ชีวิตดี ที่กทม.
หมู่บ้านแสนสุข /ตอนที่ 1 หมู่บ้านแสนสุขกับเสียงแสนดัง,เกริ่นตอน2 เพื่อนบ้าน แสนดีกับบุหรี่แสนเหม็น(และอื่นๆ)
ชีวิตคนกรุง 2019
ใกล้สิ้นปี ใกล้เทศกาลเฉลิมฉลอง หลายคนคงวางแผน กันแล้ว เตรียมพักผ่อน หยุดพักจากงาน บางคน อาจไปต่างจังหวัด หรือ ไปต่างประเทศ ในช่วงค่าเงินแข็งอย่างนี้
ส่วนผม ต้องมาเตรียมปวดหัว กับเรื่องราวบ้าบอ ที่ไม่คิดว่าจะมาเจอ จากเดิม ที่แย่ กลับเป็นแย่กว่า เรื่องอะไร เหรอ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง (ส่วนใครอยากอ่านฉบับย่อ เรื่องสั้นๆคือ เสียงดัง จากลำโพงที่เปิดดังข้ามซอย แจ้งหน่วยงานมาหลายปี ไม่มีผล และ เพื่อนบ้าน ที่สูบบุหรี่ นำบ้าน ทาวโฮม ทำบริษัท ปัญหาก็ตามมาทั้งเรื่องคน เรื่องจอดรถ เป็นต้น)
สรุปส่วนตอนที่ 1 คือ เสียงดัง แจ้งหน่วยงาน หลาย ปี ไม่ได้ผล และแนะนำ ,ปรับปรุงวิธี ทำงาน ของเจ้าหน้าที่
เท้าความถึง ปัญหาที่เกิดหลายปีมานี่ เริ่มต้นที่ มีเหตุให้ต้องย้ายที่อยู่ มา ณ ที่ปัจจุบัน ซึ่งไม่คิดว่าจะได้เจอ ได้รู้ถึง สิ่งซึ่งสะท้อน หลายส่วนของสังคมเรา สังคมที่ผมไม่น่าจะเป็นสังคมที่ “ควรจะเป็น” แต่เป็นสังคมที่เป็นอยู่และ ผมเชื่อว่าจะเป็นต่อไป สังคมที่ไม่อยากให้ลูกหลานอยู่ ถ้าไม่ทำอะไรเลย
ที่สุดผมย้าย มาอยู่ ที่ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร ซ.นวมินทร์ 7x ถ.นวมินทร์ เขตบึงกุ่ม ใกล้ตลาดมือสองชื่อดัง
ตอนแรกที่ย้ายมาไม่คิดว่า มันจะเป็น อย่างนี้ แม้ไม่ได้ดูเป็นหมู่บ้านสุขสันต์ในละคร แต่ผมก็อยู่ กรุงเทพมาแต่ไหนแต่ไร ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรนักหนา ครั้งนี้ ขอเล่าเรื่องที่สุดจะทนแล้วซัก เรื่อง สองเรื่องก่อนละกัน
เรื่องแรก เสียงดังสุดๆ โดยเฉพาะ ปีใหม่…(ปีใหม่บางคนก็ต้องการพักผ่อนเงียบๆไหมครับ)
เรื่องที่สอง เพื่อนบ้าน ที่…
ย้อนกลับไปวัน 10 ธันวาคมที่ผ่านมา หลายคน คงหยุดกัน ประมาณ เที่ยงมาแล้ว ตึบๆ ตึบๆ จังหวะเพลงและเสียงเบส กระทบโสตประสาท คิดในใจ อีกแล้วเหรอวะ (เสียงลำโพงจาก เครื่องขยายเสียง /ตัวอย่าง ตามคลิป ไม่แน่ใจว่าจะอัดเสียงได้มากน้อยแค่ไหนแต่มันดังและส่งผลกระทบ ไกลพอควรโดยเฉพาะเสียงเบส ซึ่งเป็นเสียงต่ำ ทะลวงไปได้ไกลมากๆ ต้นเสียงอยู่หลังกำแพงโน้นเลยนะครับ ถ้าบางคนคิดว่ามันไม่ดังเท่าไหร่ แล้วคนที่บ้านติดกำแพงล่ะ เพราะความจริงนับว่าอยู่คนละซอยเลยทีเดียว แต่ทะลุข้ามมาไกล)
10 ธันวาคม 62-ตั้งแต่เที่ยง น่าจะถึงค่ำ
11 ธันวาคม 62-สามทุ่ม ถึง ราวสี่ทุ่มกว่า( เท่าที่ได้ยิน)
ตัวอย่างคลิปบางส่วน


คนกลุ่มเดิม ที่เดิม แบบเดิม เปิดเพลงผ่านลำโพง เสียงดัง เป็นประจำ เป็นประจำ แม้ไม่ถึงกับทุกวัน แต่บ่อยครั้งมาก บางครั้ง ติดกันหลายวัน ช่วงพีคคือ ปีใหม่ เช่น ปีที่ผ่านมา
ธันวาคม 61 ต่อ มกราคม 62
พฤ 27 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ราว 2 ทุ่ม ไม่ทราบเวลาปิด
ศ 28 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ประมาณเที่ยง ไม่ทราบเวลาปิด
ส 29 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ช่วง เย็นๆ ถึง ประมาณ เกือบเที่ยงคืน
อา 30 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ช่วง เย็นๆ ถึง ประมาณ เกือบเที่ยงคืน/ดังมากๆ
จ 31 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ช่วง เย็นๆ ถึง ประมาณ เกือบ ตีสี่/ดังมากๆ
อ 1 มกราคม 62
จัดตั้งแต่ 10 โมงกว่า ยาวถึงกี่โมงไม่แน่ชัด
ที่ไม่ได้บันทึกไว้เพราะบางวันไปธุระ ถ้าจำไม่ผิด มีวันนึง พาคนป่วยไปโรงพยาบาล บางวันก็ลี้ภัยตัวเอง ก่อนประสาทจะกิน บางวันก็พยายาม ไม่สนใจ แต่มันใช่เหรอครับ
จะไม่ให้คนอื่นพักผ่อนอย่างเงียบสงบบ้างเลยหรือ
และ กรุณาอย่าอ้างถึงการอยู่มาก่อน หรืออะไรทำนองนี้ เพราะหมู่บ้าน สร้างได้ก็ต้องขออนุญาตเขตพื้นที่ เป็นที่พักอาศัยอยู่แล้ว คุณย่อมไม่มีสิทธิอ้าง อะไรแบบนี้
เท่าที่ลองดูข้อกฎหมายต่างๆ คิดว่า กลุ่มนี้ ก็น่าจะผิดหลายข้อ ตั้งแต่ ใช้เครื่องขยายเสียงไม่ได้รับอนุญาต(ถึงขอก็ไม่น่าจะได้เพราะไม่มีเหตุต้องเปิดขนาดนั้น เพื่อความบันเทิงส่วนตัว),ส่งเสียงดังยามวิกาล,ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ ฯลฯ ถ้ารวมๆกันหลายข้อ โทษก็พอควรเลย แต่ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ถึงเวลาอยากกิน อยากเต้น อยากเปิดก็จัดกันไปสบายใจ คนที่ไม่อยากฟังละ คนอื่นๆล่ะ ?
และเวลาแจ้งเหตุไป ไม่รู้กี่รอบ ในช่วง 4-5 ปี(เป็นอย่างน้อย) ลองทายว่าเป็นไง
ถูกต้องคร้าบ ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
ลองดูบทสนทนาที่จี๊ดๆเวลาแจ้งเรื่องแบบนี้นะครับ
แจ้งไป ช่วง ปีใหม่ หรือ เทศกาล( บทสนทนาสมมติ แต่เนื้อความแบบนี้ หลายคน อาจเคยเจอ)
คอลเซนเตอร์ : สวัสดีค่ะ/ครับ มีเรื่องร้องเรียน หรือ แจ้งอะไรครับ
ประชาชน : แจ้ง เสียงดังรบกวน เปิดลำโพง ร้องเพลง น่าจะกินเหล้ากันมั้งครับ
คอลเซนเตอร์ : บอกก่อนนะคะ ว่าเรา ไม่สามารถ ให้เขา หยุดได้ แต่จะแจ้งให้เสียงเบาลง (คือ ตรงนี้มันแปลกๆ หรือเปล่า คนทำผิด กฎหมาย ตั้งแต่แรก แต่ไปให้เขา หยุดการกระทำผิดนั้นไม่ได้ โคตร…….(เติมคำ ให้หน่อยครับ)อย่าบอกว่าจะไปละเมิดสิทธิ เขานะครับ เพราะ พวกเขาทำผิดแล้ว ผิดอีก ผิด ตั้งแต่ ที่ เอาตู้ลำโพง มาเปิด แล้ว คือ งงกับงานกินเลี้ยง กันเองแบบนี้ ใช้ลำโพง ดังกันขนาดนั้น ยังไงก็รบกวนชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ถ้าคุณ อยู่แบบที่ เป็นร้อยเป็นพันไร่ ก็ว่าไป นี่ ใน กรุงเทพฯ เป็นหลักสิบเมตร ยังไงตู้พวกนี้ มันรบกวนอยู่แล้ว และขอเถอะ อย่าเอามาตรฐาน อะไร แบบวัด เครื่อง หรือยานพาหนะ มาใช้ แบบ 90 เดซิเบล อะรไแบบนั้น เอาชีวิตจริง ไม่ถึง 90 ก็หนวกหู แล้ว แล้วคนพวกนี้ ชอบเปิดนานๆด้วย
ประชาชน : ครับ บอก (สถานที่…) ขอบคุณ วางสาย เดาผล กันได้เลยครับ ครู่ต่อมา ดนตรี ตึงตึ๊ง มาอีกแล้ว เผลอๆมาหนักกว่าเดิม ประมาณว่า แจ้งไปใช่ไหมจัดหนักให้เลย
ต้องขอบอกตรงนี้ว่าไม่มีเจตนาใด ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจ หรือว่าร้ายเจ้าหน้าที่ แต่อย่างใด แต่ขอสะท้อนไปถึง ระบบ,ขั้นตอนการดำเนินการที่ต้องดีกว่านี้ และปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นครับ
กลับมาที่เรื่องตัวผม วันที่ 10 ธันวาคม (วันที่เริ่มเปิดเสียง ช่วงเที่ยง) ที่ผ่านมา คนสูงอายุที่บ้านป่วย ไปโรงพยาบาล ช่วงดึกๆ กลับ บ้าน( 11 ธันวาคม 62) ประมาณ ตี 4 ราว 9 โมงเช้าเศษๆ ต้องตื่น เพราะเพื่อนบ้าน ต่อเติม บ้าน ตกดึก สามทุ่ม เอาอีกแล้ว เปิดอีกแล้ว จะเป็นอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมากี่รอบกัน ปีๆหนึ่ง ไม่รู้กี่ครั้ง ไม่รู้กี่วันกัน สุขภาพจิต สุขภาพกายย่ำแย่ลงทุกวัน
และ อย่าลืมว่า เรื่องเสียง รบกวน มันไม่ใช่ กลุ่มเดียว จุดเดียวที่ เป็นนะครับ มีกรณีอื่น จุดอื่นอีก ซึ่ง เวลาแจ้งไปก็คล้ายๆกัน เงียบไปพักนึงแล้วก็ดัง แต่จุดนี้ สุดๆจริงๆ
บางที เด็กป่วย,คนป่วย ยังต้องมาทนกับเสียงอีก ทั้งๆที่ แม้ว่าจะไม่เจ็บป่วย หรือ เป็นคนแข็งแรง คนทั่วไป ย่อมต้องมี สิทธิ อยู่อย่างสงบ กันทุกคน
ลองไปดูสถิติเรื่องร้องเรียน จาก กทม.
http://www.bangkok.go.th/gad/page/main/2314/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%8C
จากสถิติ เรื่องราว ร้องทุกข์ กทม. เรื่องเหตุเดือดร้อนรำคาญ เดือนละ 1,500-2,000 ราย การจัดการ แก้ไขสำเร็จ 60-70 เปอร์เซนต์ จริงหรือ ลองคิดกันดู แต่จากประสบการณ์ และ ฟีดแบ็คใน อนเตอเน็ต ไม่น่าเป็นอย่างนั้น การจบเคส เพราะ คนแจ้งเรื่องเดิม เช่นผม แล้วเคสเก่า จบไป? หรือเปล่า ใครจะตอบได้
แล้วข้อมูลที่เก็บไว้มีการนำไปวิเคราะห์แยกแยะปัญหา ต่อหรือไม่ เช่น เรื่องนี้ เกิดจุดไหนบ้าง เกิดมาก น้อยอย่างไร เพราะอะไร ถ้าเกิดซ้ำๆ เพราะอะไร มีการปรับปรุงขั้นตอนดำเนินการ ไหม อย่างไรบ้าง
โดยรวมๆ แค่คนที่แจ้งไปก็เป็นหมื่น เคสแล้ว แล้ววิธีดำเนินการยังเป็นแบบเดิม ปัญหาจะไม่ถูกแก้หรอก นอกจากทับถมเพิ่ม ขึ้น แต่ตัวเลขสถิติ จะเพิ่มไหม ไม่แน่หรอกเพราะ คนเบื่อที่จะแจ้ง หรือเปล่า แล้วเคสที่คนไม่แจ้ง ไม่ใช่ไม่มีปัญหานะครับ
กลับมาที่ข้อมูล เหตุ ที่กระทบมากที่สุดคือ เหตุเดือดร้อนรำคาญ แน่นอน เรื่องเสียง รวมอยู่ในนั้น แต่วิธีการจัดการปัญหาที่เป็น สิ่งกระทบ มากที่สุดกลับเป็น เช่นนี้ หรือ ต้องเปลี่ยน แปลงแล้วครับ
จากข่าวเรื่องราวต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา เช่น เรื่อง ป้าขวาน ทุบรถ,เรื่องระฆัง วัดกับคอนโด ล้วนแสดงถึง ขั้นตอน วิธีการ ที่ไม่เป็นมาตรฐาน ของหน่วยงานซึ่งดูแล คนนับล้าน
รวมถึงข่าวต่างๆ ที่จบด้วยความรุนแรง ถึงเสียชีวิต เช่น ทะเลาะกันเรื่อง เสียงหมาเห่า,เสียงรถมอเตอร์ไซค์,เสียงลำโพง.ที่จอดรถ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเชื่อว่าจะมีมากขึ้น ตามสภาพสังคม สภาพจำนวนประชากร เช่น เรื่องรถและ บิ๊กไบค์ ความเป็นอยู่ รายได้ที่มากขึ้น ตามจำนวนชนชั้นกลาง ราคารถยนต์ ไม่ต่างจากเดิม มากเช่น ราคาเริ่มต้นของรถb seg มีรถ ecocar ,บิ๊กไบค์ก็ราคาลดลงมาก จากสมัยก่อน ปัญหาที่จอดรถ เสียง และเรื่องรบกวน ตามมามากมาย แต่วิธีจัดการเหมือนเดิม?
ผมคิดว่าต้องมีการจัดเป็นวาระ หรือ หน่วยเฉพาะบางอย่าง เพื่อจัดการปรับปรุงกระบวนการแล้ว ไม่ใช่เพียงดูแลเป็นจุดๆ เฉพาะ จุดที่เป็นข่าว,จุดที่ดัง,หรือดาราโพสต์ลงโซเชียล แค่นั้น ต้องมีการทำงานเชิงรุกมากขึ้นแล้ว
เหตุต่างๆที่เกิด ขึ้นเช่นกับตัวผม ซ้ำแล้วซ้ำอีก การตักเตือนดำเนินการ มีการแจ้งรายละเอียด ระบุโทษต่างๆให้คนทำผิดไหม คงไม่ ,บันทึกข้อมูลไว้มากน้อยแค่ไหน นำไปใช้ประมวลผลยังไง
จากประสบการณ์ แล้วคนที่ทำผิดซ้ำๆ เหมือนเป็นหนูไม่กลัวแมวแค่นั้น ไม่มีมาตรการอะไร
การเข้ามาแล้วเเข้ามาอีกนับสิบครั้ง ของเจ้าหน้าที่ เป็นการเผาภาษีของประชาชนอย่างที่สุด
ผลจากการแจ้ง(แจ้งไป ไม่รู้กี่รอบ ในช่วง 5-6 ปี) คอลเซนเตอร์ กทม.1555 ล่าสุด คำตอบคือ เจ้าหน้าที่ ได้ตักเตือนไปแล้วคนก่อเหตุ จะแก้ไข ซึ่ง คำตอบนี้ ได้รับมาหลายครั้งแล้ว ถ้ากลุ่มนี้ จะไม่ทำจริง ต้องไม่มีเสียงแล้ว เพราะ ยังไงที่ดิน ตรงนี้ เจ้าของไม่น่าเปลี่ยนบ่อยๆ และถ้าเป็นการเช่า ล่ะถูกต้องหรือไม่
/จุดต้นเสียง เจ้าปัญหา ลักษณะ คล้ายบ้าน หรือที่ดินเช่า ถ้า จะมีเจ้าหน้าที่มาดู ก็ฝากดูแล เรื่อง ความถูกต้อง ด้านต่างๆด้วยนะครับ ความปลอดภัย ของสิ่งปลูกสร้าง,สิ่งผิดกฎหมาย หรือ คน เข้าออก(เรื่อง คนใกล้บ้าน ที่ ไม่รู้เป็นใครจากไหน พูดภาษาต่างชาติ คนต่างด้าว ก็เป็นอีกปัญหา หากมีโอกาส มาว่ากันอีกที เพราะขนาดอยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างปิด ก็ยังมีปัญหา)
ปีใหม่ใกล้มา กับปัญหาคนกรุง -เสียงดัง,ขอความช่วยเหลือ แชร์,ระบาย+แนะนำหน่วยงานรัฐ
หมู่บ้านแสนสุข /ตอนที่ 1 หมู่บ้านแสนสุขกับเสียงแสนดัง,เกริ่นตอน2 เพื่อนบ้าน แสนดีกับบุหรี่แสนเหม็น(และอื่นๆ)
ชีวิตคนกรุง 2019
ใกล้สิ้นปี ใกล้เทศกาลเฉลิมฉลอง หลายคนคงวางแผน กันแล้ว เตรียมพักผ่อน หยุดพักจากงาน บางคน อาจไปต่างจังหวัด หรือ ไปต่างประเทศ ในช่วงค่าเงินแข็งอย่างนี้
ส่วนผม ต้องมาเตรียมปวดหัว กับเรื่องราวบ้าบอ ที่ไม่คิดว่าจะมาเจอ จากเดิม ที่แย่ กลับเป็นแย่กว่า เรื่องอะไร เหรอ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง (ส่วนใครอยากอ่านฉบับย่อ เรื่องสั้นๆคือ เสียงดัง จากลำโพงที่เปิดดังข้ามซอย แจ้งหน่วยงานมาหลายปี ไม่มีผล และ เพื่อนบ้าน ที่สูบบุหรี่ นำบ้าน ทาวโฮม ทำบริษัท ปัญหาก็ตามมาทั้งเรื่องคน เรื่องจอดรถ เป็นต้น)
สรุปส่วนตอนที่ 1 คือ เสียงดัง แจ้งหน่วยงาน หลาย ปี ไม่ได้ผล และแนะนำ ,ปรับปรุงวิธี ทำงาน ของเจ้าหน้าที่
เท้าความถึง ปัญหาที่เกิดหลายปีมานี่ เริ่มต้นที่ มีเหตุให้ต้องย้ายที่อยู่ มา ณ ที่ปัจจุบัน ซึ่งไม่คิดว่าจะได้เจอ ได้รู้ถึง สิ่งซึ่งสะท้อน หลายส่วนของสังคมเรา สังคมที่ผมไม่น่าจะเป็นสังคมที่ “ควรจะเป็น” แต่เป็นสังคมที่เป็นอยู่และ ผมเชื่อว่าจะเป็นต่อไป สังคมที่ไม่อยากให้ลูกหลานอยู่ ถ้าไม่ทำอะไรเลย
ที่สุดผมย้าย มาอยู่ ที่ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร ซ.นวมินทร์ 7x ถ.นวมินทร์ เขตบึงกุ่ม ใกล้ตลาดมือสองชื่อดัง
ตอนแรกที่ย้ายมาไม่คิดว่า มันจะเป็น อย่างนี้ แม้ไม่ได้ดูเป็นหมู่บ้านสุขสันต์ในละคร แต่ผมก็อยู่ กรุงเทพมาแต่ไหนแต่ไร ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรนักหนา ครั้งนี้ ขอเล่าเรื่องที่สุดจะทนแล้วซัก เรื่อง สองเรื่องก่อนละกัน
เรื่องแรก เสียงดังสุดๆ โดยเฉพาะ ปีใหม่…(ปีใหม่บางคนก็ต้องการพักผ่อนเงียบๆไหมครับ)
เรื่องที่สอง เพื่อนบ้าน ที่…
ย้อนกลับไปวัน 10 ธันวาคมที่ผ่านมา หลายคน คงหยุดกัน ประมาณ เที่ยงมาแล้ว ตึบๆ ตึบๆ จังหวะเพลงและเสียงเบส กระทบโสตประสาท คิดในใจ อีกแล้วเหรอวะ (เสียงลำโพงจาก เครื่องขยายเสียง /ตัวอย่าง ตามคลิป ไม่แน่ใจว่าจะอัดเสียงได้มากน้อยแค่ไหนแต่มันดังและส่งผลกระทบ ไกลพอควรโดยเฉพาะเสียงเบส ซึ่งเป็นเสียงต่ำ ทะลวงไปได้ไกลมากๆ ต้นเสียงอยู่หลังกำแพงโน้นเลยนะครับ ถ้าบางคนคิดว่ามันไม่ดังเท่าไหร่ แล้วคนที่บ้านติดกำแพงล่ะ เพราะความจริงนับว่าอยู่คนละซอยเลยทีเดียว แต่ทะลุข้ามมาไกล)
10 ธันวาคม 62-ตั้งแต่เที่ยง น่าจะถึงค่ำ
11 ธันวาคม 62-สามทุ่ม ถึง ราวสี่ทุ่มกว่า( เท่าที่ได้ยิน)
ตัวอย่างคลิปบางส่วน
คนกลุ่มเดิม ที่เดิม แบบเดิม เปิดเพลงผ่านลำโพง เสียงดัง เป็นประจำ เป็นประจำ แม้ไม่ถึงกับทุกวัน แต่บ่อยครั้งมาก บางครั้ง ติดกันหลายวัน ช่วงพีคคือ ปีใหม่ เช่น ปีที่ผ่านมา
ธันวาคม 61 ต่อ มกราคม 62
พฤ 27 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ราว 2 ทุ่ม ไม่ทราบเวลาปิด
ศ 28 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ประมาณเที่ยง ไม่ทราบเวลาปิด
ส 29 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ช่วง เย็นๆ ถึง ประมาณ เกือบเที่ยงคืน
อา 30 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ช่วง เย็นๆ ถึง ประมาณ เกือบเที่ยงคืน/ดังมากๆ
จ 31 ธันวาคม 61
เริ่มเปิด ช่วง เย็นๆ ถึง ประมาณ เกือบ ตีสี่/ดังมากๆ
อ 1 มกราคม 62
จัดตั้งแต่ 10 โมงกว่า ยาวถึงกี่โมงไม่แน่ชัด
ที่ไม่ได้บันทึกไว้เพราะบางวันไปธุระ ถ้าจำไม่ผิด มีวันนึง พาคนป่วยไปโรงพยาบาล บางวันก็ลี้ภัยตัวเอง ก่อนประสาทจะกิน บางวันก็พยายาม ไม่สนใจ แต่มันใช่เหรอครับ
จะไม่ให้คนอื่นพักผ่อนอย่างเงียบสงบบ้างเลยหรือ
และ กรุณาอย่าอ้างถึงการอยู่มาก่อน หรืออะไรทำนองนี้ เพราะหมู่บ้าน สร้างได้ก็ต้องขออนุญาตเขตพื้นที่ เป็นที่พักอาศัยอยู่แล้ว คุณย่อมไม่มีสิทธิอ้าง อะไรแบบนี้
เท่าที่ลองดูข้อกฎหมายต่างๆ คิดว่า กลุ่มนี้ ก็น่าจะผิดหลายข้อ ตั้งแต่ ใช้เครื่องขยายเสียงไม่ได้รับอนุญาต(ถึงขอก็ไม่น่าจะได้เพราะไม่มีเหตุต้องเปิดขนาดนั้น เพื่อความบันเทิงส่วนตัว),ส่งเสียงดังยามวิกาล,ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ ฯลฯ ถ้ารวมๆกันหลายข้อ โทษก็พอควรเลย แต่ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ถึงเวลาอยากกิน อยากเต้น อยากเปิดก็จัดกันไปสบายใจ คนที่ไม่อยากฟังละ คนอื่นๆล่ะ ?
และเวลาแจ้งเหตุไป ไม่รู้กี่รอบ ในช่วง 4-5 ปี(เป็นอย่างน้อย) ลองทายว่าเป็นไง
ถูกต้องคร้าบ ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
ลองดูบทสนทนาที่จี๊ดๆเวลาแจ้งเรื่องแบบนี้นะครับ
แจ้งไป ช่วง ปีใหม่ หรือ เทศกาล( บทสนทนาสมมติ แต่เนื้อความแบบนี้ หลายคน อาจเคยเจอ)
คอลเซนเตอร์ : สวัสดีค่ะ/ครับ มีเรื่องร้องเรียน หรือ แจ้งอะไรครับ
ประชาชน : แจ้ง เสียงดังรบกวน เปิดลำโพง ร้องเพลง น่าจะกินเหล้ากันมั้งครับ
คอลเซนเตอร์ : บอกก่อนนะคะ ว่าเรา ไม่สามารถ ให้เขา หยุดได้ แต่จะแจ้งให้เสียงเบาลง (คือ ตรงนี้มันแปลกๆ หรือเปล่า คนทำผิด กฎหมาย ตั้งแต่แรก แต่ไปให้เขา หยุดการกระทำผิดนั้นไม่ได้ โคตร…….(เติมคำ ให้หน่อยครับ)อย่าบอกว่าจะไปละเมิดสิทธิ เขานะครับ เพราะ พวกเขาทำผิดแล้ว ผิดอีก ผิด ตั้งแต่ ที่ เอาตู้ลำโพง มาเปิด แล้ว คือ งงกับงานกินเลี้ยง กันเองแบบนี้ ใช้ลำโพง ดังกันขนาดนั้น ยังไงก็รบกวนชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ถ้าคุณ อยู่แบบที่ เป็นร้อยเป็นพันไร่ ก็ว่าไป นี่ ใน กรุงเทพฯ เป็นหลักสิบเมตร ยังไงตู้พวกนี้ มันรบกวนอยู่แล้ว และขอเถอะ อย่าเอามาตรฐาน อะไร แบบวัด เครื่อง หรือยานพาหนะ มาใช้ แบบ 90 เดซิเบล อะรไแบบนั้น เอาชีวิตจริง ไม่ถึง 90 ก็หนวกหู แล้ว แล้วคนพวกนี้ ชอบเปิดนานๆด้วย
ประชาชน : ครับ บอก (สถานที่…) ขอบคุณ วางสาย เดาผล กันได้เลยครับ ครู่ต่อมา ดนตรี ตึงตึ๊ง มาอีกแล้ว เผลอๆมาหนักกว่าเดิม ประมาณว่า แจ้งไปใช่ไหมจัดหนักให้เลย
ต้องขอบอกตรงนี้ว่าไม่มีเจตนาใด ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจ หรือว่าร้ายเจ้าหน้าที่ แต่อย่างใด แต่ขอสะท้อนไปถึง ระบบ,ขั้นตอนการดำเนินการที่ต้องดีกว่านี้ และปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นครับ
กลับมาที่เรื่องตัวผม วันที่ 10 ธันวาคม (วันที่เริ่มเปิดเสียง ช่วงเที่ยง) ที่ผ่านมา คนสูงอายุที่บ้านป่วย ไปโรงพยาบาล ช่วงดึกๆ กลับ บ้าน( 11 ธันวาคม 62) ประมาณ ตี 4 ราว 9 โมงเช้าเศษๆ ต้องตื่น เพราะเพื่อนบ้าน ต่อเติม บ้าน ตกดึก สามทุ่ม เอาอีกแล้ว เปิดอีกแล้ว จะเป็นอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมากี่รอบกัน ปีๆหนึ่ง ไม่รู้กี่ครั้ง ไม่รู้กี่วันกัน สุขภาพจิต สุขภาพกายย่ำแย่ลงทุกวัน
และ อย่าลืมว่า เรื่องเสียง รบกวน มันไม่ใช่ กลุ่มเดียว จุดเดียวที่ เป็นนะครับ มีกรณีอื่น จุดอื่นอีก ซึ่ง เวลาแจ้งไปก็คล้ายๆกัน เงียบไปพักนึงแล้วก็ดัง แต่จุดนี้ สุดๆจริงๆ
บางที เด็กป่วย,คนป่วย ยังต้องมาทนกับเสียงอีก ทั้งๆที่ แม้ว่าจะไม่เจ็บป่วย หรือ เป็นคนแข็งแรง คนทั่วไป ย่อมต้องมี สิทธิ อยู่อย่างสงบ กันทุกคน
ลองไปดูสถิติเรื่องร้องเรียน จาก กทม.
http://www.bangkok.go.th/gad/page/main/2314/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%8C
จากสถิติ เรื่องราว ร้องทุกข์ กทม. เรื่องเหตุเดือดร้อนรำคาญ เดือนละ 1,500-2,000 ราย การจัดการ แก้ไขสำเร็จ 60-70 เปอร์เซนต์ จริงหรือ ลองคิดกันดู แต่จากประสบการณ์ และ ฟีดแบ็คใน อนเตอเน็ต ไม่น่าเป็นอย่างนั้น การจบเคส เพราะ คนแจ้งเรื่องเดิม เช่นผม แล้วเคสเก่า จบไป? หรือเปล่า ใครจะตอบได้
แล้วข้อมูลที่เก็บไว้มีการนำไปวิเคราะห์แยกแยะปัญหา ต่อหรือไม่ เช่น เรื่องนี้ เกิดจุดไหนบ้าง เกิดมาก น้อยอย่างไร เพราะอะไร ถ้าเกิดซ้ำๆ เพราะอะไร มีการปรับปรุงขั้นตอนดำเนินการ ไหม อย่างไรบ้าง
โดยรวมๆ แค่คนที่แจ้งไปก็เป็นหมื่น เคสแล้ว แล้ววิธีดำเนินการยังเป็นแบบเดิม ปัญหาจะไม่ถูกแก้หรอก นอกจากทับถมเพิ่ม ขึ้น แต่ตัวเลขสถิติ จะเพิ่มไหม ไม่แน่หรอกเพราะ คนเบื่อที่จะแจ้ง หรือเปล่า แล้วเคสที่คนไม่แจ้ง ไม่ใช่ไม่มีปัญหานะครับ
กลับมาที่ข้อมูล เหตุ ที่กระทบมากที่สุดคือ เหตุเดือดร้อนรำคาญ แน่นอน เรื่องเสียง รวมอยู่ในนั้น แต่วิธีการจัดการปัญหาที่เป็น สิ่งกระทบ มากที่สุดกลับเป็น เช่นนี้ หรือ ต้องเปลี่ยน แปลงแล้วครับ
จากข่าวเรื่องราวต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา เช่น เรื่อง ป้าขวาน ทุบรถ,เรื่องระฆัง วัดกับคอนโด ล้วนแสดงถึง ขั้นตอน วิธีการ ที่ไม่เป็นมาตรฐาน ของหน่วยงานซึ่งดูแล คนนับล้าน
รวมถึงข่าวต่างๆ ที่จบด้วยความรุนแรง ถึงเสียชีวิต เช่น ทะเลาะกันเรื่อง เสียงหมาเห่า,เสียงรถมอเตอร์ไซค์,เสียงลำโพง.ที่จอดรถ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเชื่อว่าจะมีมากขึ้น ตามสภาพสังคม สภาพจำนวนประชากร เช่น เรื่องรถและ บิ๊กไบค์ ความเป็นอยู่ รายได้ที่มากขึ้น ตามจำนวนชนชั้นกลาง ราคารถยนต์ ไม่ต่างจากเดิม มากเช่น ราคาเริ่มต้นของรถb seg มีรถ ecocar ,บิ๊กไบค์ก็ราคาลดลงมาก จากสมัยก่อน ปัญหาที่จอดรถ เสียง และเรื่องรบกวน ตามมามากมาย แต่วิธีจัดการเหมือนเดิม?
ผมคิดว่าต้องมีการจัดเป็นวาระ หรือ หน่วยเฉพาะบางอย่าง เพื่อจัดการปรับปรุงกระบวนการแล้ว ไม่ใช่เพียงดูแลเป็นจุดๆ เฉพาะ จุดที่เป็นข่าว,จุดที่ดัง,หรือดาราโพสต์ลงโซเชียล แค่นั้น ต้องมีการทำงานเชิงรุกมากขึ้นแล้ว
เหตุต่างๆที่เกิด ขึ้นเช่นกับตัวผม ซ้ำแล้วซ้ำอีก การตักเตือนดำเนินการ มีการแจ้งรายละเอียด ระบุโทษต่างๆให้คนทำผิดไหม คงไม่ ,บันทึกข้อมูลไว้มากน้อยแค่ไหน นำไปใช้ประมวลผลยังไง
จากประสบการณ์ แล้วคนที่ทำผิดซ้ำๆ เหมือนเป็นหนูไม่กลัวแมวแค่นั้น ไม่มีมาตรการอะไร
การเข้ามาแล้วเเข้ามาอีกนับสิบครั้ง ของเจ้าหน้าที่ เป็นการเผาภาษีของประชาชนอย่างที่สุด
ผลจากการแจ้ง(แจ้งไป ไม่รู้กี่รอบ ในช่วง 5-6 ปี) คอลเซนเตอร์ กทม.1555 ล่าสุด คำตอบคือ เจ้าหน้าที่ ได้ตักเตือนไปแล้วคนก่อเหตุ จะแก้ไข ซึ่ง คำตอบนี้ ได้รับมาหลายครั้งแล้ว ถ้ากลุ่มนี้ จะไม่ทำจริง ต้องไม่มีเสียงแล้ว เพราะ ยังไงที่ดิน ตรงนี้ เจ้าของไม่น่าเปลี่ยนบ่อยๆ และถ้าเป็นการเช่า ล่ะถูกต้องหรือไม่
/จุดต้นเสียง เจ้าปัญหา ลักษณะ คล้ายบ้าน หรือที่ดินเช่า ถ้า จะมีเจ้าหน้าที่มาดู ก็ฝากดูแล เรื่อง ความถูกต้อง ด้านต่างๆด้วยนะครับ ความปลอดภัย ของสิ่งปลูกสร้าง,สิ่งผิดกฎหมาย หรือ คน เข้าออก(เรื่อง คนใกล้บ้าน ที่ ไม่รู้เป็นใครจากไหน พูดภาษาต่างชาติ คนต่างด้าว ก็เป็นอีกปัญหา หากมีโอกาส มาว่ากันอีกที เพราะขนาดอยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างปิด ก็ยังมีปัญหา)