บัตรเครดิตสมนาคุณห้องพักฟรีหนึ่งคืน โดยมีให้เลือกสองแห่ง คือ ชะอำและภูเก็ต
ชะอำไปบ่อยแล้ว แต่ภูเก็ตเคยไปแค่สองครั้ง และไม่เคยกินเคยเที่ยวอย่างจริงจัง
ครั้งแรกจัดทัวร์กรุงเทพ-สิงคโปร์สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย แวะภูเก็ตแค่เดี๋ยวเดียว
ครั้งที่สองไปกับเพื่อนพักที่กะตะธานี ไปแค่แหลมพรหมเทพกับกินอาหารทะเลร้านกันเอง
แม้ว่าภูเก็ตจะขึ้นชื่อเรื่องค่าใช้จ่ายแพง เที่ยวภูเก็ตเที่ยวเมืองนอกถูกกว่า
คิดอีกทีไม่ไปตอนนี้จะไปเมื่อไหร่ โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้หาข้อมูลทางเน็ทได้ง่ายจึงเลือกไปภูเก็ต
ไปครั้งนี้ครั้งเดียวไม่ไปอีกแล้ว เพราะเจอปัญหาตั้งแต่เริ่มเดินทางจนวันกลับ
จองตั๋วเครื่องบินกับไทยไลอ้อนแอร์ ไปวันธรรมดาเลี่ยงคนมากบินเช้ากลับเย็น
สองวันหนึ่งคืน ขากลับเครื่องใหญ่ที่นั่งสามแถว ก่อนเดินทางมีอีเมลยกเลิกเที่ยวบินเปลี่ยนเวลาใหม่
นึกสังหรณ์ใจเปิดอ่านก่อนเดินทางหนึ่งวัน กลายเป็นว่าขากลับเครื่องออกแต่เช้าตรู่
ต้องโทรฯไปโวยคอลเซ็นเตอร์ จนได้เที่ยวบินสามทุ่มกว่าแต่เครื่องเล็กลง
วันจันทร์ที่ 10-6-19 ไปถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ตีสี่ เครื่องออก 6.05 น.ถึงภูเก็ต 7.30 น.
แต่การจราจรทางอากาศหนาแน่นมาก รอคิวบินขึ้นเป็นลำที่แปด บินชึ้นจริง 8.31 น.
ใช้เวลาบินหนึ่งชั่วโมงสิบนาที เครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตเวลา 9.40 น.
เช่ารถตู้โดยการแนะนำของรถตู้เมืองตรัง ที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ้ค กลับมาต้องอันเฟรนด์เพราะไม่ประทับใจ
อุตส่าห์ทำรายการสถานที่ที่จะไป และร้านที่จะกิน แต่เอาแต่เชียร์ไปกินซีฟูด ไปภูเก็ตแฟนตาซีเอาค่าหัว
แทบจะไม่รู้จักร้านที่จะไปกิน จะกินร้านนี้พาไปร้านโน้น มารู้ทีหลังว่า ปกติรับส่งฝรั่งเข้าเมืองกับสนามบิน
นั่งรถเข้าเมืองตั้งใจจะไปกินติ่มซำ ไปได้ครึ่งทางแฟนบอกว่ากระเป๋าเงินหาย
โทรฯ ไล่ตั้งแต่ร้านที่สนามบินดอนเมืองจนไทยไลอ้อนแอร์ สุดท้ายหล่นอยู่บนเครื่องบินบ่ายค่อยกลับไปรับ
มาสายร้านติ่มซำปิดกันหมดแล้ว ร้านที่ตั้งใจไปกินมื้อเที่ยง คือ ร้านวันจันทร์ ซึ่งหลังร้านติดกับร้านระย้า
ร้านวันจันทร์ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมภูเก็ตทาวน์อินน์ ถนนเทพกระษัตรี ติดกับแยกตั่วโพ้
ซึ่งถนนเทพกระษัตรีตัดกับถนนดีบุก ไปถึงร้าน 11.35 น.โดยไม่ได้จอง โชคดีมีโต๊ะว่างมี่ไม่มีคนจองสองโต๊ะ
หลังจากนั้นต้องรอคิว เป็นอาคารแบบชิโนโปรตุกีสสองคูหา
ห้องน้ำอยู่ในอาคารด้านหลัง ซึ่งมีบริเวณให้นั่งรอโต๊ะ
อาหารแนะนำ
สั่งแค่สามอย่าง
เริ่มด้วยของชอบของแฟน แกงเนื้อปูใบชะพลูและเส้นหมี่ 370 บาท
เนื้อกรรเชียงปูชิ้นใหญ่ในปริมาณสมราคา แกงมีความหอม
ขับเน้นรสชาติด้วยใบชะพลู รสไม่จัดมาก
แต่ปริมาณเส้นหมี่ไม่สมดุลย์กับปริมาณแกง ต้องสั่งเส้นหมี่เพิ่ม
หมูฮ้อง 165 บาท
หมูฮ้องเป็นอาหารที่คนจีนฮกเกี้ยนนำเข้ามาทางใต้ หน้าตาดูเหมือนหมูสามชั้นพะโล้
แต่เป็นหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว ใส่รากผักชี กระเทียมและพริกไทย ต้มจนหมูสามชั้นนุ่มเครื่องซึมเข้าเนื้อ
เหลือแต่น้ำขลุกคลิก และไม่ใส่เครื่องพะโล้ แต่ก็มีบางสูตรใส่โป๊ยกั๊ก บางสูตรใส่อบเชย ไม่นิยมทำให้หวาน
หมูฮ้องของร้านวันจันทร์รสชาติดี เนื้อหมูสามชั้นนุ่มแต่ไม่ถึงกับเปื่อย น้ำค่อนข้างข้นปริมาณมาก เหมาะกับราดข้าว
น้ำพริกกุ้งเสียบ 165 บาท รสจัด เน้นผักใบของทางใต้
แต่ชอบกุ้งเสียบเต็มตัว แบบร้านหม้อข้าวหม้อแกง ทองหล่อ
ที่เลิกกิจการไปทำเฟอร์นิเจอร์ครัวมากกว่า
ยังไม่ค่อยรู้สึกอิ่ม จึงสั่งห่อหมกปูห่อหมกเนื้อปู 180 บาท
หนึ่งจานมีสามชิ้น นึ่งสดใหม่ร้อน ๆ เนื้อห่อหมกเนียน รสจัดเล็กน้อย
ใส่เนื้อปูและโรยหน้าด้วยเนื้อปู ราคานี้ถือว่าไม่แพง
รวมน้ำดื่ม 20 บาท เส้นหมี่สั่งเพิ่มสองจาน 40 บาท เป็นเงิน 940 บาท
ออกมายืนรอรถมารับที่หน้าร้านวันจันทร์
ธรรมเนียมการตั้งตี่จู้เจ้าที่ของที่นี่ เหมือนกับคนจีนในมาเลเซีย
คือยึดติดกับเสาปูนริมถนนของทางเดิน 5 ฟุต ซึ่งถือว่าดี เพราะป้องกันไฟไหม้
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ ภูเก็ต : 1
ชะอำไปบ่อยแล้ว แต่ภูเก็ตเคยไปแค่สองครั้ง และไม่เคยกินเคยเที่ยวอย่างจริงจัง
ครั้งแรกจัดทัวร์กรุงเทพ-สิงคโปร์สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย แวะภูเก็ตแค่เดี๋ยวเดียว
ครั้งที่สองไปกับเพื่อนพักที่กะตะธานี ไปแค่แหลมพรหมเทพกับกินอาหารทะเลร้านกันเอง
แม้ว่าภูเก็ตจะขึ้นชื่อเรื่องค่าใช้จ่ายแพง เที่ยวภูเก็ตเที่ยวเมืองนอกถูกกว่า
คิดอีกทีไม่ไปตอนนี้จะไปเมื่อไหร่ โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้หาข้อมูลทางเน็ทได้ง่ายจึงเลือกไปภูเก็ต
ไปครั้งนี้ครั้งเดียวไม่ไปอีกแล้ว เพราะเจอปัญหาตั้งแต่เริ่มเดินทางจนวันกลับ
จองตั๋วเครื่องบินกับไทยไลอ้อนแอร์ ไปวันธรรมดาเลี่ยงคนมากบินเช้ากลับเย็น
สองวันหนึ่งคืน ขากลับเครื่องใหญ่ที่นั่งสามแถว ก่อนเดินทางมีอีเมลยกเลิกเที่ยวบินเปลี่ยนเวลาใหม่
นึกสังหรณ์ใจเปิดอ่านก่อนเดินทางหนึ่งวัน กลายเป็นว่าขากลับเครื่องออกแต่เช้าตรู่
ต้องโทรฯไปโวยคอลเซ็นเตอร์ จนได้เที่ยวบินสามทุ่มกว่าแต่เครื่องเล็กลง
วันจันทร์ที่ 10-6-19 ไปถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ตีสี่ เครื่องออก 6.05 น.ถึงภูเก็ต 7.30 น.
แต่การจราจรทางอากาศหนาแน่นมาก รอคิวบินขึ้นเป็นลำที่แปด บินชึ้นจริง 8.31 น.
ใช้เวลาบินหนึ่งชั่วโมงสิบนาที เครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตเวลา 9.40 น.
เช่ารถตู้โดยการแนะนำของรถตู้เมืองตรัง ที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ้ค กลับมาต้องอันเฟรนด์เพราะไม่ประทับใจ
อุตส่าห์ทำรายการสถานที่ที่จะไป และร้านที่จะกิน แต่เอาแต่เชียร์ไปกินซีฟูด ไปภูเก็ตแฟนตาซีเอาค่าหัว
แทบจะไม่รู้จักร้านที่จะไปกิน จะกินร้านนี้พาไปร้านโน้น มารู้ทีหลังว่า ปกติรับส่งฝรั่งเข้าเมืองกับสนามบิน
นั่งรถเข้าเมืองตั้งใจจะไปกินติ่มซำ ไปได้ครึ่งทางแฟนบอกว่ากระเป๋าเงินหาย
โทรฯ ไล่ตั้งแต่ร้านที่สนามบินดอนเมืองจนไทยไลอ้อนแอร์ สุดท้ายหล่นอยู่บนเครื่องบินบ่ายค่อยกลับไปรับ
มาสายร้านติ่มซำปิดกันหมดแล้ว ร้านที่ตั้งใจไปกินมื้อเที่ยง คือ ร้านวันจันทร์ ซึ่งหลังร้านติดกับร้านระย้า
ร้านวันจันทร์ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมภูเก็ตทาวน์อินน์ ถนนเทพกระษัตรี ติดกับแยกตั่วโพ้
ซึ่งถนนเทพกระษัตรีตัดกับถนนดีบุก ไปถึงร้าน 11.35 น.โดยไม่ได้จอง โชคดีมีโต๊ะว่างมี่ไม่มีคนจองสองโต๊ะ
หลังจากนั้นต้องรอคิว เป็นอาคารแบบชิโนโปรตุกีสสองคูหา
ห้องน้ำอยู่ในอาคารด้านหลัง ซึ่งมีบริเวณให้นั่งรอโต๊ะ
อาหารแนะนำ
สั่งแค่สามอย่าง
เริ่มด้วยของชอบของแฟน แกงเนื้อปูใบชะพลูและเส้นหมี่ 370 บาท
เนื้อกรรเชียงปูชิ้นใหญ่ในปริมาณสมราคา แกงมีความหอม
ขับเน้นรสชาติด้วยใบชะพลู รสไม่จัดมาก
แต่ปริมาณเส้นหมี่ไม่สมดุลย์กับปริมาณแกง ต้องสั่งเส้นหมี่เพิ่ม
หมูฮ้อง 165 บาท
หมูฮ้องเป็นอาหารที่คนจีนฮกเกี้ยนนำเข้ามาทางใต้ หน้าตาดูเหมือนหมูสามชั้นพะโล้
แต่เป็นหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว ใส่รากผักชี กระเทียมและพริกไทย ต้มจนหมูสามชั้นนุ่มเครื่องซึมเข้าเนื้อ
เหลือแต่น้ำขลุกคลิก และไม่ใส่เครื่องพะโล้ แต่ก็มีบางสูตรใส่โป๊ยกั๊ก บางสูตรใส่อบเชย ไม่นิยมทำให้หวาน
หมูฮ้องของร้านวันจันทร์รสชาติดี เนื้อหมูสามชั้นนุ่มแต่ไม่ถึงกับเปื่อย น้ำค่อนข้างข้นปริมาณมาก เหมาะกับราดข้าว
น้ำพริกกุ้งเสียบ 165 บาท รสจัด เน้นผักใบของทางใต้
แต่ชอบกุ้งเสียบเต็มตัว แบบร้านหม้อข้าวหม้อแกง ทองหล่อ
ที่เลิกกิจการไปทำเฟอร์นิเจอร์ครัวมากกว่า
ยังไม่ค่อยรู้สึกอิ่ม จึงสั่งห่อหมกปูห่อหมกเนื้อปู 180 บาท
หนึ่งจานมีสามชิ้น นึ่งสดใหม่ร้อน ๆ เนื้อห่อหมกเนียน รสจัดเล็กน้อย
ใส่เนื้อปูและโรยหน้าด้วยเนื้อปู ราคานี้ถือว่าไม่แพง
รวมน้ำดื่ม 20 บาท เส้นหมี่สั่งเพิ่มสองจาน 40 บาท เป็นเงิน 940 บาท
ออกมายืนรอรถมารับที่หน้าร้านวันจันทร์
ธรรมเนียมการตั้งตี่จู้เจ้าที่ของที่นี่ เหมือนกับคนจีนในมาเลเซีย
คือยึดติดกับเสาปูนริมถนนของทางเดิน 5 ฟุต ซึ่งถือว่าดี เพราะป้องกันไฟไหม้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้