บทวิเคราะห์เหตุใด ที่แฟนลิเวอร์พูลยังคงไม่แน่ใจว่าจะแชมป์รึเปล่า

1. แม้แต้มขาด แต่บอลยังไม่จบ อาจจะมาถึงครึ่งทาง แต่ก็เป็นครึ่งทางที่สามารถเกิดอาชญากรรมปล้นแต้มทางฟุตบอลหรือนักเตะอย่าง มาเน่ ฟานไดจ์ อลิสซง บาดเจ็บหนักกระทันหันได้ ความมั่นใจจึงยังไม่เต็มร้อย คงต้องรอนัดที่ 30-31เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน

2. ท่าทีความแข็งกร้าว หน้าเรียบเฉยในการให้สัมภาษณ์ของซาดิโอ มาเน่ ว่าเราไม่กลัวอาการเหนื่อยล้า เราพร้อมชน เราชินแล้ว อาการแบบนี้บ่งบอกว่า คุณมีสิ่งนี้ในหัว คุณกำลังอ่อนล้า ใครเห็น ใครก็อาจจะคิดได้ กับความมั่นใจที่มากเกินไป อันตรายมากค่ะบนพื้นฐานของความเป็นจริง ช่วงพี่เจิดลื่น ตอนนั้นมาเน่ อาจจะยังเล่นบอลเพื่อสุขภาพ เก็บเงินใส่กระปุกอยู่ อาจยังไม่รับรู้ได้ถึงความกดดันมหาศาลในครั้งนี้

3. ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เรียนรู้และจดจำ กับบทเรียนรถแห่ และคณะแห่ชาวไทยที่วาดหวังแชมป์พรีเมียร์ลีคไว้ แต่สุดท้ายฝันสลาย เป็นเพียงจินตนาการอีก 1 ปีส่งประโยคคลาสสิค "เราคือแชมป์" ขึ้นหิ้งแห่งความขวยเขิน รอเก้อไปโดยปริยาย

4. ความทรงจำกับ บอลทรงลื่น หรือความผิดพลาดในเชิงกายภาพที่อ่อนล้า จากการเล่นบอลเพื่อสุขภาพอย่างเดียวมาอย่างยาวนาน นับ 30 ปี ส่งผลให้ที่ผ่านมาในนัดสำคัญๆ ไลเวอร์เบิร์ดมีความอาการเกร็ง กระตุกเป็นพักๆ ขาดความมั่นใจ การส่งบอลที่เกร็งเกินไป ด้วยความกดดัน หวาดกลัว 

ตอกย้ำอาการกองเชียร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า ความทรงจำทำให้เราต้องเจียมเนื้อ เจียมตัว ถ่อมตัวให้มากที่สุด มองโลกในแง่ร้ายให้มากกว่าที่เคย สืบเนื่องจากอาการ ว่าวจนหลอน ผิดหวังจนชาชินค่ะ 

แต่ทุกข้อที่กล่าวมาเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราอยู่บนความจริง ไม่ประมาท เจียมตัว ถ่อมตัวให้เราจากที่เป็นทีมธรรมดาๆ กลายเป็นทีมที่ได้รับเกียรตินั้นจากคนทั่วโลก เฉกเช่น แบล็กเบิร์น เลสเตอร์ แมนยู อาร์เซน่อล เชลซี แมนซิตี้ พร้อมเปิดรับค่ะ