คือมันน่าเบื่อกว่าเดิมแบบที่เหล่าโอตะทั้ง 2 ฝ่าย
ฝ่ายแรกคือผู้ตามวงจริงๆ มีใจรักกับรูปแบบของ 48G อีกฝ่ายคือตามแค่เมม แต่ด่า อฟช. ยับ หาว่าได้เงินมาไปใช้กับวงชายบ้าง งานต่างไป บ้างแต่ไม่พัฒนาวงตัวเอง
ไม่พอ คือพอทราบข้อมูลทั้งวงพี่และวงน้องมาแล้ว ยอมรับว่ากฎธรรมเนียม 3 ปีผมไม่เคยได้ยินและไม่ทราบมาก่อน
เพราะข้อมูลต่างๆ ในวงพี่เป็นแบบนี้จริงๆ
แต่อีกฝ่ายนึงก็หาว่า เพจนั้น มั่วซั่ว ข้อมูลแบบพูดเองเออเอง คือง่ายๆคือ สรุปแล้วข้อมูลจริงๆ กับการเลือกตั้งของวงคืออะไร ธรรมเนียม 3 ปีมีที่มายังไง
ฝ่ายนึงที่เชื่อว่าข้อมูลกฎ 3 ปีไม่มีจริงก็พอเห็นด้วยหลายราย และมีคนสนับสนุนเยอะ
แต่อีกฝ่ายหาว่า มั่ว เออเอง อฟช. ห่วยแตกอยู่แล้ว และหาว่าโอตะวงม่วงหลายคนเชื่อในสิ่งที่เออเอง มั่ว บิดเบือน
สรุปแล้ว ทำให้ผมไม่เข้าใจเลยว่า กฏธรรมเนียม 3 ปีมันคืออะไร มีที่มาอย่างไร และสิ่งที่เล่ามาแบบเออเอง มันจริงหรือ
อีกเรื่องนึง ที่ทาง อฟช. ทั้งไทยและญี่ปุ่น มีมติตรงกันว่าให้เฌอลงเลือกตั้ง อันนั้นยอมรับว่างงกับรูปแบบในการลงเลือกตั้งของวงจริง
แต่พอแนทไม่ลง คือคิดอยู่ว่า ทาง อฟช. เห็นด้วยว่าแนทจะไม่ลงเลือกตั้งในรอบนี้หรือเปล่า น่าจะเห็นด้วย
แต่เหตุผลที่แนทกล่าว ก็ถูกส่วนหนึ่ง เพียงแต่กลัวว่า อฟช. จะพาแนทเข้าห้องดำหรือเปล่า ก็มีส่วน
แต่พอทางเพจ(ไม่ใช่ 2 เพจที่กล่าวไว้ข้างต้น) ก็บอกว่าการลงครั้งนี้ไม่บังคับให้เมมทุกคนลง
อันนี้ก็พอรับทราบอยู่
แต่หลังจากปิดรับสมัครนั้น
ก็มีปัญหาอีกคือ ทั้งสองฝ่ายอย่างฝ่ายเห็นด้วยกับกฎ 3 ปีที่ไม่มีจริงกับฝ่ายที่หาว่าเพจมั่ว ข้อมูลเออเอง ด่าว่า อฟช. ห่วยแตก(ถึงขั้นฝันถึงวงใหม่อย่าง AKB48 Team BK มาแล้ว ซึ่งยืนยันว่าไม่มีอยู่จริง ถึงแม้ผู้บริหารจะมีความรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น เช่นอนิเมะ ไอดอล ฯลฯ คงยากที่จะเปลี่ยนให้ AKS มาดูแล)
คือง่ายๆ คือไม่เข้าใจอ่ะ กับการโต้แย้งกันเป็นสองฝ่าย สรุปใครผิดใครถูก ง่ายๆ เลย
ฝ่ายตามวงก็คือฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายวิจารณ์เพจและการทำงาน คือฝ่ายต่อต้านวง(เช่นคนที่หมดกับความเชื่อมั่นกับวง ตามแค่เมม)
คือรู้สึกแบบ โอตะบ้านเราขาดความสามัคคีและถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายไปแล้ว
ถ้าเป็นเรานะ คือเบื่อเลย รูปแบบของวงจากญี่ปุ่นทำออกมาแบบใด ก็ต้องทำในรูปแบบนั้น
แต่ อฟช. ไทยผิดมั้ย ก็ผิด แต่อฟช. ญี่ปุ่นก็ใช้รูปแบบนี้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่โอตะบางส่วนก็ยังโทษ อฟช. ไทยอีก ซึ่งจริงๆรูปแบบของวงในญี่ปุ่นก็เป็นแบบนี้ อยู่แล้ว
แต่พอเกิดสงครามแบบนี้ ทำให้เราไม่พอใจกับเหล่าโอตะทั้งสองฝ่ายเลย สรุปแล้ว จะยอมสู้จนถึงที่สุด หรือคัดค้านและปล่อยให้เป็นรูปธรรมของวงในญี่ปุ่น
และถ้าเป็นเรา ผมจะบอกเลยว่า รูปแบบของวงในญี่ปุ่นก็มีแบบนี้ กติกาก็คือกติกา เกมก็คือเกม
รูปแบบมันเป็นแบบนี้จริงๆ
ที่พูดมาเนี่ยคือความรู้สึกล้วนๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือโอตะในไทยความเห็นที่ต่างจนนำไปสู่การเกิดความขัดแย้งได้ และเมื่อไร โอตะไทยจะกลับมาเป็นปกติสุขอีกครั้ง
จนรู้สึกแบบ ไม่อยากตามอะไรกับวงแบบนี้แล้ว โอตะทั้งหลายก็ยังแบ่งแยก ทะเลาะกัน อฟช. ไทยก็ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ(แต่บางงานทำได้ดีทีเดียวแต่บางงานทำได้แย่จริง ยังไงอฟช. ไทยก็รับทราบและนำไปแก้ไขปรับปรุง)
จนรู้สึกแบบ ถ้ายังเป็นแบบนี้คือไม่ตงไม่ตามละ ทิ้งทั้งเมมทั้งวง จะให้หยุดความขัดแย้งอะไรก็ทำไม่ได้
มีใครคิดแบบนี้บ้างมั้ย และจะทำยังไงกับโอตะที่แบ่งแยกกันแบบนี้
ปล.ไม่ดราม่ากันนะครับ
คือขอเปิดใจนิดนึงนะกับเรื่องความแตกแยกของสงครามเลือกตั้ง(ไม่ดราม่า)
ฝ่ายแรกคือผู้ตามวงจริงๆ มีใจรักกับรูปแบบของ 48G อีกฝ่ายคือตามแค่เมม แต่ด่า อฟช. ยับ หาว่าได้เงินมาไปใช้กับวงชายบ้าง งานต่างไป บ้างแต่ไม่พัฒนาวงตัวเอง
ไม่พอ คือพอทราบข้อมูลทั้งวงพี่และวงน้องมาแล้ว ยอมรับว่ากฎธรรมเนียม 3 ปีผมไม่เคยได้ยินและไม่ทราบมาก่อน
เพราะข้อมูลต่างๆ ในวงพี่เป็นแบบนี้จริงๆ
แต่อีกฝ่ายนึงก็หาว่า เพจนั้น มั่วซั่ว ข้อมูลแบบพูดเองเออเอง คือง่ายๆคือ สรุปแล้วข้อมูลจริงๆ กับการเลือกตั้งของวงคืออะไร ธรรมเนียม 3 ปีมีที่มายังไง
ฝ่ายนึงที่เชื่อว่าข้อมูลกฎ 3 ปีไม่มีจริงก็พอเห็นด้วยหลายราย และมีคนสนับสนุนเยอะ
แต่อีกฝ่ายหาว่า มั่ว เออเอง อฟช. ห่วยแตกอยู่แล้ว และหาว่าโอตะวงม่วงหลายคนเชื่อในสิ่งที่เออเอง มั่ว บิดเบือน
สรุปแล้ว ทำให้ผมไม่เข้าใจเลยว่า กฏธรรมเนียม 3 ปีมันคืออะไร มีที่มาอย่างไร และสิ่งที่เล่ามาแบบเออเอง มันจริงหรือ
อีกเรื่องนึง ที่ทาง อฟช. ทั้งไทยและญี่ปุ่น มีมติตรงกันว่าให้เฌอลงเลือกตั้ง อันนั้นยอมรับว่างงกับรูปแบบในการลงเลือกตั้งของวงจริง
แต่พอแนทไม่ลง คือคิดอยู่ว่า ทาง อฟช. เห็นด้วยว่าแนทจะไม่ลงเลือกตั้งในรอบนี้หรือเปล่า น่าจะเห็นด้วย
แต่เหตุผลที่แนทกล่าว ก็ถูกส่วนหนึ่ง เพียงแต่กลัวว่า อฟช. จะพาแนทเข้าห้องดำหรือเปล่า ก็มีส่วน
แต่พอทางเพจ(ไม่ใช่ 2 เพจที่กล่าวไว้ข้างต้น) ก็บอกว่าการลงครั้งนี้ไม่บังคับให้เมมทุกคนลง
อันนี้ก็พอรับทราบอยู่
แต่หลังจากปิดรับสมัครนั้น
ก็มีปัญหาอีกคือ ทั้งสองฝ่ายอย่างฝ่ายเห็นด้วยกับกฎ 3 ปีที่ไม่มีจริงกับฝ่ายที่หาว่าเพจมั่ว ข้อมูลเออเอง ด่าว่า อฟช. ห่วยแตก(ถึงขั้นฝันถึงวงใหม่อย่าง AKB48 Team BK มาแล้ว ซึ่งยืนยันว่าไม่มีอยู่จริง ถึงแม้ผู้บริหารจะมีความรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น เช่นอนิเมะ ไอดอล ฯลฯ คงยากที่จะเปลี่ยนให้ AKS มาดูแล)
คือง่ายๆ คือไม่เข้าใจอ่ะ กับการโต้แย้งกันเป็นสองฝ่าย สรุปใครผิดใครถูก ง่ายๆ เลย
ฝ่ายตามวงก็คือฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายวิจารณ์เพจและการทำงาน คือฝ่ายต่อต้านวง(เช่นคนที่หมดกับความเชื่อมั่นกับวง ตามแค่เมม)
คือรู้สึกแบบ โอตะบ้านเราขาดความสามัคคีและถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายไปแล้ว
ถ้าเป็นเรานะ คือเบื่อเลย รูปแบบของวงจากญี่ปุ่นทำออกมาแบบใด ก็ต้องทำในรูปแบบนั้น
แต่ อฟช. ไทยผิดมั้ย ก็ผิด แต่อฟช. ญี่ปุ่นก็ใช้รูปแบบนี้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่โอตะบางส่วนก็ยังโทษ อฟช. ไทยอีก ซึ่งจริงๆรูปแบบของวงในญี่ปุ่นก็เป็นแบบนี้ อยู่แล้ว
แต่พอเกิดสงครามแบบนี้ ทำให้เราไม่พอใจกับเหล่าโอตะทั้งสองฝ่ายเลย สรุปแล้ว จะยอมสู้จนถึงที่สุด หรือคัดค้านและปล่อยให้เป็นรูปธรรมของวงในญี่ปุ่น
และถ้าเป็นเรา ผมจะบอกเลยว่า รูปแบบของวงในญี่ปุ่นก็มีแบบนี้ กติกาก็คือกติกา เกมก็คือเกม
รูปแบบมันเป็นแบบนี้จริงๆ
ที่พูดมาเนี่ยคือความรู้สึกล้วนๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือโอตะในไทยความเห็นที่ต่างจนนำไปสู่การเกิดความขัดแย้งได้ และเมื่อไร โอตะไทยจะกลับมาเป็นปกติสุขอีกครั้ง
จนรู้สึกแบบ ไม่อยากตามอะไรกับวงแบบนี้แล้ว โอตะทั้งหลายก็ยังแบ่งแยก ทะเลาะกัน อฟช. ไทยก็ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ(แต่บางงานทำได้ดีทีเดียวแต่บางงานทำได้แย่จริง ยังไงอฟช. ไทยก็รับทราบและนำไปแก้ไขปรับปรุง)
จนรู้สึกแบบ ถ้ายังเป็นแบบนี้คือไม่ตงไม่ตามละ ทิ้งทั้งเมมทั้งวง จะให้หยุดความขัดแย้งอะไรก็ทำไม่ได้
มีใครคิดแบบนี้บ้างมั้ย และจะทำยังไงกับโอตะที่แบ่งแยกกันแบบนี้
ปล.ไม่ดราม่ากันนะครับ