NAD ADVENTURE:: อยากหวาดเสียว ให้มาเที่ยว “ดอยมณฑา”

ดอยมณฑา กับเพื่อน 8 คน Date: 7-8 December 2019

หัวข้อที่รีวิว 
1. ทำความรู้จัก “ดอยมณฑา”
2. การติดต่อ
3. ช่วงการเปิดให้ขึ้นดอย/สภาพอากาศ
4. การเตรียมชุด/อุปกรณ์ตั้งแคมป์/อุปกรณ์เดินป่า/อุปกรณ์การทำอาหาร
5. ถึงเวลาลุย!
6. สรุปค่าใช้จ่าย

ทำความรู้จัก “ดอยมณฑา”
ดอยมณฑา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จังหวัดตาก flower
เป็นยอดเขาที่แบ่งแนวเขตระหว่าง “อำเภอแม่สอด” และ “อำเภอเมือง”
โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,057 เมตร ซึ่งสามารถเห็นวิวได้ 360 องศา
เมื่อเราดูรายละเอียดในเอกสารลงทะเบียน ระบุว่า...
ระยะเส้นทางการขึ้นยอดดอยมณฑาทั้งหมด 9 กิโลเมตร
ซึ่งแบ่งเป็น ทางค่อนข้างราบ โดยเป็นการเดินเลาะทางน้ำซึ่งเป็นทางน้ำตกเกือบตลอดทาง 6 กิโลเมตร
และเมื่อขึ้นไปถึงจุดยอดเขาของแต่ละลูกจะเริ่มเป็นทางชันอีก 3 กิโลเมตร
โดยจำนวนเขาทั้งหมดที่ต้องปีนป่ายมีทั้งหมด 4 มอ
(มอ แปลว่า ลูก ซึ่งหมายความว่า เราต้องปีนเขาจำนวน 4 ลูก นั่นเองค่ะ)

โดย มอแรก มีชื่อเรียกแล้วว่า “มอข้าวกล่อง
เม่าเริงร่า
============================================

การติดต่อ
นักท่องเที่ยวที่สนใจจะขึ้นดอยมณฑาต้องติดต่อขออนุญาตกับอุทยานตากสินมหาราชก่อน
ซึ่งเป็นการจัดการร่วมกับชุมชนบ้านปูแป้ ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
จากนั้นทางอุทยานฯ จะประสานงานกับชาวบ้านให้
"การท่องเที่ยวดังกล่าวถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์"
เพี้ยนสู้สู้
ดอยมณฑาจะเปิดให้เดินทุกวันวันละไม่เกิน 30 คน
ซึ่งลำดับการขึ้นเขา เจ้าหน้าที่จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 4-10 คน
(ถ้าจำนวนคนในกลุ่มน้อยอาจจะต้องไปแชร์กับกลุ่มอื่นๆ นะคะ)
โดยทางทีมเราไปกัน 9 คน เลยไม่ต้องแชร์รวมกับคนกลุ่มอื่นๆ แถมได้ขึ้นเป็นกลุ่มแรก

ขั้นตอนการติดต่อ
ขั้นตอนแรก: ให้โทรติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน 
Tel: 064-925-3024 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะบอกให้แอดไลน์
(คือจะให้ไอดีไลน์เลยแต่เราลืมแล้วอะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ)
ขั้นตอนที่สอง: จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดึงเข้าไลน์กลุ่ม เพื่อเข้าไปทำการจองทริปใน Line Note
เช่น ช่วงการเดินทาง ลูกหาบ เจ้าหน้าที่นำทาง ในนั้นจะมีให้ครบค่ะ
 
 ============================================

ช่วงการเปิดให้ขึ้นดอย/สภาพอากาศ
ช่วงการเปิดให้ขึ้นดอยมณฑาจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคมเท่านั้น
โดยการขึ้นดอยแต่ละเดือนนั้นสภาพอากาศค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร ตามแต่ความชอบเลย

ช่วงเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะยังคงมีฝนตกอยู่เล็กน้อย
สิ่งที่จะพบเห็นได้ระหว่างทาง คือ ต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวค่อนไปทางน้ำตาลประปลาย
ทางน้ำและน้ำตกยังมีน้ำที่มากอยู่ แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ ทาก!

ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม เป็นช่วงที่ฝนหยุดตกและเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว
ซึ่งตอนที่ทีมเราไป ระหว่างวันที่ 7-8 ธันวาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมจากจีนแผ่ลงมาพอดี
ทำให้สัปดาห์นั้นมีอากาศหนาวจัด!
เม่านอนไม่หลับ
แต่ในความโชคดี คือ เราไม่เจอทากเลยจ้า
 
 ============================================
การเตรียมชุด/อุปกรณ์ตั้งแคมป์/อุปกรณ์เดินป่า/อุปกรณ์การทำอาหาร

- การเตรียมชุด
1. รองเท้า การขึ้นดอยมณฑาเป็นการเดินที่ค่อนข้างครบรส ทั้งเดินลุยทางน้ำซึ่งเป็นทางน้ำตก

ถ้าไปในช่วงที่ยังมีน้ำ
คือ มีน้ำค่อนข้างเยอะ เราอาจจะต้องเปียกถึงหน้าแข้งกันเลยทีเดียว

แต่ถ้าเป็นช่วงที่น้ำน้อย
เราก็จะเปียกแค่ช่วงตาตุ่ม

ซึ่งไม่ว่าจะหน้าไหนรองเท้าเราก็เปียกแน่นอน
เต่าเอือม
ต่อมาก็เป็นการไต่และปีนป่าย โดยดินหรือหินบนดอยมณฑาจะมีลักษณะเป็นหินปูน
ซึ่งเมื่อหินดังกล่าวแตกเป็นดินก็จะกลายเป็นดินปูนที่ค่อนข้างแห้งและลื่น!
ดังนั้นลองเท้าที่ต้องเตรียมไปนอกจะต้องลุยน้ำได้แล้ว
ยังต้องสามารถเกาะดินปูนที่คล้ายๆ ทรายหน่อยๆ ได้ด้วยนะ
ทางที่ดี พื้นรองเท้าควรมีลักษณะเป็นปุ่มที่นอนชัดเจน ซึ่งรองเท้าที่แนะนำ คือ รองเท้า “สตั๊ดดอย”
ส่วนใครที่มีกำลังทรัพย์มากหน่อยก็ตามยี่ห้ออื่นๆ ได้เลย
ที่สำคัญ ถ้าไปช่วงที่ยังมีฝนอย่าลืมถุงเท้ากันทากด้วยนะคะ

2. ชุด ใช้ชุดตามสบายได้เลย ระหว่างทางก็ค่อนข้างเย็นและมีลมโชย หายใจสะดวก
บนดอยลมค่อนข้างแรง หน้าหนาวควรเตรียมชุดกันลม ฮีทเทค หรือชุดหนาๆ

และ
ควรเตรียมอุปกรณ์ตั้งแคมป์/อุปกรณ์เดินป่า/อุปกรณ์การทำอาหาร

ทีมไหนที่พกข้าวสารไปลูกหาบจะช่วยเราเรื่องการหุงข้าวด้วย
อย่าลืม! บนดอยไม่มีห้องน้ำ ควรพกกระดาษทิชชู่แห้งหรือเปียกไปด้วย
ลงชักโครก
 ============================================
ถึงเวลาลุย!!
เครดิตทุกรูป: ป๋าญี่ปุ่น เมย์ และผองเพื่อน รัก

เข้ามาที่อุทยานก่อน เพื่อติดต่อจองคิว
จากนั้นไปที่ ชุมชนบ้านปูแป้ เพื่อขึ้นรถอีแต๋นไปใกล้จุดขึ้นดอยมากที่สุด

เมื่อลงรถอีแต๋นก็เดินเล๊าะตามลำธารไปเรื่อยๆ

นั่งพักแปป

ทางที่เราต้องเดินกันไปเรื่อยๆ

จุดที่ลุงคนนำทางยืน คือ มอ 3 และยอดสูงๆ นั่นคือ มอ 4
บอกได้คำเดียว ลื่น และ เสียว!

ให้เห็นกันชัดๆ เลย เอ้า!

ลุงแกขึ้น มอ 4 แบบดูชิว

ยังๆ ยังไม่หมดอีก...!
ใจไม่หวั่น แต่ตัวนี่เอียงเกือบจะชิดเขาอยู่ละพี่น้อง ลมแรงดีเหลือเกิ๊น

ในที่สุดก็ถึงจุดกางเต้นท์
จุดที่ 1 คือของเราเองจ้า

มองย้อนกลับมาจะเห็นป้ายยอดดอยมณฑา
พี่จนท.เล่าให้ฟังว่าปกติแล้วทีมอื่นจะมาถึงประมาณบ่ายสาม แต่ทีมเรามาถึงตอนบ่ายสอง!!
เนื่องจากมาถึงเร็วเลยขออภิสิทธิ์ในการตั้งชื่อ มอ 1 ว่า "มอข้าวกล่อง"
เพราะ ก่อนขึ้นมอ 1 พี่จนท.ให้เรานั่งพักและทานอาหารกลางวันกันก่อน ซึ่งตอนนั้นเวลาแค่ 10:30 น.
ลองคิดภาพตามนะ กินข้าวอิ่ม แล้วต่อด้วยการเดินขึ้น มอ 1 ที่ โคตรจะชันนน!
มันเลยกลายเป็นความโหด และจุก หยอกเย้า
รู้ที่มาแล้วเนอะ
เจ้าคิกคัก
ส่วนมอต่อๆ ไป ก็ ช่วยกันตั้งต่อกันเนอะ

เย็นๆ มาล้อมวงกินสุกี้

ตอนเช้าๆ ล้อมวงตากแดด ผิงไฟ
ทริปนี้จขกท. ไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเลย เพราะแค่แบกตัววเองก็หนักแล้ว
เลยอาศัยรูปจากคนในทีมมาแทน
เพี้ยนสะอื้น

ปอลิง. อย่าลืมเรียก มอ 1 ว่า "มอข้าวกล่อ" นะ
เพี้ยนลอย
============================================
สรุปค่าใช้จ่าย
============================================

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่