สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ27ปี แฟนอายุน้อยกว่า2ปี ตอนนี้25ปีค่ะ
เรากับแฟนคบกันมาเกือบปีแล้ว เราเห็นคนรอบๆตัว เพื่อนเรา เริ่มทยอยแต่งงานกันแล้ว พ่อแม่เราก็มีพูดๆว่าอยากให้แต่งแล้ว
ช่วงนี้เวลาเจอญาติๆหรือเพื่อนแม่ ก็สักจะถามว่าเมื่อไรจะแต่ง ตัวเราก็อยากจะแต่งนะคะ แต่ว่าแฟนเราก็ยังดูไม่พร้อม จริงๆเราก็รอได้นะคะ อีกสัก3ปี แต่คนรอบตัวกดดันเรามาก หนักสุดคือคุณแม่ วันก่อนแม่พูดว่าสักปีหน้าก็น่าจะแต่งได้แล้วนะ ทั้งพ่อทั้งแม่เราอายุเริ่มมากแล้ว เขาอยากอุ้มหลานแล้วค่ะ
เราก็ไม่อยากมห้เขารอนาน เพราะเราคิดว่าจะสักตอน30 แต่เราอยากมีชีวิตแต่งงานที่อยู่กันสองคนก่อนสักปีสองปี
เราก็แอบกังวลน้อยใจปนอิจฉาว่าเมื่อไรจะเป็นเราบ้าง เราอยากรู้ความชัดเจนว่าเมื่อไรเขาจะพร้อม
รู้นะคะว่ายังคบกันนานไม่มากพอที่จะคุยเรื่องแต่งงาน แถมเขาก็อายุยังไม่มาก เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน
ทางแฟนเคยเกริ่นตั้งแต่ตอนคบกันใหม่ๆเรื่องอนาคตว่าจะเป็นยังไงบ้าง
แต่ก็ไม่เคยพูดชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อไร จนเราเอ่ยปากออกถาม
ตอนแรกเขาบอกว่า 7-8ปี เราก็แย้งไปว่า เรารอนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก เพราะเราก็อายุเริ่มมากแล้ว
ถ้ารอถึงตอนนั้นก็ปาเข้าไป35แล้ว มีลูกยาก แถมเสี่ยงอีก เราเลยบอกว่า เราเคยคิดว่าจะแต่งก่อน30 เขาก็เลยบอกว่า งั้นขออีกสัก3-4ปี
หลังจากนั้น ก็มีคุยๆกันวกเข้ามาเรื่องนี้ว่า คำว่าพร้อมของเขาคือยังไง เขาบอกว่าก็ต้องมีการงานที่มั่นคง มีบ้านเป็นของตัวเอง มีเงินสักล้านนึง
ซึ่งเรามองว่า อีก3-4ปี ยังไงก็ไม่มีทางมีครบอย่างที่เขาคิดไว้ เราเลยเริ่มกังวลขึ้นมาอีกว่า3-4ปีที่ว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆหรอ
เราเลยพยายามบอกเขาว่า ไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนั้นหรอก แค่มาอยู่ด้วยกันก็พอ เพราะเราก็ยังทำงาน บ้านเราก็มีแล้ว(คุณแม่ซื้อให้เรา) มาอยู่ที่บ้านของเรา แล้วค่อยช่วยๆกันเก็บซื้อบ้านของตัวเอง แต่เหมือนว่าเขาจะคิดว่าแต่งงานแล้วคือต้องรับผิดชอบชีวิตเราทั้งหมด ไม่อยากมาอยู่บ้านที่เป็นของเรา เขาอยากซื้อบ้านด้วยตัวเอง
พอหลังๆมา เราพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็จะแสดงอาการหงุดหงิด บางทีเราพูดเรื่องอนาคตไกลๆ เขาก็จะว่าเราว่าทำไมคิดไกลขนาดนั้นตัวเขายังไม่เคยคิดขนาดนั้นเลยนะ อย่าเพิ่งคิดได้ไหม เขากดดัน ซึ่งเราก็พยายามบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องกดดัน เพราะเราไม่ได้จะให้เขามารับผิดชอบเราขนาดนั้น เราก็ยังทำงานเองอยู่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนเป็นมาอยู่ด้วยกัน
ล่าสุดเขาบอกเราว่า เราต้องการให้เขาไปไหม เขาทำอย่างที่เราต้องการไม่ได้หรอกนะ ถ้าเราต้องการแบบนั้น เราคงต้องไปหาคนอื่นแล้วล่ะ เรารู้สึกแย่ๆมากๆที่เขาพูดแบบนี้ และแสดงท่าทีอารมณ์ไม่ดีทุกครั้งเวลาเราพูดเรื่องนี้ เหมือนเขาไม่ได้อยากแต่งกับเราเลย เหมือนเราไปบังคับเขา มีแค่เราฝ่ายเดียวที่อยากแต่งงาน
พูดตรงๆ คือตอนนี้เราต้องการความชัดเจน ไม่ต้องรีบแต่งก็ได้ แต่อยากให้ภายในปีหน้าเขาพูดกับพ่อแม่ ให้มาคุยกับพ่อแม่เราจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว หมั้นกันง่ายๆก่อน ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตก็ได้ แล้วอีกสัก3ปีถ้ายังรักกันดีอยู่ค่อยแต่งตามที่คุยกัน ตัวเราก็ยังไม่ได้มั่นใจในตัวเขา 100% นะคะ ตอนนี้มั่นใจสัก70%แล้ว ยอมรับว่ายังต้องเรียนรู้กันอีก
ตอนนี้เราทำงานเงินเดือนสองหมื่นปลายๆ แต่แฟนเราเขาเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน เมื่อก่อนเป็นฟรีแลน์ เดือนไหนมีงานเยอะก็ได้เงินเยอะ แต่บางเดือนก็ไม่มีงานเลย แต่ตั้งแต่เริ่มคบเราเขาก็หางานประจำทำให้มั่นคง ตอนนี้เงินเดือนแฟนเราหมื่นปลายๆ ทั้งบ้านเขาและบ้านเรามีธุรกิจส่วนตัวค่ะ
อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆค่ะว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ ตอนนี้เรามืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้ทั้งเขาและเราโอเคกันทั้งคู่ค่ะ
ทะเลาะกับแฟนเรื่องเราอยากแต่งงาน แต่เขายังไม่พร้อม
เรากับแฟนคบกันมาเกือบปีแล้ว เราเห็นคนรอบๆตัว เพื่อนเรา เริ่มทยอยแต่งงานกันแล้ว พ่อแม่เราก็มีพูดๆว่าอยากให้แต่งแล้ว
ช่วงนี้เวลาเจอญาติๆหรือเพื่อนแม่ ก็สักจะถามว่าเมื่อไรจะแต่ง ตัวเราก็อยากจะแต่งนะคะ แต่ว่าแฟนเราก็ยังดูไม่พร้อม จริงๆเราก็รอได้นะคะ อีกสัก3ปี แต่คนรอบตัวกดดันเรามาก หนักสุดคือคุณแม่ วันก่อนแม่พูดว่าสักปีหน้าก็น่าจะแต่งได้แล้วนะ ทั้งพ่อทั้งแม่เราอายุเริ่มมากแล้ว เขาอยากอุ้มหลานแล้วค่ะ
เราก็ไม่อยากมห้เขารอนาน เพราะเราคิดว่าจะสักตอน30 แต่เราอยากมีชีวิตแต่งงานที่อยู่กันสองคนก่อนสักปีสองปี
เราก็แอบกังวลน้อยใจปนอิจฉาว่าเมื่อไรจะเป็นเราบ้าง เราอยากรู้ความชัดเจนว่าเมื่อไรเขาจะพร้อม
รู้นะคะว่ายังคบกันนานไม่มากพอที่จะคุยเรื่องแต่งงาน แถมเขาก็อายุยังไม่มาก เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน
ทางแฟนเคยเกริ่นตั้งแต่ตอนคบกันใหม่ๆเรื่องอนาคตว่าจะเป็นยังไงบ้าง
แต่ก็ไม่เคยพูดชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อไร จนเราเอ่ยปากออกถาม
ตอนแรกเขาบอกว่า 7-8ปี เราก็แย้งไปว่า เรารอนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก เพราะเราก็อายุเริ่มมากแล้ว
ถ้ารอถึงตอนนั้นก็ปาเข้าไป35แล้ว มีลูกยาก แถมเสี่ยงอีก เราเลยบอกว่า เราเคยคิดว่าจะแต่งก่อน30 เขาก็เลยบอกว่า งั้นขออีกสัก3-4ปี
หลังจากนั้น ก็มีคุยๆกันวกเข้ามาเรื่องนี้ว่า คำว่าพร้อมของเขาคือยังไง เขาบอกว่าก็ต้องมีการงานที่มั่นคง มีบ้านเป็นของตัวเอง มีเงินสักล้านนึง
ซึ่งเรามองว่า อีก3-4ปี ยังไงก็ไม่มีทางมีครบอย่างที่เขาคิดไว้ เราเลยเริ่มกังวลขึ้นมาอีกว่า3-4ปีที่ว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆหรอ
เราเลยพยายามบอกเขาว่า ไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนั้นหรอก แค่มาอยู่ด้วยกันก็พอ เพราะเราก็ยังทำงาน บ้านเราก็มีแล้ว(คุณแม่ซื้อให้เรา) มาอยู่ที่บ้านของเรา แล้วค่อยช่วยๆกันเก็บซื้อบ้านของตัวเอง แต่เหมือนว่าเขาจะคิดว่าแต่งงานแล้วคือต้องรับผิดชอบชีวิตเราทั้งหมด ไม่อยากมาอยู่บ้านที่เป็นของเรา เขาอยากซื้อบ้านด้วยตัวเอง
พอหลังๆมา เราพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็จะแสดงอาการหงุดหงิด บางทีเราพูดเรื่องอนาคตไกลๆ เขาก็จะว่าเราว่าทำไมคิดไกลขนาดนั้นตัวเขายังไม่เคยคิดขนาดนั้นเลยนะ อย่าเพิ่งคิดได้ไหม เขากดดัน ซึ่งเราก็พยายามบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องกดดัน เพราะเราไม่ได้จะให้เขามารับผิดชอบเราขนาดนั้น เราก็ยังทำงานเองอยู่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนเป็นมาอยู่ด้วยกัน
ล่าสุดเขาบอกเราว่า เราต้องการให้เขาไปไหม เขาทำอย่างที่เราต้องการไม่ได้หรอกนะ ถ้าเราต้องการแบบนั้น เราคงต้องไปหาคนอื่นแล้วล่ะ เรารู้สึกแย่ๆมากๆที่เขาพูดแบบนี้ และแสดงท่าทีอารมณ์ไม่ดีทุกครั้งเวลาเราพูดเรื่องนี้ เหมือนเขาไม่ได้อยากแต่งกับเราเลย เหมือนเราไปบังคับเขา มีแค่เราฝ่ายเดียวที่อยากแต่งงาน
พูดตรงๆ คือตอนนี้เราต้องการความชัดเจน ไม่ต้องรีบแต่งก็ได้ แต่อยากให้ภายในปีหน้าเขาพูดกับพ่อแม่ ให้มาคุยกับพ่อแม่เราจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว หมั้นกันง่ายๆก่อน ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตก็ได้ แล้วอีกสัก3ปีถ้ายังรักกันดีอยู่ค่อยแต่งตามที่คุยกัน ตัวเราก็ยังไม่ได้มั่นใจในตัวเขา 100% นะคะ ตอนนี้มั่นใจสัก70%แล้ว ยอมรับว่ายังต้องเรียนรู้กันอีก
ตอนนี้เราทำงานเงินเดือนสองหมื่นปลายๆ แต่แฟนเราเขาเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน เมื่อก่อนเป็นฟรีแลน์ เดือนไหนมีงานเยอะก็ได้เงินเยอะ แต่บางเดือนก็ไม่มีงานเลย แต่ตั้งแต่เริ่มคบเราเขาก็หางานประจำทำให้มั่นคง ตอนนี้เงินเดือนแฟนเราหมื่นปลายๆ ทั้งบ้านเขาและบ้านเรามีธุรกิจส่วนตัวค่ะ
อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆค่ะว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ ตอนนี้เรามืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้ทั้งเขาและเราโอเคกันทั้งคู่ค่ะ