บ้านหนูเป็นคนไทยเชื้อสายจีน หนูเรียนจบสาขาภาษาจีน ดังนั้นตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานในบริษัทจีนตลอด จนได้มาเจอแฟนคนนี้ เป็นคนจีน และเป็นแฟนคนแรกค่ะ คุยได้ไม่นานรู้สึกคุยถูกคอก็ตกลงคบกันค่ะ ตอนนี้คบได้เดือนกว่าๆ แล้ว เขาอายุ27 ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เท่าที่ได้คุยคือเป็นคนมีความสามารถนะคะ มีความรับผิดชอบ และมองอนาคตกับหนู เขาจะมีความเป็นจีนหัวนอก เพราะเรียนจบที่ออสเตรเลีย ภาษาอังกฤษดีมาก พูดได้5 ภาษา และกำลังฝึกภาษาไทย คือโดยรวมคือประทับใจในตัวเขาค่ะ
ทีนี้เขามีปัญหาเรื่องวีซ่า บริษัทแรกที่เขาทำงานเกิดปิดตัวไปกะทันหัน ที่แรกให้เงินเดือน 50000 ค่ะ เขาเลยต้องรีบหางานใหม่ เพื่อทำงานต่อที่ไทยค่ะ เพราะเขาเริ่มชอบเมืองไทย แต่บริษัทใหม่ให้เงินเดือนแค่20000 ซึ่งมันไม่ค่อยพอใช้ และเขาติดสัญญา1ปี อีก2 เดือนจะครบปีแล้ว ส่วนหนูมีเงินเดือน4-5 หมื่น
เขาไม่ใช่คนมีฐานะนะคะถึงจะจบนอกก็ตาม เขาไปเรียนต่อด้านบริหารโดยการกู้เงินค่ะ พ่อเขาเป็นตำรวจจีน แม่เป็นแม่บ้านระหว่างช่วงที่คบกันเวลากินข้าวเราจะแชร์กันตลอด หรือผลัดกันเลี้ยงบ้าง กินอาหารตามสั่งเป็นหลัก หรือถ้าวันไหนอยากกินดีหน่อย หนูจะออกตัวเลี้ยง เพราะไม่อยากให้เขาลำบากใจค่ะ ไม่อยากเอาเปรียบเขาด้วย ฐานะทางบ้านหนูกลางๆค่ะ หนูเรียนจบเซี่ยงไฮ้โดยการได้ทุนเรียน
เขาชวนหนูไปอยู่กินด้วย ชวนมา2 ครั้ง เขาบอกมันเป็นปกติของคู่รัก หนูปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้แม่เสียใจเขาดูจะอยากแต่งงานเหลือเกิน เพราะแม่เขาเร่ง และอยากมาเจอพ่อแม่หนูมาก หนูไม่ยอมพามาเพราะยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นคนที่แต่งงานด้วยได้ไหม
วันนี้หนูตัดสินใจบอกแม่ และเล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง แม่ค่อนข้างเป็นห่วง และไม่ชอบเขาเอามากๆ เพราะคิดว่าเขายังไม่มีอะไรมั่นคงเลย เงินเดือนก็น้อย จะดูแลหนูได้ยังไง และชวนไปอยู่กินด้วย เขาคิดเอาแต่ได้ เพราะที่จีนการจะแต่งงานได้ ต้องใช้เงินเยอะ มีบ้านมีรถมาสู่ขอผู้หญิงนะ เขาคิดว่าสาวไทยง่ายจนเขาอยากได้ก็ได้หรอ แม่ไม่ได้อยากได้สินสอดอะไร แค่อยากมั่นใจว่าเขาดูแลลูกแม่ได้ และแม่ก็ฝากเอาคำพูดนี้ไปบอกเขา แต่หนูไม่กล้าบอกค่ะ กลัวเขามองแม่ไม่ดี
ขอเท้าความนิดนึงค่ะ คือแม่หนูแต่งงานกับพ่อเพราะรักมาก ตอนจีบแม่ พ่อทุ่มเทมาก พ่อไม่มีอะไรแม่ก็แต่งด้วย เพราะคิดว่ารักกัน ก่อนแต่งก็รู้จักกันมาตั้ง11 ปี แต่หลังแต่งงาน พ่อไม่เอาการเอางานติดการพนัน ติดบุหรี่ ไม่ช่วยทำมาหากิน จะเอาเมียน้อย เวลาอารมณ์ไม่ดีจะพังข้าวของ แม่ต้องทำมาหากินเลี้ยงลูกสามคนคนเดียว ลูกทุกคนโตมาดีค่ะ เรียนเก่งมากไม่เกเรด้วย และรักแม่มากๆ ด้วยเหตุนี้แม่จึงมีความคิดว่าความรักกินไม่ได้ ถึงรักกันแค่ไหน ถ้าลำบากมากๆมันก็หมดรักได้ และพฤติกรรมของพ่อ เป็นสิ่งที่แม่พูดให้ฟังบ่อยๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการเลือกคู่ ที่ใช้ชีวิตมาจน26ปีและไม่เคยมีแฟน เพราะค่อนข้างเลือกพอสมควรค่ะ
บอกแม่ว่าชอบเขานะ แม่บอกว่าให้คบไปเรื่อยๆได้ แต่ดูแลตัวเองให้ดี ต้องรักตัวเองก่อน ก่อนแต่งงานยังไงเราก็มีสิทธิ์เลือกคนที่ดีที่สุด ถ้าเจอคนดีกว่าก็ทิ้งเขาเลย TT
ตอนนี้อยู่ในจุดที่แบบ ถ้าคบเผื่อเลือก ก็สงสารเขา ไม่อยากให้เขาเสียเวลา และกลัวความผูกพันธ์ค่ะ
ถ้าจะคบแบบจริงจัง ก็แอบคิดมาก เพราะคำพูดเตือนของแม่ ถ้าเลิกเลยก็ยังชอบเขาและเขาก็ไม่ได้ทำไรผิด
หนูควรเลือกทางไหนระหว่าง
1. ถ้าเขาพูดเรื่องแต่งงาน บอกเขาว่าเขายังไม่ใช่คนที่แม่หนูจะวางใจให้แต่งงานด้วย เพราะยังไม่มั่นคง แต่วิธีนี้เขาจะมองแม่หนูไม่ดี
2. คบเผื่อเลือก (มีคนอื่นมาจีบ แต่ไม่ได้ชอบค่ะ เลยไม่คุย)
3. เลิกซะ จะได้ไม่ผูกพันธ์ไปมากกว่านี้
และเราก็ไม่เสียเวลาทั้งคู่
แม่ไม่ชอบแฟนค่ะ เลิกหรือคบต่อดีคะ
ทีนี้เขามีปัญหาเรื่องวีซ่า บริษัทแรกที่เขาทำงานเกิดปิดตัวไปกะทันหัน ที่แรกให้เงินเดือน 50000 ค่ะ เขาเลยต้องรีบหางานใหม่ เพื่อทำงานต่อที่ไทยค่ะ เพราะเขาเริ่มชอบเมืองไทย แต่บริษัทใหม่ให้เงินเดือนแค่20000 ซึ่งมันไม่ค่อยพอใช้ และเขาติดสัญญา1ปี อีก2 เดือนจะครบปีแล้ว ส่วนหนูมีเงินเดือน4-5 หมื่น
เขาไม่ใช่คนมีฐานะนะคะถึงจะจบนอกก็ตาม เขาไปเรียนต่อด้านบริหารโดยการกู้เงินค่ะ พ่อเขาเป็นตำรวจจีน แม่เป็นแม่บ้านระหว่างช่วงที่คบกันเวลากินข้าวเราจะแชร์กันตลอด หรือผลัดกันเลี้ยงบ้าง กินอาหารตามสั่งเป็นหลัก หรือถ้าวันไหนอยากกินดีหน่อย หนูจะออกตัวเลี้ยง เพราะไม่อยากให้เขาลำบากใจค่ะ ไม่อยากเอาเปรียบเขาด้วย ฐานะทางบ้านหนูกลางๆค่ะ หนูเรียนจบเซี่ยงไฮ้โดยการได้ทุนเรียน
เขาชวนหนูไปอยู่กินด้วย ชวนมา2 ครั้ง เขาบอกมันเป็นปกติของคู่รัก หนูปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้แม่เสียใจเขาดูจะอยากแต่งงานเหลือเกิน เพราะแม่เขาเร่ง และอยากมาเจอพ่อแม่หนูมาก หนูไม่ยอมพามาเพราะยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นคนที่แต่งงานด้วยได้ไหม
วันนี้หนูตัดสินใจบอกแม่ และเล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง แม่ค่อนข้างเป็นห่วง และไม่ชอบเขาเอามากๆ เพราะคิดว่าเขายังไม่มีอะไรมั่นคงเลย เงินเดือนก็น้อย จะดูแลหนูได้ยังไง และชวนไปอยู่กินด้วย เขาคิดเอาแต่ได้ เพราะที่จีนการจะแต่งงานได้ ต้องใช้เงินเยอะ มีบ้านมีรถมาสู่ขอผู้หญิงนะ เขาคิดว่าสาวไทยง่ายจนเขาอยากได้ก็ได้หรอ แม่ไม่ได้อยากได้สินสอดอะไร แค่อยากมั่นใจว่าเขาดูแลลูกแม่ได้ และแม่ก็ฝากเอาคำพูดนี้ไปบอกเขา แต่หนูไม่กล้าบอกค่ะ กลัวเขามองแม่ไม่ดี
ขอเท้าความนิดนึงค่ะ คือแม่หนูแต่งงานกับพ่อเพราะรักมาก ตอนจีบแม่ พ่อทุ่มเทมาก พ่อไม่มีอะไรแม่ก็แต่งด้วย เพราะคิดว่ารักกัน ก่อนแต่งก็รู้จักกันมาตั้ง11 ปี แต่หลังแต่งงาน พ่อไม่เอาการเอางานติดการพนัน ติดบุหรี่ ไม่ช่วยทำมาหากิน จะเอาเมียน้อย เวลาอารมณ์ไม่ดีจะพังข้าวของ แม่ต้องทำมาหากินเลี้ยงลูกสามคนคนเดียว ลูกทุกคนโตมาดีค่ะ เรียนเก่งมากไม่เกเรด้วย และรักแม่มากๆ ด้วยเหตุนี้แม่จึงมีความคิดว่าความรักกินไม่ได้ ถึงรักกันแค่ไหน ถ้าลำบากมากๆมันก็หมดรักได้ และพฤติกรรมของพ่อ เป็นสิ่งที่แม่พูดให้ฟังบ่อยๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการเลือกคู่ ที่ใช้ชีวิตมาจน26ปีและไม่เคยมีแฟน เพราะค่อนข้างเลือกพอสมควรค่ะ
บอกแม่ว่าชอบเขานะ แม่บอกว่าให้คบไปเรื่อยๆได้ แต่ดูแลตัวเองให้ดี ต้องรักตัวเองก่อน ก่อนแต่งงานยังไงเราก็มีสิทธิ์เลือกคนที่ดีที่สุด ถ้าเจอคนดีกว่าก็ทิ้งเขาเลย TT
ตอนนี้อยู่ในจุดที่แบบ ถ้าคบเผื่อเลือก ก็สงสารเขา ไม่อยากให้เขาเสียเวลา และกลัวความผูกพันธ์ค่ะ
ถ้าจะคบแบบจริงจัง ก็แอบคิดมาก เพราะคำพูดเตือนของแม่ ถ้าเลิกเลยก็ยังชอบเขาและเขาก็ไม่ได้ทำไรผิด
หนูควรเลือกทางไหนระหว่าง
1. ถ้าเขาพูดเรื่องแต่งงาน บอกเขาว่าเขายังไม่ใช่คนที่แม่หนูจะวางใจให้แต่งงานด้วย เพราะยังไม่มั่นคง แต่วิธีนี้เขาจะมองแม่หนูไม่ดี
2. คบเผื่อเลือก (มีคนอื่นมาจีบ แต่ไม่ได้ชอบค่ะ เลยไม่คุย)
3. เลิกซะ จะได้ไม่ผูกพันธ์ไปมากกว่านี้ และเราก็ไม่เสียเวลาทั้งคู่