เมื่อ 6 ปีที่แล้วทั้งโลกต้องตกตะลึงในเหตุการณ์ช็อคโลกที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ได้ทรงลาออกจากตำแหน่ง และเป็นการเปิดทางให้พระสันตะปาปาฟรานซิส หรืออดีตพระคาร์ดินาลฮอร์เฮ มาริโอ เบร์โกกลิโอ ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประมุขทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดตำแหน่งหนึ่งในโลกซึ่งสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากอเมริกาใต้และเป็นบาทหลวงจากเยซูอิตองค์แรกที่ได้รับตำแหน่งเช่นกัน แล้วอะไรล่ะที่ทำให้พระสันตะปาปาองค์ก่อนได้ตัดสินพระทัยลาออก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะบอกให้เราได้รู้กัน


ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับหนังชาวบราซิล เฟร์นันโด เมย์เรลเรส ที่เคยกำกับหนังตีแผ่สังคมอย่าง City of God (2002) นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือ เซอร์แอนโทนี่ ฮอปกินส์ ในบทของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และ โจนาธาน ไพรซ์ในบทของ พระคาร์ดินาลฮอร์เฮ มาริโอ เบร์โกกลิโอ โดยอิงมาจากละครเวทีเรื่อง The Pope ของแอนโทนี่ แมคราเลน ที่มาเป็นมือเขียนบทให้หนังเรื่องนี้ด้วย


หนังเล่าเรื่องราวตั้งแต่ปี 2005 ที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงขึ้นรับตำแหน่ง จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ในวงการศาสนาคริสต์ที่ฉาวโฉ่มากมายไม่ว่าจะฯลฯ อันทำให้ความกดดันถาโถมลงมาใส่พระสันตะปาปา พระคาร์ดินาลฮอร์เฮ มาริโอ เบร์โกกลิโอ ได้เสนอเรื่องหนทางการปฏิรูปมาโดยตลอดหากแต่วาติกันไม่ตอบรับ พระคาร์ดินาลจึงส่งจดหมายลาออก พระสันตะปาปาจึงมีบัญชาให้พระคาร์ดินาลมาพบที่วาติกันโดยด่วนซึ่งบังเอิญตรงกับใจของพระคาร์ดินาลที่จองตั๋วเครื่องบินไปที่โรมไว้แล้ว


ต้องบอกก่อนครับหนังไม่ได้สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ คอหนังประเภทนี้ข้ามไปก่อนเลยครับ แต่หนังเรื่องนี้จะสนุกกันตรงที่การเชือดเฉือนในบทสนทนาที่ชาญฉลาดของโป๊ปทั้งสอง อีกทั้งทั้งคู่เป็นตัวแทนของฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายหัวก้าวหน้า ที่เป็นการต่อสู้ในทางความคิด นอกจากนี้สำหรับคนที่ไม่เคยไปเที่ยววาติกันก็จะได้ชมสถานที่ภายในวาติกัน อีกทั้งบ้านพักตากอากาศของโป๊ปที่ชนบทในอิตาลี ฉากสวยมากๆๆ


สำหรับการแสดงของทั้งคู่ระหว่างเซอร์แอนโทนี่ ฮอปกินส์ และโจนาธาน ไพรซ์ ขอบอกสั้นๆ ครับ สุดติ่งมากกกกกก ทั้งคู่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของฝั่งหัวเก่าที่ยึดอยู่ในแบบแผนและไม่เคยใกล้ชิดกับประชาชน กับหัวใหม่ที่ติดดินและเข้าถึงประชาชนมากได้อย่างสมบูรณ์แบบจนทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยม (โจนาธาน ไพรซ์) และนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม (เซอร์แอนโทนี่ ฮอปกินส์) ยอดเยี่ยมในรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 77 


ให้คะแนน 8.5 เต็ม 10 ครับ ขอตัดตรงที่หนังอาจจะค่อนข้างยืดเยื้อ และปูเรื่องทำให้คนที่ไม่ค่อยรู้เหตุการณ์ในช่วงดังกล่าวตามทัน คอหนังประสัติศาสตร์ดูเถอะครับ หนังบอกอะไรเราหลายๆ อย่าง มันฉลาดตรงที่เราสามารถเอาไปประยุกต์เข้ากับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ แม้กระทั่งบ้านเราเองก็ตาม ที่สำคัญทำให้เราได้รับรู้แท้ที่จริงแล้วทุกคนก็เคยผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น เพราะพระสันตะปาปาก็เป็นแค่มนุษย์คนนึง ไม่ได้เป็นพระเจ้า เพียงแต่อาศัยอยู่ในนามของพระเจ้าเท่านั้นเอง