มีครอบครัวไหนเป็นแบบนี้บ้างไหมคะ บางทีเราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราทำถูกหรือผิด อยากรู้ว่าในมุมมองคนอื่น ถ้าเราเป็นคนที่เยอะไป เราจะได้เป็นฝ่ายปรับตัว ไม่ยึดในความคิดตัวเอง
สามีเราตั้งไว้ว่าจะต้องไปกินข้าวกับครอบครัวทุกวันเสาร์ แต่จะมีปัญหาหลายๆครั้งที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น เราแพ้ท้องหนัก ปวดหัว อ้วกวันนึงเป็นสิบรอบ บางวีคเราก็ไม่อยากไป แต่จะมีปัญหากับสามีตลอด เขาก็ไม่ยอมจะบังคับเราไป ส่วนตัวเราคิดว่า เราไม่สบาย เราเหนื่อย ก็ไม่อยากไป เพราะไปก็ไม่มีความสุข รู้สึกบ้านหมุนตลอดเวลา
จนล่าสุดวันนี้ เราพาลูกคนโตกับน้องสาวไปข้างนอก แล้วบังเอิญหลงกัน เดินหา2-3ชั่วโมงก็ไม่เจอ เราเลยโทรไปบอกสามีว่าให้นั่งรถแท็กซี่มาเอารถกับลูกไปกินข้าวกับพ่อแม่เขาเลย เราจะหาน้องก่อน เพราะเราก็เป็นห่วงน้อง ถ้าหาไม่เจอ เราก็ไม่สบายใจที่จะกลับ อีกอย่างเมื่อเดือนที่แล้วเรามีภาวะแท้งคุกคาม เดินหาน้องพร้อมอุ้มลูกคนโตนาน เรามีเลือดออกติดกกน.นิดนึง เราเลยบอกเราว่าเหนื่อยมากๆเลย เลือดก็ออก สามีก็ต่อว่าเรา ว่านัดล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แล้วถามเราว่า หนูเป็นอะไรกับพ่อแม่พี่วะ? ต่อว่า ว่าเราไม่ควรจะออกไปข้างนอกวันนี้เลยด้วยซ้ำ
พอกลับมาบ้าน ก็โกรธเราไม่พูดคุย ขึ้นไปอยู่บนห้อง
เราเหนื่อย ที่เขาไม่เข้าใจเหตุผลว่า มันฉุกเฉินไม่มีใครรู้ว่าน้องจะหลงกับเรา
ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องคาร์ซีท เราเป็นลูกครึ่ง ครอบครัวพ่อแม่เราจะปลูกฝังเน้นย้ำเรื่องคาร์ซีทในรถมาก เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กๆ
เวลาไปไหนเราก็อยากให้ลูกนั่งคาร์ซีทตลอดไม่ว่าใกล้หรือไกล
จนมีวีคนึงที่สามีเรานัดกินข้าวกับพ่อแม่เขา แล้วสื่อสารผิดพลาด หรืออะไรซักอย่าง
พ่อแม่เขาคิดว่าจะไปรับ แต่เรากับสามีไปรอที่ร้านอาหารในห้างเลย เพราะคิดว่าพ่อแม่สามีจะขับรถมาเอง
สามีกับพ่อเขาเลยทะเลาะกัน เพราะสามีเราบอกว่าไปรับไม่ได้ที่นั่งในรถไม่พอ ด้านหลังติดคาร์ซีทมาแล้วมีพี่เลี้ยงนั่งมาด้วยอีกคน
พ่อเขาต่อว่าทุกคนเป็นเทวดาหมด อุ้มลูกนั่งด้วยไม่ได้ แล้วสามีก็ต่อว่าเรา ว่าตึงไป ไม่มีกาละเทศะ คาร์ซีทใช้แค่สำหรับเดินทางไกล ใกล้ๆไม่เป็นอะไรหรอก ทะเลาะกับเราว่าคราวหลังให้แกะคาร์ซีทออก แล้วเรากับพี่เลี้ยงและแม่เขาก็นั่งยัดกันข้างหลัง พ่อเขานั่งหน้า
ตรงส่วนนี้เราก็ยังไม่เข้าใจ ว่าวันข้างหน้าจะแก้ปัญหายังไง คลอดลูกมาอีกคนก็ต้องนั่งอุ้มแบบเบียดๆเหรอ
รู้สึกท้อใจมากๆ บางครั้งเหมือนคนละความคิด เราพยายามปรับตัวตลอด จนเราคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ตลอดต่อไปเรื่อยๆ จะต้องมีวันที่ความเห็นไม่ตรงกัน แล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้แน่ๆ อยากรู้ในมุมมองคนอื่นว่าเราตึงเกินหรือเปล่าคะ เราควรแก้ไขที่ตัวเองไหม
ปัญหาในครอบครัว
สามีเราตั้งไว้ว่าจะต้องไปกินข้าวกับครอบครัวทุกวันเสาร์ แต่จะมีปัญหาหลายๆครั้งที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น เราแพ้ท้องหนัก ปวดหัว อ้วกวันนึงเป็นสิบรอบ บางวีคเราก็ไม่อยากไป แต่จะมีปัญหากับสามีตลอด เขาก็ไม่ยอมจะบังคับเราไป ส่วนตัวเราคิดว่า เราไม่สบาย เราเหนื่อย ก็ไม่อยากไป เพราะไปก็ไม่มีความสุข รู้สึกบ้านหมุนตลอดเวลา
จนล่าสุดวันนี้ เราพาลูกคนโตกับน้องสาวไปข้างนอก แล้วบังเอิญหลงกัน เดินหา2-3ชั่วโมงก็ไม่เจอ เราเลยโทรไปบอกสามีว่าให้นั่งรถแท็กซี่มาเอารถกับลูกไปกินข้าวกับพ่อแม่เขาเลย เราจะหาน้องก่อน เพราะเราก็เป็นห่วงน้อง ถ้าหาไม่เจอ เราก็ไม่สบายใจที่จะกลับ อีกอย่างเมื่อเดือนที่แล้วเรามีภาวะแท้งคุกคาม เดินหาน้องพร้อมอุ้มลูกคนโตนาน เรามีเลือดออกติดกกน.นิดนึง เราเลยบอกเราว่าเหนื่อยมากๆเลย เลือดก็ออก สามีก็ต่อว่าเรา ว่านัดล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แล้วถามเราว่า หนูเป็นอะไรกับพ่อแม่พี่วะ? ต่อว่า ว่าเราไม่ควรจะออกไปข้างนอกวันนี้เลยด้วยซ้ำ
พอกลับมาบ้าน ก็โกรธเราไม่พูดคุย ขึ้นไปอยู่บนห้อง
เราเหนื่อย ที่เขาไม่เข้าใจเหตุผลว่า มันฉุกเฉินไม่มีใครรู้ว่าน้องจะหลงกับเรา
ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องคาร์ซีท เราเป็นลูกครึ่ง ครอบครัวพ่อแม่เราจะปลูกฝังเน้นย้ำเรื่องคาร์ซีทในรถมาก เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กๆ
เวลาไปไหนเราก็อยากให้ลูกนั่งคาร์ซีทตลอดไม่ว่าใกล้หรือไกล
จนมีวีคนึงที่สามีเรานัดกินข้าวกับพ่อแม่เขา แล้วสื่อสารผิดพลาด หรืออะไรซักอย่าง
พ่อแม่เขาคิดว่าจะไปรับ แต่เรากับสามีไปรอที่ร้านอาหารในห้างเลย เพราะคิดว่าพ่อแม่สามีจะขับรถมาเอง
สามีกับพ่อเขาเลยทะเลาะกัน เพราะสามีเราบอกว่าไปรับไม่ได้ที่นั่งในรถไม่พอ ด้านหลังติดคาร์ซีทมาแล้วมีพี่เลี้ยงนั่งมาด้วยอีกคน
พ่อเขาต่อว่าทุกคนเป็นเทวดาหมด อุ้มลูกนั่งด้วยไม่ได้ แล้วสามีก็ต่อว่าเรา ว่าตึงไป ไม่มีกาละเทศะ คาร์ซีทใช้แค่สำหรับเดินทางไกล ใกล้ๆไม่เป็นอะไรหรอก ทะเลาะกับเราว่าคราวหลังให้แกะคาร์ซีทออก แล้วเรากับพี่เลี้ยงและแม่เขาก็นั่งยัดกันข้างหลัง พ่อเขานั่งหน้า
ตรงส่วนนี้เราก็ยังไม่เข้าใจ ว่าวันข้างหน้าจะแก้ปัญหายังไง คลอดลูกมาอีกคนก็ต้องนั่งอุ้มแบบเบียดๆเหรอ
รู้สึกท้อใจมากๆ บางครั้งเหมือนคนละความคิด เราพยายามปรับตัวตลอด จนเราคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ตลอดต่อไปเรื่อยๆ จะต้องมีวันที่ความเห็นไม่ตรงกัน แล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้แน่ๆ อยากรู้ในมุมมองคนอื่นว่าเราตึงเกินหรือเปล่าคะ เราควรแก้ไขที่ตัวเองไหม