Review
Star Wars: The Rise of Skywalker | เมื่อจักรวาลต้อง Move on
ไม่รู้ว่าระหว่าง เจ เจ อับรามส์ กับ ไรอัน จอห์นสัน ตอนส่งต่องานกันได้พูดคุยอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราวหรือเปล่า เพราะตอนภาคที่ 8 พี่ไรอันแทบจะล้างเนื้อเรื่องที่พี่ เจ เจปูใว้ซะเกือบหมด มันเลยทำให้การกลับมากำกับอีกครั้งในภาคที่ 9 นี้ของเจ เจดูจะเป็นงานที่ยาก

ขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะต้องมานั่งแก้บทให้มันกลับมาลงตัวกับเรื่องที่วางใว้ แถมยังต้องทำหนังเอาใจเหล่าสาวกศาสนา Star Wars ให้ถูกใจอีก เพราะงั้นจึงไม่แปลกใจที่ เจ เจใช้มุกหยิบยกเรื่องราวเก่าๆที่แฟนหนังเดนตายเห็นจะต้องร้องกรี้ดเพื่อมาเนียนๆปิดบทที่มัน “แปลกๆ” ไปบ้าง
ไคโลเรน ยังคงเป็นตัวละครที่มีมิติที่สุดในเรื่องนี้ที่ผมเอาใจช่วยนะ พี่แกดูมีจิตใจปกติที่สุดแล้วในเรื่อง มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด เขายังคงมีความเป็นมนุษย์มาก ที่ทำผิดได้และยังไม่กล้าที่จะ Move On จากความผิดที่ตัวเองก่อ บทบาทภาคนี้อาจจะไม่ได้มากนัก แต่ผมก็ยังเอาใจช่วย และบทสรุปของตัวละครนี้ก็ถือว่าหาทางลงได้ดี
เรย์และผองเพื่อนก็ยังคงเดิมคือ ต้องตามหาอะไรบางอย่างเพื่อไปทำลายอะไรอีกอย่างที่มันไม่จบไม่สิ้นซักที เรย์เป็นเจไดผู้อัพสกิล LUCK มาเต็ม ไปไหน

ก็โชคดี โชคดีคนเดียวไม่พอ ยังบัพให้เพื่อนที่อยู่ใกล้โชคดีไปด้วย เธอเป็นตัวละครที่ไม่มีจุดหมายชัดเจน จุดหมายเธอจะเปลี่ยนไปทุกภาคซึ่งต่างจาก ไคโลเรนที่ชัดเจนมาแต่แรก จึงไม่แปลกที่ผมไม่ค่อยจะเอาใจช่วยแม่สาวเจไดคนนี้ซักเท่าไหร่ มุมมองความดีของเธอที่ผมมองมันแปลกๆ ถ้าตัดเรื่องเรย์เป็นนางเอกออกไป ผมก็ว่าเรย์เป็นคนที่ชอบเสี่ยง พึ่งโชค และยังเอาแต่ใจมากเกินไปซะด้วยซ้ำ ถ้าเธอโชคร้ายซักนิดนึง ย้ำว่านิดนึงนะ บอกเลยหนังเรื่องนี้จบ

ตั้งแต่ 30 นาทีแรก
ขอเสริมอีกหน่อย ฟิน มันก็เป็นสตอมทรูปเปอร์มาก่อนนี่หว่า แต่ทำไมพอถอดชุดขาวออกนี่

เหมือนจุติเลยวะ เก่ง

เก่งจนแบบ อื้อหือ...อยากให้สตอมทรูปเปอร์อื่นๆในกองทัพถอดเกราะมาสู้กะเลย ดูสิจะเก่งพอๆกันมั้ย
ภาค 9 นี้นับว่าเป็นบทสรุปของตระกูล Skywalker (มั้ง) ที่เป็นเสาหลักของเรื่องนี้ รวมถึงจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้เสียที ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาความร่มเย็นหรือวุ่นวายล้วนเกิดจากตระกูลนี้ทั้งสิ้น มันคงถึงเวลาที่จะ Move On กันได้เสียที เรื่องฉากบู๊อลังการไม่ต้องห่วงครับมีเยอะมากจุใจแน่นอน สิ่งที่ 3 ภาคหลังนี้ที่ผมชอบที่สุดคือมันไม่ได้แบ่งมืดกับสว่างอย่างชัดเจนเหมือนภาคแรกๆ ที่ตัวร้ายคือต้องมืดนะ ตัวดีคือดีดี๊ดี ภาคนี้ตัวละครหลักมีความเป็นคนเยอะ มีความเทาๆ มันดูน่าเอาใจช่วยจริงๆ
ดูจบก็ได้แต่ถอนหายใจโล่งอกที่มันจบแล้ว จบแบบไม่มีอะไรค้างคา ถ้าหากจะมีเรื่องราวใหม่ที่น่าสนใจเราก็พร้อมที่จะไปดูนะ
7/10 สวัสดีปีใหม่ครับ
[CR] Review Star Wars: The Rise of Skywalker | เมื่อจักรวาลต้อง Move on
Star Wars: The Rise of Skywalker | เมื่อจักรวาลต้อง Move on
ไม่รู้ว่าระหว่าง เจ เจ อับรามส์ กับ ไรอัน จอห์นสัน ตอนส่งต่องานกันได้พูดคุยอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราวหรือเปล่า เพราะตอนภาคที่ 8 พี่ไรอันแทบจะล้างเนื้อเรื่องที่พี่ เจ เจปูใว้ซะเกือบหมด มันเลยทำให้การกลับมากำกับอีกครั้งในภาคที่ 9 นี้ของเจ เจดูจะเป็นงานที่ยาก
ไคโลเรน ยังคงเป็นตัวละครที่มีมิติที่สุดในเรื่องนี้ที่ผมเอาใจช่วยนะ พี่แกดูมีจิตใจปกติที่สุดแล้วในเรื่อง มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด เขายังคงมีความเป็นมนุษย์มาก ที่ทำผิดได้และยังไม่กล้าที่จะ Move On จากความผิดที่ตัวเองก่อ บทบาทภาคนี้อาจจะไม่ได้มากนัก แต่ผมก็ยังเอาใจช่วย และบทสรุปของตัวละครนี้ก็ถือว่าหาทางลงได้ดี
เรย์และผองเพื่อนก็ยังคงเดิมคือ ต้องตามหาอะไรบางอย่างเพื่อไปทำลายอะไรอีกอย่างที่มันไม่จบไม่สิ้นซักที เรย์เป็นเจไดผู้อัพสกิล LUCK มาเต็ม ไปไหน
ขอเสริมอีกหน่อย ฟิน มันก็เป็นสตอมทรูปเปอร์มาก่อนนี่หว่า แต่ทำไมพอถอดชุดขาวออกนี่
ภาค 9 นี้นับว่าเป็นบทสรุปของตระกูล Skywalker (มั้ง) ที่เป็นเสาหลักของเรื่องนี้ รวมถึงจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้เสียที ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาความร่มเย็นหรือวุ่นวายล้วนเกิดจากตระกูลนี้ทั้งสิ้น มันคงถึงเวลาที่จะ Move On กันได้เสียที เรื่องฉากบู๊อลังการไม่ต้องห่วงครับมีเยอะมากจุใจแน่นอน สิ่งที่ 3 ภาคหลังนี้ที่ผมชอบที่สุดคือมันไม่ได้แบ่งมืดกับสว่างอย่างชัดเจนเหมือนภาคแรกๆ ที่ตัวร้ายคือต้องมืดนะ ตัวดีคือดีดี๊ดี ภาคนี้ตัวละครหลักมีความเป็นคนเยอะ มีความเทาๆ มันดูน่าเอาใจช่วยจริงๆ
ดูจบก็ได้แต่ถอนหายใจโล่งอกที่มันจบแล้ว จบแบบไม่มีอะไรค้างคา ถ้าหากจะมีเรื่องราวใหม่ที่น่าสนใจเราก็พร้อมที่จะไปดูนะ
7/10 สวัสดีปีใหม่ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้