ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์  เดอะเฟค
ปลอมตัวอย่างจอมปลอม

จากซีรีส์สุดฮิตได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังโดยมีตัวละครสำคัญจากซีรีส์มาครบทีมและยังเชื่อมโยงเนื้อหาต่อจากในซีรีส์อีกด้วย แต่ทีมงานกลัวจะยังไม่พอจึงสร้างเนื้อเรื่องใหม่เพิ่มเข้าไปด้วยการสร้างสถานการณ์ว่า กอล์ฟ ได้เผลอไปทำให้คนดังระดับตัวแม่ของวงการ เคที่ (ชมพู่ อารยา) เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถไปทำงานตามที่รับไว้ได้ กัส คิม และแหนด ก๊วนเพื่อนรักจึงต้องช่วยกันหาทางออกสำหรับเรื่องวุ่นวายครั้งนี้ มิฉะนั้นผู้จัดการส่วนตัวของเคที่ (ป๋อมแป๋ม) จะฟ้องร้องค่าเสียหายหลายสิบล้านบาท และทางออกนั้นก็คือ ให้ เจ๊น้ำ แม่ค้าปากจัดปลอมเป็นเคที่เพราะเจ๊น้ำไปศัลยกรรมหน้าจนออกมาเหมือนเคที่มาก ถ้าช่วยกันหลอกอย่างมืออาชีพแผนการนี้ก็น่าจะสำเร็จ 

นี่ว่าเนื้อเรื่องที่เพิ่มขึ้นมาจนกลายเป็นเนื้อเรื่องหลักนั้นเป็นสถานการณ์ที่มักถูกนำมาใช้ในหนังหรือละครบ่อยมาก แนวที่ว่าจำเป็นจะต้องปลอมตัวหลอกคนอื่นเพื่อแก้ไขปัญหาบางอย่าง เราว่าทีมงานคิดผิดที่เลือกจะทำให้หนังออกมาเป็นแบบนี้ ชูเนื้อเรื่องใหม่ที่มีตัวแม่อย่าง ชมพู่ นำแสดงเพื่อเรียกคนดูและกระแส ซึ่งแม่ก็ทุ่มเทเล่นให้อย่างเต็มที่เสียเหลือเกิน แล้วให้เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครหลักจากซีรีส์มีความสำคัญเป็นเป็นเพียงเรื่องรอง หนังออกมามีเนื้อหาที่อ่อนปวกเปียก แก่นสารมั่วซั่ว และพยายามยัดเยียดมุกจนล้น

แต่ถามว่าหนังให้ความบันเทิงอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ก็ต้องตอบอย่างเต็มปากว่า ใช่ หนังบันเทิงมากแม่! สนุก ตลก ฮาได้ตลอด ก็เพราะหนังยัดมุกตลกใส่คนดูตลอดทั้งเรื่องขนาดนี้และนักแสดงก็ช่วยกันเล่นใหญ่ทุกคน จะไม่ตลกก็เกินไป แล้วไหนจะยังมีเซอร์ไพรส์ตัวละครลับเพิ่มเข้ามาอีก ในฐานะคนดูก็ต้องบอกว่า คุ้มมาก จัดหนักจริง (อย่างกับมากินบุฟเฟ่ต์) มีจุดหนึ่งที่เหมือนจะเป็นข้อเสียของการใช้ศัพท์เฉพาะในหนังมากเกินไป เพราะนอกจากจะไม่ตลกแล้วยังสร้างความรู้สึกมึนงงให้กับคนดูด้วยว่าคำที่พูดนั้นหมายความว่าอะไร พูดทำไม เราว่าจุดนี้พลาด

ถ้าไม่นับความดีงามของหนังที่ให้ความบันเทิงกับคนดูได้อย่างที่ควรจะเป็นแล้ว คุณค่าในประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศที่เราเคยได้รับจากตอนที่เป็นซีรีส์กลับมีเพียงเล็กน้อย ราวกับว่าตั้งใจใส่มาพอให้มีอยู่ในหนังแต่ไม่ได้เน้น ในขณะที่คุณค่าจากเนื้อหาหลักก็อ่อนด้อยเสียจนดูปลอม

ขบเคี้ยวหนัง