ก่อนไปก็พอได้ทราบแล้วว่าที่ โฮจิมิน มีการขโมย การล้วงกระเป๋าอยุ๋ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง
ผมวางแผนไป 7 วัน กะว่าจะให้ข้ามปีใหม่ ผมเดินทางถึงวันที่ 26 ธันวา อยุ๋ที่โฮจิมินได้ 4 วัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอวันที่ 30 ธันวา
คืนนั้นผมไปจิบๆ ที่ ถนน บุ้ยเวียน (bui vien) สักประมาณเที่ยงคืน กำลังจะกลับโรงแรม ในขณะที่เรียก แกร็บอยู่ ผมก็หยิบ มือถือขึ้นมาเช็คว่าแก็รบมาถึงรึยังสายตาก็มัวแต่สอดส่องหารถแกร็บ ทันใดนั้นเอง !!!
!!! มีมอเตอไซส์ขับมาจากไหนไม้รู้ อยุ๋ดีๆ ก็มาหยิบมือถือจากมือผมไป แล้วก็ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น !!! ณ วินาทีนั้น ผมอึ้งมากแบบว่านี่กรูโดนเข้าแล้วจนได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมอไซส์ขับหนีไปแบบ เร็วมาก จังหวะนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง คิดอะไรไม่ออก และก็คิดว่าคงไม่ได้มือถือคืนแล้ว ก็เลยเรียกแท็กซี่ กลับ โรงแรม !!! คนมันจะดวงซวย จังหวะถึงโรงงแรม แท็กซี่บอก มิเตอร์เสีย ไม่ต้องดูราคาที่ มิเตอร์ ให้จ่ายมาเลย 200,000 ดอง ซึ่งมากกว่าที่มิเตอร์ขึ้นมาถึง 3 เท่า, มันก็ไม่ใช่เงินมากมายอะไรสำหรับเรา ตอนนั้นก็เซงกับชีวิตแล้ว เลยรีบๆ จ่ายไป จะได้ขึ้นโรงแรมแล้วโทรไป ระงับ แอป ธนาคารต่างๆ ... สุดท้าย จากที่วางแผนจะกลับวันที่ 3 มกรา เลยซื้อตั๋วใหม่ เลื่อนกลับเป็นวันที่ 1 มกราแทน จบทริปปีใหม่ แบบสุดเซ็ง
ปล.โฮจิมิน เป็นเมืองที่ก่อนไป กับหลังไป ให้ความรู้สึกต่างกันเยอะมาก หลังจากได้ไปแค่ 3 วัน รุ้สึกเลยว่า กรุงเทพดีกว่าเยอะ เพราะที่นั้น รถมอไซส์เยอะ ขับกับแบบไม่กลัวว่าจะชน คนก็ดูน่ากลัวแบบแปลกๆ โจร ก็เยอะ บอกเลยว่า เข็ดกับ โฮจิมิน ไปอีกนาน ใครจะไป โฮจิมิน แนะนำไป ไทเป ดีกว่าเยอะครับ แต่ถ้าใครอยากไปลองประสบการณ์พิเศษที่โฮจิมิน ก็ลองได้เลยครับ มันส์
โดนขโมยโทรศัพท์ ที่ โฮจิมิน วันปีใหม่
ผมวางแผนไป 7 วัน กะว่าจะให้ข้ามปีใหม่ ผมเดินทางถึงวันที่ 26 ธันวา อยุ๋ที่โฮจิมินได้ 4 วัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอวันที่ 30 ธันวา
คืนนั้นผมไปจิบๆ ที่ ถนน บุ้ยเวียน (bui vien) สักประมาณเที่ยงคืน กำลังจะกลับโรงแรม ในขณะที่เรียก แกร็บอยู่ ผมก็หยิบ มือถือขึ้นมาเช็คว่าแก็รบมาถึงรึยังสายตาก็มัวแต่สอดส่องหารถแกร็บ ทันใดนั้นเอง !!!
!!! มีมอเตอไซส์ขับมาจากไหนไม้รู้ อยุ๋ดีๆ ก็มาหยิบมือถือจากมือผมไป แล้วก็ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น !!! ณ วินาทีนั้น ผมอึ้งมากแบบว่านี่กรูโดนเข้าแล้วจนได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมอไซส์ขับหนีไปแบบ เร็วมาก จังหวะนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง คิดอะไรไม่ออก และก็คิดว่าคงไม่ได้มือถือคืนแล้ว ก็เลยเรียกแท็กซี่ กลับ โรงแรม !!! คนมันจะดวงซวย จังหวะถึงโรงงแรม แท็กซี่บอก มิเตอร์เสีย ไม่ต้องดูราคาที่ มิเตอร์ ให้จ่ายมาเลย 200,000 ดอง ซึ่งมากกว่าที่มิเตอร์ขึ้นมาถึง 3 เท่า, มันก็ไม่ใช่เงินมากมายอะไรสำหรับเรา ตอนนั้นก็เซงกับชีวิตแล้ว เลยรีบๆ จ่ายไป จะได้ขึ้นโรงแรมแล้วโทรไป ระงับ แอป ธนาคารต่างๆ ... สุดท้าย จากที่วางแผนจะกลับวันที่ 3 มกรา เลยซื้อตั๋วใหม่ เลื่อนกลับเป็นวันที่ 1 มกราแทน จบทริปปีใหม่ แบบสุดเซ็ง
ปล.โฮจิมิน เป็นเมืองที่ก่อนไป กับหลังไป ให้ความรู้สึกต่างกันเยอะมาก หลังจากได้ไปแค่ 3 วัน รุ้สึกเลยว่า กรุงเทพดีกว่าเยอะ เพราะที่นั้น รถมอไซส์เยอะ ขับกับแบบไม่กลัวว่าจะชน คนก็ดูน่ากลัวแบบแปลกๆ โจร ก็เยอะ บอกเลยว่า เข็ดกับ โฮจิมิน ไปอีกนาน ใครจะไป โฮจิมิน แนะนำไป ไทเป ดีกว่าเยอะครับ แต่ถ้าใครอยากไปลองประสบการณ์พิเศษที่โฮจิมิน ก็ลองได้เลยครับ มันส์