คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ตัดใจเถอะ วาสนาที่มีต่อกันมีแค่นี้
หากเขาเป็นคนหนักแน่น สายแข็ง ก็น่าลุ้น เพราะเขาคงพร้อมจะแหกธรรมเนียม โดยแคร์คุณ มากกว่าพ่อแม่ และสังคมของเขา
แต่จากที่ คุณบอกมา เขาน่าจะไม่สามารถแหกม่านประเพณี ทำเสียงแข็งกับครอบครัวเขาได้
สานต่อมีแต่จะสร้างอาวรณ์ บ่มเพาะจนเป็นนิวรณ์ ขึ้นมาทำร้ายตนเอง
หลายคนแต่งงานกันแล้ว วันหนึ่งก็อาจเลิกลากันไป จากกันด้วยดี ลูกๆ เข้าใจ
หลายคนตัดใจ เลิกกันวันนี้ ดีกว่า.....
หลายคนอาจแย้งว่า ลุ้นไปเลย มีหลานก็ใจอ่อน .......ก็ว่ากันไป แล้วแต่จริต แล้วแต่ใครถนัดเส้นทางไหน
ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร
คุณคือ คนเสี่ยง ที่ต้องระวังให้มาก ระวังคือ สำรวม คำว่าสำรวม คือ ต้องมีสติ มีความหนักแน่น
คนที่คุณต้องคุยให้ชัด คือ แฟนคุณ หากเขาตอบอนาคตได้ไม่ชัด ก็เปลี่ยนเขาเป็นแค่เพื่อนจะดีกว่า
หรือหากคำตอบเขา สอดคล้องตรงกับพี่สาวเขา ก็เปลี่ยนเขาเป็นเพื่อนเสีย บอกกันไปตรงๆ
อย่าเอาเราเป็นเครื่องแก้เหงา เมื่อต้องจากบ้านมาเรียนต่างประเทศ
แต่หากเขาหนักแน่น ว่าเขาพร้อมทิ้งมรดกทุกอย่าง เพื่อพิสูจน์ความรัก จะไปจดทะเบียนสมรส แล้วไปหางานทำ ไม่กลับประเทศ จนกว่าพ่อแม่จะยอมรับความรักของคุณมั้งสองได้ หากเช่นนี้ ก็ลุ้นต่อ สานต่อ
หากไม่ใช่เป็นนี้ ก็ควรจะหยุดการสร้างเรื่อง เพื่อลวงตัวเองให้ช้ำใจได้แล้วนะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Take Care นะครับ
หากเขาเป็นคนหนักแน่น สายแข็ง ก็น่าลุ้น เพราะเขาคงพร้อมจะแหกธรรมเนียม โดยแคร์คุณ มากกว่าพ่อแม่ และสังคมของเขา
แต่จากที่ คุณบอกมา เขาน่าจะไม่สามารถแหกม่านประเพณี ทำเสียงแข็งกับครอบครัวเขาได้
สานต่อมีแต่จะสร้างอาวรณ์ บ่มเพาะจนเป็นนิวรณ์ ขึ้นมาทำร้ายตนเอง
หลายคนแต่งงานกันแล้ว วันหนึ่งก็อาจเลิกลากันไป จากกันด้วยดี ลูกๆ เข้าใจ
หลายคนตัดใจ เลิกกันวันนี้ ดีกว่า.....
หลายคนอาจแย้งว่า ลุ้นไปเลย มีหลานก็ใจอ่อน .......ก็ว่ากันไป แล้วแต่จริต แล้วแต่ใครถนัดเส้นทางไหน
ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร
คุณคือ คนเสี่ยง ที่ต้องระวังให้มาก ระวังคือ สำรวม คำว่าสำรวม คือ ต้องมีสติ มีความหนักแน่น
คนที่คุณต้องคุยให้ชัด คือ แฟนคุณ หากเขาตอบอนาคตได้ไม่ชัด ก็เปลี่ยนเขาเป็นแค่เพื่อนจะดีกว่า
หรือหากคำตอบเขา สอดคล้องตรงกับพี่สาวเขา ก็เปลี่ยนเขาเป็นเพื่อนเสีย บอกกันไปตรงๆ
อย่าเอาเราเป็นเครื่องแก้เหงา เมื่อต้องจากบ้านมาเรียนต่างประเทศ
แต่หากเขาหนักแน่น ว่าเขาพร้อมทิ้งมรดกทุกอย่าง เพื่อพิสูจน์ความรัก จะไปจดทะเบียนสมรส แล้วไปหางานทำ ไม่กลับประเทศ จนกว่าพ่อแม่จะยอมรับความรักของคุณมั้งสองได้ หากเช่นนี้ ก็ลุ้นต่อ สานต่อ
หากไม่ใช่เป็นนี้ ก็ควรจะหยุดการสร้างเรื่อง เพื่อลวงตัวเองให้ช้ำใจได้แล้วนะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Take Care นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าคุณถูกกีดกันความรักจากครอบครัวแฟน คุณจะทำอย่างไร?
หลังจากเรียนจบ เรายังเรียนต่อป.โทที่ปักกิ่ง ส่วนแฟนต้องกลับไปช่วยที่บ้านทำธุรกิจ หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกันผ่านโซเชียล เจอกันยากขึ้น แต่รักกันเหมือนเดิม
แต่ไม่กี่วันก่อน เราได้รับข่าวร้าย คือแฟนมาบอกว่าต้องไปเรียนต่อป.โทที่อังกฤษ เป็นคำสั่งจากพ่อของเขา และถามเราว่ายังจะคบกับเขาต่อไหม เราได้ฟังก็ใจหาย แต่ปลอบใจตัวเองและเขาไปพร้อมๆกันว่า "ไม่เห็นเป็นไรเลย ตอนนี้ฉันทำงานไปด้วย เดี๋ยวฉันก็เก็บเงินไปหาเธอเอง" แต่ในใจคือเฟลมากๆค่ะ ที่แฟนไม่หนักแน่นพอ หลังจากเราพูดจบ แฟนก็เสียงเศร้าลง และบอกเราว่า พ่อของเขาไม่อนุญาตให้แต่งงานกับคนต่างชาติ มันผิดธรรมเนียม และพ่อเขาได้เตรียมว่าที่ลูกสะใภ้ไว้แล้ว เราไม่อยากเชื่อ เลยโทรหาพี่สาวแฟน พี่สาวเขาพูดกับเราว่า "น้องชายฉันเป็นคนที่ไม่เคยขัดใจพ่อแม่ ที่บ้านทำธุรกิจ น้องชายฉัน เป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ยังไงก็ต้องทำตามที่พ่อสั่ง อีกอย่าง พวกเธอคบกันต่อ ก็ไม่มีทางได้แต่งงานกัน เพราะงั้นจะคบกันไปทำไม "
แต่ใจเรายังคิดสู้ต่อ ตอนนี้เราพยายามหางานเพิ่ม เพื่อเก็บเงินไปหาแฟนที่อังกฤษ โดยที่แฟนไม่รู้เลยว่าเราพยายามหนักมาก เพื่อให้ได้อยู่กับเขา งานที่ทำตอนนี้สัญญาแค่ 3 เดือนเพราะเป็นพาร์ทไทม์ เลยกลัวว่าจะเก็บเงินได้ไม่พอ
เลยอยากถามเพื่อนๆว่า ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะทำอย่างไร จะกลับไทยไปหางานทำ หรือทำงานที่ปักกิ่งต่อไป
ปล.เราชอบสังคม การใช้ชีวิตที่ปักกิ่งมากกว่าไทย แต่สายงานเรา ถ้าทำงานที่ไทยได้เงินมากกว่าปักกิ่งนิดหน่อย (ทำที่ไทยได้ 42000บาท ทำที่ปักกิ่งได้ 40000 บาท)
ช่วยแนะนำเราทั้งเรื่องที่ว่าเราควรเดินหน้าต่อ หรือควรปล่อยวาง แล้วก็จะกลับไทย หรืออยู่ปักกิ่งต่อเพื่อหาเงินไปอังกฤษ