ต่อจากกระทู้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นที่ให้ยาเข็มเล็กไป และยังไม่ถึงขั้นตอนฉายแสง
เราจะมาเล่าต่อนะคะ หลังจากให้คีโมไปครบเข็มเล็กทั้งหมด 12 ครั้ง (อาทิตย์ละครั้ง) คุณหมอเคมีบำบัดและทางโรงพยาบาลทำเรื่องส่งตัวไปเข้ารับการฉายแสงที่โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งกรุงเทพ (ซอยอารีย์ 1 ) พอได้ใบส่งตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็นำเอกสารที่ยื่นที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ ไปรอคิวคุณหมอไม่นาน คุณหมอจะให้คำปรึกษาว่าเราจะต้องเข้ารับการฉายแสงทั้งหมดกี่ครั้ง รวมถึงแจ้งเป้าหมายการรักษา เนื่องจากเราเป็นมะเร็งตอนอายุน้อย คุณหมอแจ้งว่า เป้าหมายในการรักษาคือ การรักษาให้หายขาด ดังนั้น จะต้องทำการฉายแสงทั้งหมด 25 ครั้ง ต่อเนื่องกัน ในรูปแบบ ฉาย 5 วัน พัก 2 วัน โดยที่เราสามารถเลือดวันได้เองเลยค่ะ จากนั้น คุณหมอก็ให้เราไปรอคิวเพื่อทำการตีเส้นสำหรับใช้ในการฉายแสง โดยการตีเส้นนี้ จะให้เวลาประมาณ 20-30 นาที จะเป็นเครื่องสแกนจุดที่เราจะต้องฉายแสงทุกวัน แล้วคุณหมอจะใช้ปากกาตีเส้นบนตัวของเรา ดังนั้นภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนกับอีกหนึ่งอาทิตย์ เราจะต้องระวังไม่ให้น้ำโดนเส้นที่คุณหมอตีไว้ (ของเราใช้วิธีอาบเฉพาะช่วงล่าง ช่วงบนอาศัยเช็ดตัวเอาค่ะ) เพราะการตีเส้นจะใช้เวลาค่อนข้างนาน แถมยังต้องรอคิวอีกด้วยค่ะ แต่ถ้าเส้นเลือนๆ เจ้าหน้าที่ที่ทำการฉายแสงจะคอยขีดทับให้นะคะ ส่วนเรื่องคิวในการฉายแสงแต่ละวันก็รอไม่นานค่ะ เพราะทางโรงพยาบาลจะจัดคิวให้เรามาตามเวลา ในการฉายแสงก็ให้เวลาไม่ถึง 5 นาที ผู้ป่วยบางท่านก็จะขอนัดเป็นช่วงเช้า เพื่อที่จะไปทำงานต่อได้ค่ะ
หลังจากฉายแสงครบทั้ง 25 ครั้ง เราก็ค่อยมาพบคุณหมออีกทีเพื่อสรุปการรักษาทั้งหมอ หลังจากนั้นก็ไปพบคุณหมอเคมีบบำบัดตามนัด follow up ทั่วไปแล้วค่ะ แต่เนื่องจากเรายังต้องเข้ารับการให้ยา Herceptin อยู่ ดังนั้นเราจะต้องมาพบคุณหมอทุก ๆ 3 อาทิตย์ เพื่อทำการนัดวันให้ยา Herceptin ค่ะ สำหรับเรา การให้ยา Herceptin ถือว่าชิวมากกกก เหมือนเรามาให้น้ำเกลือปกติเลยค่ะ ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ (แถมเรายังไปต่อรองกับคุณหมอ ว่าขอไม่รับยาฉีดแก้แพ้ เนื่องจากไม่มีอาการแพ้ใด ๆ แต่เรามีผลข้างเคียงถ้าต้องฉีดยาแก้แพ้ เพราะต้องหอบหายใจแรงและตัวสั่นไปทั้งตัวค่ะ)
สเตตัสตอนนี้คือให้ยาครบแล้วโดสสุดท้ายคือเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 ค่ะ ไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ กลับมาทำงานเป็นเด็กน้อยมนุษย์เงินเดือนค่ะ
เพิ่มเติมคือ ตอนนี้มีแพลนที่จะเสริมเต้านมที่ตัดออกไปค่ะ จริง ๆ นัดคุณหมอไว้ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่มีการผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้ต้องเลื่อนออกไปก่อนค่ะ ถ้ามีโอกาสจะมารีวิวการเสริมเต้านม ที่ยุ่งยาก และคุณหมอให้คะแนนความยากเต็มสิบไปเลยนะคะ
สุดท้ายนี้ขอให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกท่านค่ะ มะเร็งรักษาได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว ใครที่ป่วยแล้ว คิดว่าไม่มีวันพรุ่งนี้ เราจะผ่านมันไปได้ค่ะ ยังมีวันพรุ่งนี้เสมอ
ปล. ยังถามมาหลังไมค์มาได้เหมือนเดิมนะคะ แต่อาจจะตอบช้านิดนึงเพราะไม่ค่อยได้ log in ค่ะ
ปล. 2 ขออนุญาตแท็กโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ
แปะ Part 1 ---
https://pantip.com/topic/37338599
updated จาก แชร์ประสบการณ์เป็นมะเร็ง(เต้านม)ตั้งแต่ตอนอายุ 24 ปี - Part 2
ตอนนั้นที่ให้ยาเข็มเล็กไป และยังไม่ถึงขั้นตอนฉายแสง
เราจะมาเล่าต่อนะคะ หลังจากให้คีโมไปครบเข็มเล็กทั้งหมด 12 ครั้ง (อาทิตย์ละครั้ง) คุณหมอเคมีบำบัดและทางโรงพยาบาลทำเรื่องส่งตัวไปเข้ารับการฉายแสงที่โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งกรุงเทพ (ซอยอารีย์ 1 ) พอได้ใบส่งตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็นำเอกสารที่ยื่นที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ ไปรอคิวคุณหมอไม่นาน คุณหมอจะให้คำปรึกษาว่าเราจะต้องเข้ารับการฉายแสงทั้งหมดกี่ครั้ง รวมถึงแจ้งเป้าหมายการรักษา เนื่องจากเราเป็นมะเร็งตอนอายุน้อย คุณหมอแจ้งว่า เป้าหมายในการรักษาคือ การรักษาให้หายขาด ดังนั้น จะต้องทำการฉายแสงทั้งหมด 25 ครั้ง ต่อเนื่องกัน ในรูปแบบ ฉาย 5 วัน พัก 2 วัน โดยที่เราสามารถเลือดวันได้เองเลยค่ะ จากนั้น คุณหมอก็ให้เราไปรอคิวเพื่อทำการตีเส้นสำหรับใช้ในการฉายแสง โดยการตีเส้นนี้ จะให้เวลาประมาณ 20-30 นาที จะเป็นเครื่องสแกนจุดที่เราจะต้องฉายแสงทุกวัน แล้วคุณหมอจะใช้ปากกาตีเส้นบนตัวของเรา ดังนั้นภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนกับอีกหนึ่งอาทิตย์ เราจะต้องระวังไม่ให้น้ำโดนเส้นที่คุณหมอตีไว้ (ของเราใช้วิธีอาบเฉพาะช่วงล่าง ช่วงบนอาศัยเช็ดตัวเอาค่ะ) เพราะการตีเส้นจะใช้เวลาค่อนข้างนาน แถมยังต้องรอคิวอีกด้วยค่ะ แต่ถ้าเส้นเลือนๆ เจ้าหน้าที่ที่ทำการฉายแสงจะคอยขีดทับให้นะคะ ส่วนเรื่องคิวในการฉายแสงแต่ละวันก็รอไม่นานค่ะ เพราะทางโรงพยาบาลจะจัดคิวให้เรามาตามเวลา ในการฉายแสงก็ให้เวลาไม่ถึง 5 นาที ผู้ป่วยบางท่านก็จะขอนัดเป็นช่วงเช้า เพื่อที่จะไปทำงานต่อได้ค่ะ
หลังจากฉายแสงครบทั้ง 25 ครั้ง เราก็ค่อยมาพบคุณหมออีกทีเพื่อสรุปการรักษาทั้งหมอ หลังจากนั้นก็ไปพบคุณหมอเคมีบบำบัดตามนัด follow up ทั่วไปแล้วค่ะ แต่เนื่องจากเรายังต้องเข้ารับการให้ยา Herceptin อยู่ ดังนั้นเราจะต้องมาพบคุณหมอทุก ๆ 3 อาทิตย์ เพื่อทำการนัดวันให้ยา Herceptin ค่ะ สำหรับเรา การให้ยา Herceptin ถือว่าชิวมากกกก เหมือนเรามาให้น้ำเกลือปกติเลยค่ะ ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ (แถมเรายังไปต่อรองกับคุณหมอ ว่าขอไม่รับยาฉีดแก้แพ้ เนื่องจากไม่มีอาการแพ้ใด ๆ แต่เรามีผลข้างเคียงถ้าต้องฉีดยาแก้แพ้ เพราะต้องหอบหายใจแรงและตัวสั่นไปทั้งตัวค่ะ)
สเตตัสตอนนี้คือให้ยาครบแล้วโดสสุดท้ายคือเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 ค่ะ ไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ กลับมาทำงานเป็นเด็กน้อยมนุษย์เงินเดือนค่ะ
เพิ่มเติมคือ ตอนนี้มีแพลนที่จะเสริมเต้านมที่ตัดออกไปค่ะ จริง ๆ นัดคุณหมอไว้ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่มีการผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้ต้องเลื่อนออกไปก่อนค่ะ ถ้ามีโอกาสจะมารีวิวการเสริมเต้านม ที่ยุ่งยาก และคุณหมอให้คะแนนความยากเต็มสิบไปเลยนะคะ
สุดท้ายนี้ขอให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกท่านค่ะ มะเร็งรักษาได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว ใครที่ป่วยแล้ว คิดว่าไม่มีวันพรุ่งนี้ เราจะผ่านมันไปได้ค่ะ ยังมีวันพรุ่งนี้เสมอ
ปล. ยังถามมาหลังไมค์มาได้เหมือนเดิมนะคะ แต่อาจจะตอบช้านิดนึงเพราะไม่ค่อยได้ log in ค่ะ
ปล. 2 ขออนุญาตแท็กโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ
แปะ Part 1 --- https://pantip.com/topic/37338599