล่าไปช่วงหนึ่ง... ก่อนหน้าแม่เสียได้ 2-3 เดือน เราไปบวชที่วัดแถวสนามหลวงมา ถือศีล 8 วันนั้นก่อนไปแม่บอกว่า ขอผลบุญที่หนูบวชนี้ ให้แม่ไปแบบไม่ทรมานนะ... ชุดที่ใส่วันสวด วันเผา คือชุดขาวที่เราไปบวชเองค่ะ
สามปีแล้วนะแม่ ทุกครั้งที่หนูคิด หนูเจ็บเหลือเกิน มาวันนี้ชีวิตหนูสบาย หนูเจอคนที่ดี หนูมีงานที่ดี ทำไมหนูถึงดูแลแม่ไม่ได้แล้ว แม่รู้มั้ยหนูยอมแลกทุกอย่างในชีวิต เพื่อให้ดูแลแม่อีกครั้ง หนูไม่กล้าเล่าให้แฟนฟัง เพราะทุกครั้งที่เผลอเล่า เขาจะเศร้า หนุจะร้องไห้เหมือนเด็ก เหมือนตอนนี้เลย หนูได้แต่บอกคนที่หนูรู้จัก ให้เขาดูแลแม่ให้ดี ดูอย่างเราสิ แม่ไม่อยู่แล้ว อยากดูแลแทบตายก็ทำไม่ได้ หนูคิดถึงแม่เหลือเกิน ทำไมหนูเข้มแข็งไม่ได้สักทีคะ...