Asia’s 2019 Heroes Of Philanthropy: Catalysts For Change
มีข่าวชิ้นหนึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหรือกระแทกสายตานักเลงคีย์บอร์ดทั่วไป สำหรับคนที่ชอบเก็บรายละเอียดของผู้คนก็ไม่ควรจะพลาดข่าวนี้กันเลย รางวัลที่นิตยสาร หัวนอกนี้ได้คัดสรร รายชื่อของผู้คนที่เรียกว่า นอกจากมีธุรกิจระดับชั้นนำแล้วก็ยังมีจิตใจที่พร้อมจะให้คืนกับสังคม ในแบบที่เข้าขั้นว่ามุ่งมั่นหรือทำเป็นประจำ รายชื่อคนที่ลิสต์มา ไล่เลียงดูแล้ว ไม่ใช่ ธรรมดาเลย เตะตากับชื่อ แจ็คหม่า เจ้าพ่ออาลีบาบา ช่ื่อนี้ไม่ต้องบรรยายมากคนรู้จักกันอยู่แล้ว ถ้าใครอยากอ่านต้นฉบับเต็มๆ คลิกลิ้งค์ได้เลย
Jack Ma Outlines Bold Vision For His Philanthropy Foundation
Jack Ma,
Founder, Jack Ma Foundation | China
นอกนั้นก็เป็นรายชื่อนักธุรกิจ และ นักกิจกรรมเพื่อสังคมชาวเอเชีย มาสะดุดตากับชื่อของผู้หญิงไทยสองท่าน ซึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับผู้หญิงเก่งทั้งสองท่านจากประเทศไทย ที่ติดลิสต์ในปีนี้ไว้ด้วย
Chuchat Petaumpai,
Chairman of the Executive Committee, Muangthai Capital | Thailand
Daonapa Petampai,
Managing Director, Muangthai Capital | Thailand
Thippaporn Ahriyavraromp,
Founder and Group CEO, DTGO | Thailand
ผู้ก่อตั้งดีทีจีโอได้รับการยกย่องจากองค์กรระดับสากล จัดอันดับบุคคลดีเด่นด้านกิจกรรมเพื่อสังคม
เราจะไม่พูดในประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง และจะไม่ขอเอ่ยถึงชื่ออื่นๆ เพราะอาจจะไกลตัวไป เอาเป็นว่า ขอตัดเข้ามาที่คนไทยที่มีรายชื่ออยู่ 3 คน ซึ่งเป็นคุณผู้ชายหนึ่ง และคุณผู้หญิงสองท่าน รายละเอียดในข่าวนี้ แม้ว่าจะบอกถึง ข้อเท็จจริง และ ที่มาว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมีชื่อติดลิสต์นี้ แต่ภายใต้ข่าวนี้ เราก็มีมุมมองส่วนตัวเกิดว่า การบริจาคเงินสนับสนุนหรือช่วยเหลือสังคม เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาหรือเธอเหล่านี้ได้รับคัดเลือกเพราะน่าจะเป็นสิ่งที่วัดมูลค่าได้ หรือจับต้องได้ แต่หลักใหญ่ที่สำคัญก็คือ เหตุผลที่ทำให้เขาหรือเธอ เหล่านี้ยืนหยัดทำงาน และแบ่งปันรายได้ช่วยเหลือองค์กรการกุศล หรือ ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสมาอย่างต่อเนื่อง จน Forbes Asia มองดูอยู่นานแล้ว ประกาศลิสต์ออกมาในปีนี้นั้น นับได้ว่า เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง หลายๆ คนหารูปมาประกอบค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ดี คนที่ทำกุศลบางครั้งก็ไม่ค่อยอยากจะออกหน้ามาบอกว่า ตัวเองช่วยคนนั้นคนนี้ เพราะไม่อยากจะป่าวประกาศแล้วผู้คนก็คิดต่างจิตใจก้ันไป บางคนรู้จริงบ้าง ไม่รู้จริงบ้าง ว่ากันไปตามประสาขาเม้า แต่สิ่งที่ ผู้หญิงไทยท้ั้งสองท่านได้แสดงออกมาให้โลกได้รับรู้ เช่นเดียวกับชายหญิงทั้งหมดในข่าวก็คือ ความงดงามที่แท้จริงของมนุษย์ อันเป็นสากล เราเห็นว่า นอกจาก รอยยิ้มสยามที่เป็นจุดขายของการท่องเที่ยวไทย ที่ทุกฝ่ายต่างอยากให้วัฒนธรรมแบบนี้ อยู่คงทนแต่ในมุมของเราเห็นว่า การที่จะอยู่อย่าง ถาวรและยั่งยืน จะเกิดได้ก็คือ รอยยิ้มนั้น ต้องมาจากจิตใจที่เต็มอิ่มด้วยรอยยิ้มจากส่วนลึก พร้อมๆ กันเพราะ มันฉายออกมาจากก้นบึ้งของจิตที่งดงาม มันจึงเปล่งประกายออกมา และแสดงออกทางสายตา และทางกาย ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือแก่ผุ้อื่นด้วยความเมตตากรุณา เราจึงเลือกข่าวนี้เป็นข่าวชวนยิ้ม ฉลองส่งท้ายปี 2562
ข่าวชวนยิ้ม เพราะน้ำใจของผู้บริหารหญิงไทยก็ทำให้ติดโผสุดยอดคนใจบุญแห่งเอเชียฉลองส่งท้ายปี 62
Asia’s 2019 Heroes Of Philanthropy: Catalysts For Change
มีข่าวชิ้นหนึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหรือกระแทกสายตานักเลงคีย์บอร์ดทั่วไป สำหรับคนที่ชอบเก็บรายละเอียดของผู้คนก็ไม่ควรจะพลาดข่าวนี้กันเลย รางวัลที่นิตยสาร หัวนอกนี้ได้คัดสรร รายชื่อของผู้คนที่เรียกว่า นอกจากมีธุรกิจระดับชั้นนำแล้วก็ยังมีจิตใจที่พร้อมจะให้คืนกับสังคม ในแบบที่เข้าขั้นว่ามุ่งมั่นหรือทำเป็นประจำ รายชื่อคนที่ลิสต์มา ไล่เลียงดูแล้ว ไม่ใช่ ธรรมดาเลย เตะตากับชื่อ แจ็คหม่า เจ้าพ่ออาลีบาบา ช่ื่อนี้ไม่ต้องบรรยายมากคนรู้จักกันอยู่แล้ว ถ้าใครอยากอ่านต้นฉบับเต็มๆ คลิกลิ้งค์ได้เลย
Jack Ma Outlines Bold Vision For His Philanthropy Foundation
Jack Ma,
Founder, Jack Ma Foundation | China
นอกนั้นก็เป็นรายชื่อนักธุรกิจ และ นักกิจกรรมเพื่อสังคมชาวเอเชีย มาสะดุดตากับชื่อของผู้หญิงไทยสองท่าน ซึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับผู้หญิงเก่งทั้งสองท่านจากประเทศไทย ที่ติดลิสต์ในปีนี้ไว้ด้วย
Chuchat Petaumpai,
Chairman of the Executive Committee, Muangthai Capital | Thailand
Daonapa Petampai,
Managing Director, Muangthai Capital | Thailand
Thippaporn Ahriyavraromp,
Founder and Group CEO, DTGO | Thailand
ผู้ก่อตั้งดีทีจีโอได้รับการยกย่องจากองค์กรระดับสากล จัดอันดับบุคคลดีเด่นด้านกิจกรรมเพื่อสังคม
เราจะไม่พูดในประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง และจะไม่ขอเอ่ยถึงชื่ออื่นๆ เพราะอาจจะไกลตัวไป เอาเป็นว่า ขอตัดเข้ามาที่คนไทยที่มีรายชื่ออยู่ 3 คน ซึ่งเป็นคุณผู้ชายหนึ่ง และคุณผู้หญิงสองท่าน รายละเอียดในข่าวนี้ แม้ว่าจะบอกถึง ข้อเท็จจริง และ ที่มาว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมีชื่อติดลิสต์นี้ แต่ภายใต้ข่าวนี้ เราก็มีมุมมองส่วนตัวเกิดว่า การบริจาคเงินสนับสนุนหรือช่วยเหลือสังคม เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาหรือเธอเหล่านี้ได้รับคัดเลือกเพราะน่าจะเป็นสิ่งที่วัดมูลค่าได้ หรือจับต้องได้ แต่หลักใหญ่ที่สำคัญก็คือ เหตุผลที่ทำให้เขาหรือเธอ เหล่านี้ยืนหยัดทำงาน และแบ่งปันรายได้ช่วยเหลือองค์กรการกุศล หรือ ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสมาอย่างต่อเนื่อง จน Forbes Asia มองดูอยู่นานแล้ว ประกาศลิสต์ออกมาในปีนี้นั้น นับได้ว่า เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง หลายๆ คนหารูปมาประกอบค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ดี คนที่ทำกุศลบางครั้งก็ไม่ค่อยอยากจะออกหน้ามาบอกว่า ตัวเองช่วยคนนั้นคนนี้ เพราะไม่อยากจะป่าวประกาศแล้วผู้คนก็คิดต่างจิตใจก้ันไป บางคนรู้จริงบ้าง ไม่รู้จริงบ้าง ว่ากันไปตามประสาขาเม้า แต่สิ่งที่ ผู้หญิงไทยท้ั้งสองท่านได้แสดงออกมาให้โลกได้รับรู้ เช่นเดียวกับชายหญิงทั้งหมดในข่าวก็คือ ความงดงามที่แท้จริงของมนุษย์ อันเป็นสากล เราเห็นว่า นอกจาก รอยยิ้มสยามที่เป็นจุดขายของการท่องเที่ยวไทย ที่ทุกฝ่ายต่างอยากให้วัฒนธรรมแบบนี้ อยู่คงทนแต่ในมุมของเราเห็นว่า การที่จะอยู่อย่าง ถาวรและยั่งยืน จะเกิดได้ก็คือ รอยยิ้มนั้น ต้องมาจากจิตใจที่เต็มอิ่มด้วยรอยยิ้มจากส่วนลึก พร้อมๆ กันเพราะ มันฉายออกมาจากก้นบึ้งของจิตที่งดงาม มันจึงเปล่งประกายออกมา และแสดงออกทางสายตา และทางกาย ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือแก่ผุ้อื่นด้วยความเมตตากรุณา เราจึงเลือกข่าวนี้เป็นข่าวชวนยิ้ม ฉลองส่งท้ายปี 2562