[CR] Kansai 2019 ไปดูใบไม้แดงที่ร่วงโรย


เมื่อเดินทางมาถึงช่วงสิ้นปี หลายๆคนคงวางแผนเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกันและ 1 ในที่ยอดฮิตของคนไทยคงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น!!!
เราก็เหมือนกันคิดอะไรไม่ออกบอกญี่ปุ่น 555 โดยครั้งนี้เราจะเดินทางไปในย่าน kansai ซึ่งเป็นย่านยอดฮิตอีกที่นึง เนื่องจากว่าที่ย่านนี้สามารถท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบทั้ง shopping, แนวธรรมชาติ, วัดวาอาราม เรียกว่ามีครบจบในย่านนี้
ครั้งนี้การเดินทางของเรา เราใช้ Pass อย่าง Kansai Wide Area ที่สามารถเดินทางได้ครอบคลุมทุกเมืองที่เราจะไป โดยจุดเด่นของ Pass นี้คงจะเป็นการที่สามารถนั่งพวก Express Train ได้อย่างไม่จำกัดรวมถึงสามารถนั่ง Shinkansen จาก Osaka ไปถึง Okayama ได้ด้วย (สาย Kitty ตัวนี้ก็นั่งได้นะครับ) แต่ว่าต้องนั่งขบวน Non-Reserved ้เท่านั้น ยิ่งถ้าใครกลัวหลงก็จะช่วยประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะในการนั่งหลายๆเที่ยว
Plan เดินทางของเราในครั้งนี้จะไปกันทั้งหมด 6 วัน 5 คืนโดยแต่ละเมืองก็จะมีสถานที่หลักๆตามด้านล่าง
แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าใครไปหน้าหนาวอาจจะต้องออกเที่ยวเช้าหน่อย เพราะฟ้าจะมืดเร็วมาก ประมาณสี่โมงเย็นก็มืดแล้ว ไม่งั้นอาจจะเป็นแบบเราที่เที่ยววันนึงได้แค่ไม่กี่ที่เพราะกว่าจะออกจากห้องพักก็ 9 โมงกว่าแล้ว 555

#Kyoto
- แวะดื่มกาแฟที่ %Arabica
- เดินเล่นแถว Arashiyama, Fushimi Inari Taisha
- ดูใบไม้แดงตามวัดต่างๆ อย่าง Eikando Temple, Kitano Tenmangu Shrine

#Osaka
- เยี่ยมชม Osaka castle
- เดินเล่นย่าน Dotonbori
- แวะกินราเมนซี่โครงหมูชื่อดัง
- แวะดื่มกาแฟที่ Brooklyn Roasting Company
- เดินตลาด Kuramon market
- กินข้าวหน้าปลาไหล Hitsumabushi bincho และข้าวหน้าเนื้อ Red rock

#Nara
- เดินเล่น Nara Park
- แวะกิน Pudding ชื่อดังและโมจิ tv champion
- ชิมข้าวอบชื่อดังของ Nara

#Okayama
- เยี่ยมชม Okayama castle
- เดินเล่นย่านเมืองเก่าแถว Kurashiki
- กินของหวานชื่อดังอย่าง Parfait

มาเริ่มกันที่เมืองแรกอย่าง Kyoto อดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยเมืองนี้จะเด่นในเรื่องของวัดวาอารามต่างๆ ยิ่งในช่วงปลายปีแบบนี้ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ถือว่าเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยการเดินทางของในเมืองนี้ถ้านั่งรถบัสก็ดูจะสะดวกที่สุด เพราะสถานที่เที่ยวบางทีรถไฟไปไม่ถึง

#%Arabica   

สถานที่แรกที่เรามาแวะในวันนี้ก็คือร้านกาแฟชื่อดังอย่าง % Arabica โดยวันนี้เรามาที่สาขา Arashiyama ร้านนี้จะเด่นในเรื่องของกาแฟ latte และเมนูยอดฮิตก็คือ Hot latte นั้นเอง ดูจากคนเข้าคิวก็รู้แล้วว่าดังขนาดไหน???

ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ โดยเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ต่างๆก็จะมี logo ของทางร้านทั้งหมด

พนักงานของที่นี่ทุกคนสามารถทำได้ทุกหน้าที่ และฝีมือในการทำกาแฟนั้นคล่องแคล่วทุกคน

หน้าตา Hot latte เมนูยอดฮิตที่เราสั่งไป เมื่อลองชิมแล้วบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง กาแฟอ่อนนุ่มละมุนมากๆ ยิ่งมากินช่วงอากาศหนาวๆยิ่งฟิน แต่คนที่ชอบกาแฟเข้มมากๆอาจจะไม่โดนใจเท่าไหร่ 
 
หลังจากนั้นเราก็เดินไปแถวๆป่าไผ่ โดนระหว่างทางก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมเป็นระยะๆ
#BambooGrove
จนเราเดินมาถึงจุดหมายเราอย่างป่าไผ่ ที่ไม่ว่าใครมา Arashiyama ก็จะต้องแวะมาที่นี่
แล้วก็เหมือนทุกครั้งที่เรามา คนเยอะมากๆๆๆๆ เราก็เดินไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากมาย แนะนำว่าถ้าใครอยากมาถ่ายรูปที่นี่อาจจะต้องมาเช้าสักนิดนึง  
 
 #EikandoTemple
  
จากนั้นเราก็เดินทางต่อมาที่ Eikando Temple ซึ่งเป็นอีกวัดนึงที่คนนิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสีกัน แต่อย่างที่บอกว่าเรามาช่วงที่เลยจุด peak ไปแล้วเพราะฉะนั้นก็อาจจะไม่สวยเท่าไหร่
บางจุดก็ถือว่าความแดงยังคงสวยงามอยู่ แต่ว่าใบอาจจะร่วงไปพอสมควรแล้ว

ใบ Maple ที่ร่วงลงมาอยู่ที่พื้นหมดแล้ว ลองคิดว่าถ้ามาตอน peak ที่จะสวยขนาดไหน ถ้าใครสนใจก็ลองแวะเวียนมาได้ครับ โดยวัดนี้จะมีค่าเข้าชมคนละ 1000 เยนในช่วงที่ peak แต่ตอนที่ผมไปเสียค่าเข้าชมไป 600 เยนครับ

#FushimiInariTaisha
 
ต่อมาเรามาที่วัดที่โด่งดังเรื่องเสาแดงมากๆ อย่าง Fushimi Inari วัดนี้เราเคยมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นครั้งนี้เราจึงไม่ได้เดินขึ้นไปข้างบนไกลมากนัก เพียงแค่เดินขึ้นไปถ่ายรูปเสาแดงนิดๆหน่อยๆพอ โดยใครที่ต้องการถ่ายรูปในอุโมงค์เสาแดงแนะนำว่าให้ถ่ายตรงอุโมงค์ทางลงจะง่ายกว่า เพราะฝั่งทางขึ้นนั้นคนจะเดินมาตลอดเวลา
ทางเดินขึ้นไปเพื่อไปยังเสาแดง โดยตรงทางขึ้นก็จะมีศาลเจ้าให้ไหว้ก่อนด้วย
เดินมาเรื่อยๆก็จะมาเจอเสาแดงแบบนี้ ที่หลายๆคนต้องการมาถ่ายรูป

อย่างที่บอกครั้งนี้เราแค่เดินมาเก็บรูปนิดๆหน่อยๆ พอได้รูปแล้วก็เดินกลับลงมาข้างล่าง ก็จะมีชาวบ้านมาขายของกินกัน แต่ล่ะอย่างดูน่ากินทั้งนั้น เลยลองจัดหมูย่างกับเนื้อย่างมาอย่างละไม้ รสชาติก็กลางๆ กินได้อยู่

#KitanoTenmanguShrine

หลังจากนั้นเรามาที่ศาลเจ้าอีกที่นึงที่ได้ข่าวว่าใบไม้แดงยังไม่ค่อยร่วง เลยมาลองดูสักหน่อยว่าจะเป็นจริงมั้ย โดยที่นั่นก็คือศาลเจ้า Kitano นั้นเอง!!!
 
มาถึงหน้าศาลเจ้าก็จะเป็นทางเดินเข้าไป สองข้างทางก็มีต้นไม้บรรยากาศร่มรื่น
เดินมาจนถึงซุ้มประตูทางเข้า โดยที่นี่จะเสียค่าเข้าคนละ 1000 yen แต่สามารถเอาบัตรไปแลกขนมกับน้ำชาด้านในได้ก่อนทางออก แต่ห้ามทำบัตรหายนะ เพราะเราทำหายเลยอดกิน 555

เข้ามาถึงก็จะเจอกับใบไม้แดงที่ยังเหลือค่อนข้างเยอะ คุ้มกับค่าบัตรหน่อย ถ่ายรูปมาก็จะได้ประมาณนี้
 
ที่นี่ดีตรงที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เมือ่เทียบกับสถานที่ยอดนิยมที่อื่นๆ จึงง่ายต่อการถ่ายรูป
นี่ขนาดเลยจุด peak มาแล้ว ก็ยังถือว่าเหลือความแดงพอประมาณเมื่อเทียบกับที่อื่นๆที่น่าจะร่วงหมดแล้ว 

เดินมาเรื่อยๆก็จะมาเจอจุดยอดฮิตอย่างสะพานแดงที่คนชอบมาถ่ายรูปกัน แล้วช่วงฟ้ามืดที่นี่ยังมีการเปิดไฟ light up ด้วยนะ ถ่ายรูปมาก็คงจะได้อีกอารมณ์นึง แต่ว่าเรามีเวลาน้อยเลยกลับก่อน ก็ถือว่าปิดฉากการมา Kyoto ได้อย่างน่าพอใจ
 
เดี๋ยวมาต่อเมืองอื่นใน comment นะครับ
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่