วันนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับการสมัครงานไม่ตรงสายของเด็กจบใหม่ ซึ่งตอนนี้เราก็เป็นอยู่ค่ะ 5555+(ขำเเห้งเเบบน้ำตาซึม)
ปัจจุบันตัวเราเพิ่งเรียนจบใหม่มาหมาดๆเลยค่ะ เเล้วสาขาที่เรียนจบมานั้นบอกเลยว่า หางานยากมากกกก!! ต้องไปต่อสายงานนั้นโดยตรงถ้าจะหางานทำ
ซึ่งตอนนี้อัตราการว่างงานทั่วประเทศนั้นอยู่ที่ 400,000 คน ในสี่เเสนคนนั้น ปริญญาตรีว่างงานเยอะสุดเกือบ 200,000 คน ครึ่งต่อครึ่งเลยก็ว่าได้(ฟังเเล้วถึงกับเศร้า TT)
เเต่ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางเเก้เสมอ เเต่ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าปัญหาคืออะไร?เเล้วเรายอมรับมันไหม? เราจะหาทางเเก้ไขหรือเปล่า? เราเลยอยากจะเเชร์วิธีของเราให้ทุกคนได้ฟังกัน เเละหวังว่าบทความที่เราเขียนขึ้นมานั้น อาจจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนได้บ้าง งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะ 1 2 3 โก!!
ปัญหาว่างงานของเด็กจบใหม่ หลักๆเลยคือ
1. ทักษะของเราไม่ตรงกับตำเเหน่งงาน
2. คุณสมบัติไม่ตรงตามความต้องการของตลาดส่วนใหญ่
เเค่สองปัญหาที่เราได้ยกมานั้นก็เเทบจะครอบคลุมเกือบทั้งหมดเเล้วว่าทำไมถึงมีปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่ ก็ตามหัวข้อที่เราได้บอกไปนั้น เด็กจบใหม่หางานไม่ตรงสาย มันเลยไม่เเปลกที่ทักษะของเราไม่เป็นที่ต้องการสำหรับการไปสมัครงานที่เราไม่ได้จบมาทางนั้นโดยตรง หรือคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ตามมาตราฐานที่บริษัทกำหนดไว้ มันเลยยากในการสมัครงาน
เพราะเราก็ต้องเลือกให้ใกล้เคียงกับทักษะเรามากที่สุด เเล้วไหนจะต้องขุดความสามารถพิเศษของเราขึ้นมาเพื่อที่จะไปสู้กับคนที่มาสมัครงานเหมือนกัน บางทีอาจจะเจอคนที่จบมาตรงสายเลย หรือมีสกิลที่บริษัทต้องการ เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไปโปรยเรซูเม่ที่ไหนไม่ได้เลย เเต่ก่อนที่เราจะมาเริ่มเเก้ปัญหากัน ทุกคนยอมรับตัวเองได้เเล้วใช่ไหมว่าเราคุณสมบัติไม่ถึงหรือทักษะไม่เพียงพอต่อการทำงาน ถ้ายอมรับได้เเล้ว ต่อจากนี้เราจะมาพูดกันว่าเราควรมีทักษะอะไรเพิ่มเติมกันบ้าง หรือในยุคปัจจุบันนี้ตลาดเค้าต้องการอะไรกัน
ทักษะข้อที่หนึ่ง: ทักษะภาษา อ๊ะ! เเน่นอน พอพูดถึงข้อนี้เดาว่าหลายคนคงคิดว่า ไม่พ้นภาษาอังกฤษเเน่นอน คำตอบคือ ถูกต้องเเล้วจ้าาาา คุณได้ไปต่อ 5555+ เเค่มีทักษะภาษาอังกฤษติดตัวไว้ เราก็ได้เปรียบไปเเล้วเกือบครึ่ง ถ้าทักษะของเราได้ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน อยู่ในระดับที่ดีเเล้วละก็ ตัวเลือกในการสมัครงานจะยิ่งเยอะขึ้นมากบวกกับมีผลสอบโทอิคด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย
ไม่ต้องพูดถึง
คนที่ได้ภาษาที่สามอย่างจีนหรือญี่ปุ่น ด้วย โอ้~ งานมาเลยจ้า
สำหรับทักษะภาษาอังกฤษเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีพื้นฐานมาบ้างเเล้ว เเต่อาจจะยังไม่มั่นใจ ไม่กล้าเเสดงมันออกมา ก็ลองไปหาเรียนเพิ่มเติม มั่นฝึกฝนบ่อยๆ หรือจะไปเอาภาษาที่สามเลยก็ได้ ไม่ว่ากัน
ทักษะข้อที่สอง: ทักษะคอมพิวเตอร์ สำคัญมากไม่เเพ้ภาษา เพราะว่าในสมัยนี้เทคโนโลยีได้พัฒนาไปมาก ต่อให้เป็นสายงานไหนๆก็ต้องมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวกับการทำงานเกือบทั้งหมด อย่างน้อยๆเราควรมีพื้นฐานสำคัญอย่างการพิมพ์ภาษาไทยเเละภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องเเคล่ว, การใช้ Microsoft Office ได้อย่างชำนาญ
เเต่ถ้าเราสามารถใช้โปรเเกรมหรือมีทักษะด้านอื่นๆที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้มันจะเป็นตัวช่วยให้เรามีงานเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น โปรเเกรม Adobe Photoshop/Adobe illustrator, โปรเเกรมตัดต่อวิดีโอ หรือเเม้เเต่มีทักษะในการจัดการโซเชียลมีเดียต่างๆ
เเค่ทุกคนมีทักษะพวกนี้อยู่
การหางานนั้นก็ไม่ยากอีกต่อไป จบไปเเล้วกับทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ต่อไปเราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆที่บริษัทต้องจากผู้สมัครงาน เรารวบรวมมาจากการที่เราเข้าสมัครงานในที่ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะประมาณนี้นะคะ
1. มีความสามารถในการสื่อสารเป็นอย่างดี
2. เเก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงการเเก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วย
3. จัดลำดับความสำคัญของงานเเต่ละชิ้นได้4
4. มีมนุษยสัมพนธ์ที่ดี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
5. มีทักษะการใช้โปรเเกรม
6. มีมารยาททางสังคม รู้จักกาลเทศะ
7. มีความน่าเชื่อถือได้ มีจริยธรรม(ซื่อสัตย์นั่นเเหละ)
8. กระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หาความรู้ใหม่ๆตลอดเวลา
9. มี Mindset เกี่ยวกับงานนั้นๆอย่างไร
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับคุณสมบัติต่างๆที่ควรมีไปสมัครงาน ที่จริงเกือบทั้งหมดในนั้น มันก็คือสิ่งที่เราเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเเหละค่ะ สิ่งที่เราถูกสอนกันมาตั้งเเต่เด็กๆ ทุกคนมีของดีอยู่ในตัวขึ้นอยู่กับว่าจะเอามาใช้ถูกวิธีหรือเปล่า หาตัวเองในเจอว่ามีจุดเเข็งในเรื่องอะไร เเล้วเอาจุดเเข็งนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์
จากทั้งหมดที่เราได้พูดมา มันคือทักษะเเละคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับเด็กจบใหม่ ไม่ใช่เเค่จำเป็นสำหรับคนที่จะสมัครงานเเล้วไม่ตรงสายกับที่ตัวเองเรียนมา เเต่ยังจำเป็นสำหรับคนที่จบมาตรงสายเเล้วหางานตรงสายอีกด้วย เพราะไม่ใช่เเค่เด็กจบใหม่เท่านั้นที่จะต้องหางานเเข่งกันเอง เเต่อย่าลืมว่ามีคนอีกมากที่กำลังหางานอยู่ด้วยเช่นกัน
ใครๆก็อยากจะได้งานทำเร็วๆ เงินเดือนดีๆ มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ยิ่งเด็กจบใหม่ด้วยยิ่งเเล้ว เข้าใจดีเลยค่ะว่า อยากจะหางานทำเร็วเเค่ไหน เพราะเค้าก็คงไม่อยากจะขอเงินพ่อเเม่ไปตลอดชีวิต เราอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหางานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็เเล้วเเต่ ขอให้ทุกคนสู้ๆ ขอให้ได้งานที่ตัวเองชอบ เเละทำมันให้เต็มที่ค่ะ
สุดท้ายนี้ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะเปรียบเทียบใครทั้งนั้น เราเเค่อยากเเชร์ประสบการณ์ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ให้ฟังมา ถึงจะไม่มากก็ตาม หวังว่าจะช่วยใครหลายๆคนได้บ้าง หรือใครมีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมบอกกันได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องเนื้อหาหรือการเขียนบทความ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
เด็กจบใหม่กับการหางานไม่ตรงสาย!!!
ปัจจุบันตัวเราเพิ่งเรียนจบใหม่มาหมาดๆเลยค่ะ เเล้วสาขาที่เรียนจบมานั้นบอกเลยว่า หางานยากมากกกก!! ต้องไปต่อสายงานนั้นโดยตรงถ้าจะหางานทำ
ซึ่งตอนนี้อัตราการว่างงานทั่วประเทศนั้นอยู่ที่ 400,000 คน ในสี่เเสนคนนั้น ปริญญาตรีว่างงานเยอะสุดเกือบ 200,000 คน ครึ่งต่อครึ่งเลยก็ว่าได้(ฟังเเล้วถึงกับเศร้า TT)
เเต่ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางเเก้เสมอ เเต่ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าปัญหาคืออะไร?เเล้วเรายอมรับมันไหม? เราจะหาทางเเก้ไขหรือเปล่า? เราเลยอยากจะเเชร์วิธีของเราให้ทุกคนได้ฟังกัน เเละหวังว่าบทความที่เราเขียนขึ้นมานั้น อาจจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนได้บ้าง งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะ 1 2 3 โก!!
ปัญหาว่างงานของเด็กจบใหม่ หลักๆเลยคือ
1. ทักษะของเราไม่ตรงกับตำเเหน่งงาน
2. คุณสมบัติไม่ตรงตามความต้องการของตลาดส่วนใหญ่
เเค่สองปัญหาที่เราได้ยกมานั้นก็เเทบจะครอบคลุมเกือบทั้งหมดเเล้วว่าทำไมถึงมีปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่ ก็ตามหัวข้อที่เราได้บอกไปนั้น เด็กจบใหม่หางานไม่ตรงสาย มันเลยไม่เเปลกที่ทักษะของเราไม่เป็นที่ต้องการสำหรับการไปสมัครงานที่เราไม่ได้จบมาทางนั้นโดยตรง หรือคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ตามมาตราฐานที่บริษัทกำหนดไว้ มันเลยยากในการสมัครงาน
เพราะเราก็ต้องเลือกให้ใกล้เคียงกับทักษะเรามากที่สุด เเล้วไหนจะต้องขุดความสามารถพิเศษของเราขึ้นมาเพื่อที่จะไปสู้กับคนที่มาสมัครงานเหมือนกัน บางทีอาจจะเจอคนที่จบมาตรงสายเลย หรือมีสกิลที่บริษัทต้องการ เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไปโปรยเรซูเม่ที่ไหนไม่ได้เลย เเต่ก่อนที่เราจะมาเริ่มเเก้ปัญหากัน ทุกคนยอมรับตัวเองได้เเล้วใช่ไหมว่าเราคุณสมบัติไม่ถึงหรือทักษะไม่เพียงพอต่อการทำงาน ถ้ายอมรับได้เเล้ว ต่อจากนี้เราจะมาพูดกันว่าเราควรมีทักษะอะไรเพิ่มเติมกันบ้าง หรือในยุคปัจจุบันนี้ตลาดเค้าต้องการอะไรกัน
ทักษะข้อที่หนึ่ง: ทักษะภาษา อ๊ะ! เเน่นอน พอพูดถึงข้อนี้เดาว่าหลายคนคงคิดว่า ไม่พ้นภาษาอังกฤษเเน่นอน คำตอบคือ ถูกต้องเเล้วจ้าาาา คุณได้ไปต่อ 5555+ เเค่มีทักษะภาษาอังกฤษติดตัวไว้ เราก็ได้เปรียบไปเเล้วเกือบครึ่ง ถ้าทักษะของเราได้ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน อยู่ในระดับที่ดีเเล้วละก็ ตัวเลือกในการสมัครงานจะยิ่งเยอะขึ้นมากบวกกับมีผลสอบโทอิคด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย
ไม่ต้องพูดถึง คนที่ได้ภาษาที่สามอย่างจีนหรือญี่ปุ่น ด้วย โอ้~ งานมาเลยจ้า
สำหรับทักษะภาษาอังกฤษเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีพื้นฐานมาบ้างเเล้ว เเต่อาจจะยังไม่มั่นใจ ไม่กล้าเเสดงมันออกมา ก็ลองไปหาเรียนเพิ่มเติม มั่นฝึกฝนบ่อยๆ หรือจะไปเอาภาษาที่สามเลยก็ได้ ไม่ว่ากัน
ทักษะข้อที่สอง: ทักษะคอมพิวเตอร์ สำคัญมากไม่เเพ้ภาษา เพราะว่าในสมัยนี้เทคโนโลยีได้พัฒนาไปมาก ต่อให้เป็นสายงานไหนๆก็ต้องมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวกับการทำงานเกือบทั้งหมด อย่างน้อยๆเราควรมีพื้นฐานสำคัญอย่างการพิมพ์ภาษาไทยเเละภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องเเคล่ว, การใช้ Microsoft Office ได้อย่างชำนาญ
เเต่ถ้าเราสามารถใช้โปรเเกรมหรือมีทักษะด้านอื่นๆที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้มันจะเป็นตัวช่วยให้เรามีงานเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น โปรเเกรม Adobe Photoshop/Adobe illustrator, โปรเเกรมตัดต่อวิดีโอ หรือเเม้เเต่มีทักษะในการจัดการโซเชียลมีเดียต่างๆ
เเค่ทุกคนมีทักษะพวกนี้อยู่ การหางานนั้นก็ไม่ยากอีกต่อไป จบไปเเล้วกับทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ต่อไปเราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆที่บริษัทต้องจากผู้สมัครงาน เรารวบรวมมาจากการที่เราเข้าสมัครงานในที่ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะประมาณนี้นะคะ
1. มีความสามารถในการสื่อสารเป็นอย่างดี
2. เเก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงการเเก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วย
3. จัดลำดับความสำคัญของงานเเต่ละชิ้นได้4
4. มีมนุษยสัมพนธ์ที่ดี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
5. มีทักษะการใช้โปรเเกรม
6. มีมารยาททางสังคม รู้จักกาลเทศะ
7. มีความน่าเชื่อถือได้ มีจริยธรรม(ซื่อสัตย์นั่นเเหละ)
8. กระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หาความรู้ใหม่ๆตลอดเวลา
9. มี Mindset เกี่ยวกับงานนั้นๆอย่างไร
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับคุณสมบัติต่างๆที่ควรมีไปสมัครงาน ที่จริงเกือบทั้งหมดในนั้น มันก็คือสิ่งที่เราเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเเหละค่ะ สิ่งที่เราถูกสอนกันมาตั้งเเต่เด็กๆ ทุกคนมีของดีอยู่ในตัวขึ้นอยู่กับว่าจะเอามาใช้ถูกวิธีหรือเปล่า หาตัวเองในเจอว่ามีจุดเเข็งในเรื่องอะไร เเล้วเอาจุดเเข็งนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์
จากทั้งหมดที่เราได้พูดมา มันคือทักษะเเละคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับเด็กจบใหม่ ไม่ใช่เเค่จำเป็นสำหรับคนที่จะสมัครงานเเล้วไม่ตรงสายกับที่ตัวเองเรียนมา เเต่ยังจำเป็นสำหรับคนที่จบมาตรงสายเเล้วหางานตรงสายอีกด้วย เพราะไม่ใช่เเค่เด็กจบใหม่เท่านั้นที่จะต้องหางานเเข่งกันเอง เเต่อย่าลืมว่ามีคนอีกมากที่กำลังหางานอยู่ด้วยเช่นกัน
ใครๆก็อยากจะได้งานทำเร็วๆ เงินเดือนดีๆ มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ยิ่งเด็กจบใหม่ด้วยยิ่งเเล้ว เข้าใจดีเลยค่ะว่า อยากจะหางานทำเร็วเเค่ไหน เพราะเค้าก็คงไม่อยากจะขอเงินพ่อเเม่ไปตลอดชีวิต เราอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหางานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็เเล้วเเต่ ขอให้ทุกคนสู้ๆ ขอให้ได้งานที่ตัวเองชอบ เเละทำมันให้เต็มที่ค่ะ
สุดท้ายนี้ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะเปรียบเทียบใครทั้งนั้น เราเเค่อยากเเชร์ประสบการณ์ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ให้ฟังมา ถึงจะไม่มากก็ตาม หวังว่าจะช่วยใครหลายๆคนได้บ้าง หรือใครมีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมบอกกันได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องเนื้อหาหรือการเขียนบทความ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ