😄 วันนี้ เราขอนำเสนอห้องอาหารอิตาเลียนชื่อดังที่กลับมาเปิดใหม่หลังปิดปรับปรุงร้านครั้งใหญ่ ...
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🐂 หลังจากปิดปรับปรุงร้านครั้งใหญ่กว่า 3 เดือน ในที่สุด Appia ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังย่านวัฒนาก็ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ Appia Trattoria ลูกค้าสามารถเลือกนั่งด้านนอกซึ่งเป็นโซน Outdoor ติดถนนใหญ่ หรือนั่งภายในตัวร้านซึ่งมีขนาดค่อนข้างเล็ก โต๊ะเเต่ละโต๊ะถูกจัดค่อนข้างติดกันพอสมควร ตกแต่งแบบง่ายๆในบรรยากาศกึ่งบาร์ บนผนังร้านมีทั้งรูปวาด รูปถ่ายขาวดำแบบอิตาเลียนยุคเก่าดูคลาสสิคดี
🐂 แม้การตกแต่งภายในจะดูไม่ต่างจากร้านเดิมมากนัก แต่เมนูอาหารถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เจ้าของร้าน Paolo Vitaletti ต้องการเสิร์ฟเมนูอาหารอิตาเลียนสไตล์โรมันหรือ Roman Cuisine โดยลูกค้าสามารถเลือกทานเมนู Appia Antica ซึ่งรวบรวมเมนูเด็ดๆจากร้านเดิม หรือเลือกทานเมนู Appia Trattoria ซึ่งเป็นเมนูที่ถูกคิดขึ้นมาใหม่ โดยมีเมนูชูโรงอย่าง Ravioli Crudi หรือราวิโอลีดิบที่ใช้เนื้อกุ้งมาซาร่ามาทำเป็นเกี๊ยวสไตล์อิตาเลียน ทานกับน้ำมันจากหัวกุ้ง มีเมนู Risotto Caccio e Pepe ที่ทางร้านนำมาประยุกต์โดยใช้เทคนิคแบบใหม่เช่นน้ำสต็อกชีสเปอริคอโน่และเจลลี่พริกไทยดำ นอกจากนี้ยังมีเมนูตามฤดูกาลอย่าง Black Truffle Fettuccine ทานกับซอสเนื้อสไตล์อิตาเลียนภาคกลาง ปิดท้ายด้วยของหวานที่ทางร้านใช้วัตถุดิบอาหารคาวมาประยุกต์ผสมผสานกับอาหารหวานอย่างพานาคอตต้ากับหนังหมูครัมเบิ้ลดูแปลกตาดี
🐂 รสชาติที่ทำออกมาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ราคาค่อนข้างสูง ด้วยตำเเหน่งร้านที่อยู่ใจกลางย่านธุรกิจจึงทำให้ที่นี่เหมาะกับการเป็นจุดนัดสังสรรค์หลังเลิกงานกับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี
📃 A la carte menu
- Bread and Salad (Complimentary)
- Ravioli Crudi (890++)
Raw “ravioli” of Mazara prawn from Sicily, stracciatella cheese, chive-infused olive oil
- Fettuccine (690++)
Fresh house made fettuccine with winter black truffle and beef demi-glace
- Risotto (490++)
Caccio e pepe with pericorino and essence
- Buffalo Mozzarella Tortelli (450++)
Cooked in the whey, piennulo tomatoes, caper and basil
- Mousse (290++)
Hot chocolate foam, foie gras and candied hazelnut
- Panna Cotta (290++)
Black tea kombucha, fluffy porkskin crumble, black truffle
- Paolo’s Mother Tiramisu (350++)
Same as it ever was
✌️ อาหารรสชาติดีกว่ามาตรฐาน รสชาติอาหารสไตล์โรมันเเท้ซึ่งหาทานได้ไม่มากในกรุงเทพฯ
🏵 Score:
รสชาติ : 11/20
ราคา : 9/20
ความคุ้มค่า : 10/20
บรรยากาศ : 13/20
บริการ : 13/20
เทคนิคเเละความคิดสร้างสรรค์ : 14/20
ความประทับใจโดยรวม : 11/20
🏠 Location: 20/4 ซอยสุขุมวิท 31, คลองตันเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพ 10110
🚗 Parking: จอดที่ร้าน
🕕 Opening Time: จันทร์+พุธ-เสาร์ 18.00-22.30, อาทิตย์ 11.30-14.30, 18.00-22.30
💰 Price: ~2,000 บาท/คน
📞 Tel: 02 261 2056
🖥 Website:
http://www.appia-bangkok.com
#FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining

หลังจากปิดปรับปรุงร้านครั้งใหญ่กว่า 3 เดือน ในที่สุด Appia ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังย่านวัฒนาก็ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ Appia Trattoria

ลูกค้าสามารถเลือกนั่งด้านนอกซึ่งเป็นโซน Outdoor ติดถนนใหญ่
- Ravioli Crudi (890++)
Raw “ravioli” of Mazara prawn from Sicily, stracciatella cheese, chive-infused olive oil
หนึ่งเนเมนูใหม่ของร้านแอพเพีย และเป็นเมนูสตาร์ทเตอร์ชูโรงของร้านใหม่เลยคือ ราวิโอลี ครูดี้ หรือราวิโอลีดิบ ที่ทางร้านใช้กุ้งแดงมาซารานำเข้าจากหมู่เหาะซิซิลี ประเทศอิตาลีมาทำเป็นไส้ใน วิธีทานให้หั่นเกี๊ยวราวิโอลีออกครึ่งหนึ่ง ตักเข้าปาก จากนั้นยกหัวกุ้งมาดูดน้ำในหัวกุ้ง แล้วจึงตักเกี๊ยวราวิโอลีอีกครึ่งหนึ่งจิ้มน้ำมันสีเขียวทำจากลูกกระเทียมทานตามกันไป จานนี้รสชาติดีมากทีเดียว เนื้อกุ้งหวานฉ่ำธรรมชาติ น้ำในหัวกุ้งมีรสเค็มอ่อนๆ เเต่มีกลิ่นหอมมากๆ รสขมของมันกุ้งอ่อนมากๆต่างจากกุ้งบ้านเราชัดเจน ถือเป็นจานที่ราคาค่อนข้างสูง (สูงกว่าพาสต้าทรัฟเฟิลเสียอีก) เเต่ทำรสชาติได้อร่อย มีเอกลักษณ์มากๆ (14/20)

- Risotto (490++)
Caccio e pepe with pericorino and essence
รีซอตโต้จานนี้คือจานที่รวมทุกอย่างของความเป็นโรมันเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มจากข้าวรีซอตโต้นำมาปรุงกับชีสและพริกไทยดำ หรือที่เรียกวันว่า คาชิโอ อี เปปเป้ ซึ่งเป็นวิธีการปรุงแบบอาหารโรมันยุคใหม่ ชีสที่ที่ร้านเลือกใช้มาปรุงเป็นสต็อกคือ เปอริคอโน่ โรมาโน่ ถือเป็นหนึ่งในชีสที่มีรสเเละกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ของอาหารโรมันสุดๆ มีรสเค็มเด่น มีกลิ่นหอมมากๆ ส่วนของพริกไทยดำคือเจลลีสีดำที่อยู่ข้างบน ตอนทานให้คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วตักทานทั้งหมด สำหรับเราข้าวรีซอตโต้ทำออกมาเเข็งมากไป เกินคำว่าอัลเดนเต้ไปอีก ตัวชีสทำออกมาดี เเต่รสค่อนข้างเค็มไปหน่อย แม้จะเอามาตรฐานอิตาเลียนมาวัดก็ตามที (10/20)

- Fettuccine (690++)
Fresh house made fettuccine with winter black truffle and beef demi-glace
ถัดมาคือเมนูตามฤดูกาลอย่างเห็ดทรัฟเฟิลดำ โดยทางร้านจะมาขูดเห็ดทรัฟเฟิลให้ที่โต๊ะเลย (11/20)

- Fettuccine (690++)
Fresh house made fettuccine with winter black truffle and beef demi-glace
เส้นเฟตตูชินี่ที่ทางร้านทำเองแบบอัลเดนเต้ เส้นยังนิ่มไปเพียงเล็กน้อย ราดด้วยซอสเนื้อรสเข้มข้น มีรสเค็มอ่อนๆ มีกลิ่นหอมตามแบบฉบับอิตาเลียนแท้ เสริมกันกับกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลดำได้อย่างลงตัว (11/20)

- Buffalo Mozzarella Tortelli (450++)
Cooked in the whey, piennulo tomatoes, caper and basil
เมนูใหม่จานสุดท้ายคือตอเตลลี่ พาสต้าทรงเกี๊ยวแบนที่ทำจากแป้งกับหางนม ตอนทานจะเคี้ยวเเล้วเหนียงหนุบหนับ ทำให้เกิด contrast กับเนื้อสัมผัสของชีสนมควายอย่างมอสซาเรลล่ายืดๆ มีกลิ่นหอมชีส มีกลิ่นหอมใบเบซิลเด่นชัดเจน ตัดรสมันเค็มของชีสด้วยรสเปรี้ยวของมะเขือเทศเพียนนูโลที่ปลูกันมากในเเถบภูเขาไฟวิสุเวียสทางตอนใต้ของอิตาลี มีรสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทานจานนี้เเล้วชวนให้เรานึกถึงทริปอิตาลีเมื่อปีที่เเล้วจริงๆ (12/20)

- Bread and Salad (Complimentary)
Salted Bread คือขนมปังอุ่นๆ รสออกเค็มมากแบบอิตาเลียนแท้ๆ เสิร์ฟให้ทานกับเนย (12/20)

- Bread and Salad (Complimentary)
‘Nduja Bread ขนมปังสอดไส้หมูซาลามี่แบบอิตาลี รสชาติคล้ายหมูแดงแบบจีน เเต่จะมีรสเผ็ดอ่อนๆร่วมด้วย ตัวขนมปังทางร้านนำไปทอดจนร้อนจัด ทานเเล้วผิวกรอบเเต่ด้านในนุ่ม มีกลิ่นหอมหมูมากๆ เหมือนซาลาเปาทอด อร่อยใช้ได้เลย (12/20)

- Bread and Salad (Complimentary)
Porchetta Salad หรือสลัดหมูที่ทางร้านใส่เเตงกวา โรยด้วยผงปาปริกาลงไป ทานเเล้วมีกลิ่นแตงกวาแรงไปหน่อย รสปาปริก้าไม่ค่อยออกมากนัก (9/20)

- Mousse (290++)
Hot chocolate foam, foie gras and candied hazelnut
ช็อกโกแลตมูสรสเข้มข้น ออกขมปนหวาน ทานกับโฟมช็อกโกแลตอุ่นๆ ด้านในมีส่วนผสมของฟัวกราส์ทำให้มีความต่างของรสขมระหว่างช็อกโกแลตและตับห่าน ตัวตับที่ใส่มาไร้ซึ่งกลิ่นคาว นอกจากนี้ยังมีถั่วฮาเซลนัทหวานกรอบตัดเนื้อสัมผัสกันอีกด้วย เเม้ว่าช็อกโกเเลตจะข้นไปสักหน่อยเเต่รสชาติที่ออกมาน่าสนใจ (11/20)

- Panna Cotta (290++)
Black tea kombucha, fluffy porkskin crumble, black truffle
พานาคอตต้าสูตรพิเศษ เนื้อพานาคอตต้าอยู่ด้านล่างใส่มาไม่เยอะมาก ด้านบนเป็นเจลลี่คอมบุฉะหรือชาดำญี่ปุ่น ครีมสีขาวเนียนนุ่ม ทอปด้วยแพนเชตต้ากรอบหรือหนังหมูกรอบที่ทางร้านนำมาใส่แทนครัมเบิ้ล จานนี้คอนเซปดูมีเอกลักษณ์ และเป็นการผสมผสานอาหารคาวและอาหารหวานได้น่าสนใจ เเต่เนื้อสัมผัสของหนังหมูที่ทำออกมากลับไม่กรอบมากนัก ออกหยุ่นๆ ยังสู้เนื้อสัมผัสของครัมเบิ้ลปกติไม่ได้ ดังนั้นการประยุกต์จากการใส่ของที่อยู่นอกเหนือสูตรปกติมาควรช่วยชูรสชาติให้ดียิ่งขึ้น จานนี้ควรนำไปเเก้ไขต่อ (10/20)

- Paolo’s Mother Tiramisu (350++)
Same as it ever was
ทิรามิสุสูตรพิเศษจากคุณแม่ของเชฟเปาโล ตัวเค้กมีรสกาแฟเพียงอ่อนๆเท่านั้น รสชาติหวานนำ ไม่ขมเท่าไหร่ มีกลิ่นโกโก้หอมๆ คนไม่ชอบกาแฟก็ทานได้ (12/20)

💰 ราคา 4,148.76 บาท

ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
[CR] 🇹🇭 Appia - แอพเพีย ห้องอาหารอิตาเลียนชื่อดังที่กลับมาเปิดใหม่
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🐂 หลังจากปิดปรับปรุงร้านครั้งใหญ่กว่า 3 เดือน ในที่สุด Appia ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังย่านวัฒนาก็ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ Appia Trattoria ลูกค้าสามารถเลือกนั่งด้านนอกซึ่งเป็นโซน Outdoor ติดถนนใหญ่ หรือนั่งภายในตัวร้านซึ่งมีขนาดค่อนข้างเล็ก โต๊ะเเต่ละโต๊ะถูกจัดค่อนข้างติดกันพอสมควร ตกแต่งแบบง่ายๆในบรรยากาศกึ่งบาร์ บนผนังร้านมีทั้งรูปวาด รูปถ่ายขาวดำแบบอิตาเลียนยุคเก่าดูคลาสสิคดี
🐂 แม้การตกแต่งภายในจะดูไม่ต่างจากร้านเดิมมากนัก แต่เมนูอาหารถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เจ้าของร้าน Paolo Vitaletti ต้องการเสิร์ฟเมนูอาหารอิตาเลียนสไตล์โรมันหรือ Roman Cuisine โดยลูกค้าสามารถเลือกทานเมนู Appia Antica ซึ่งรวบรวมเมนูเด็ดๆจากร้านเดิม หรือเลือกทานเมนู Appia Trattoria ซึ่งเป็นเมนูที่ถูกคิดขึ้นมาใหม่ โดยมีเมนูชูโรงอย่าง Ravioli Crudi หรือราวิโอลีดิบที่ใช้เนื้อกุ้งมาซาร่ามาทำเป็นเกี๊ยวสไตล์อิตาเลียน ทานกับน้ำมันจากหัวกุ้ง มีเมนู Risotto Caccio e Pepe ที่ทางร้านนำมาประยุกต์โดยใช้เทคนิคแบบใหม่เช่นน้ำสต็อกชีสเปอริคอโน่และเจลลี่พริกไทยดำ นอกจากนี้ยังมีเมนูตามฤดูกาลอย่าง Black Truffle Fettuccine ทานกับซอสเนื้อสไตล์อิตาเลียนภาคกลาง ปิดท้ายด้วยของหวานที่ทางร้านใช้วัตถุดิบอาหารคาวมาประยุกต์ผสมผสานกับอาหารหวานอย่างพานาคอตต้ากับหนังหมูครัมเบิ้ลดูแปลกตาดี
🐂 รสชาติที่ทำออกมาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ราคาค่อนข้างสูง ด้วยตำเเหน่งร้านที่อยู่ใจกลางย่านธุรกิจจึงทำให้ที่นี่เหมาะกับการเป็นจุดนัดสังสรรค์หลังเลิกงานกับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี
📃 A la carte menu
- Bread and Salad (Complimentary)
- Ravioli Crudi (890++)
Raw “ravioli” of Mazara prawn from Sicily, stracciatella cheese, chive-infused olive oil
- Fettuccine (690++)
Fresh house made fettuccine with winter black truffle and beef demi-glace
- Risotto (490++)
Caccio e pepe with pericorino and essence
- Buffalo Mozzarella Tortelli (450++)
Cooked in the whey, piennulo tomatoes, caper and basil
- Mousse (290++)
Hot chocolate foam, foie gras and candied hazelnut
- Panna Cotta (290++)
Black tea kombucha, fluffy porkskin crumble, black truffle
- Paolo’s Mother Tiramisu (350++)
Same as it ever was
✌️ อาหารรสชาติดีกว่ามาตรฐาน รสชาติอาหารสไตล์โรมันเเท้ซึ่งหาทานได้ไม่มากในกรุงเทพฯ
🏵 Score:
รสชาติ : 11/20
ราคา : 9/20
ความคุ้มค่า : 10/20
บรรยากาศ : 13/20
บริการ : 13/20
เทคนิคเเละความคิดสร้างสรรค์ : 14/20
ความประทับใจโดยรวม : 11/20
🏠 Location: 20/4 ซอยสุขุมวิท 31, คลองตันเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพ 10110
🚗 Parking: จอดที่ร้าน
🕕 Opening Time: จันทร์+พุธ-เสาร์ 18.00-22.30, อาทิตย์ 11.30-14.30, 18.00-22.30
💰 Price: ~2,000 บาท/คน
📞 Tel: 02 261 2056
🖥 Website: http://www.appia-bangkok.com
#FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining
หลังจากปิดปรับปรุงร้านครั้งใหญ่กว่า 3 เดือน ในที่สุด Appia ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังย่านวัฒนาก็ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ Appia Trattoria
ลูกค้าสามารถเลือกนั่งด้านนอกซึ่งเป็นโซน Outdoor ติดถนนใหญ่
- Ravioli Crudi (890++)
Raw “ravioli” of Mazara prawn from Sicily, stracciatella cheese, chive-infused olive oil
หนึ่งเนเมนูใหม่ของร้านแอพเพีย และเป็นเมนูสตาร์ทเตอร์ชูโรงของร้านใหม่เลยคือ ราวิโอลี ครูดี้ หรือราวิโอลีดิบ ที่ทางร้านใช้กุ้งแดงมาซารานำเข้าจากหมู่เหาะซิซิลี ประเทศอิตาลีมาทำเป็นไส้ใน วิธีทานให้หั่นเกี๊ยวราวิโอลีออกครึ่งหนึ่ง ตักเข้าปาก จากนั้นยกหัวกุ้งมาดูดน้ำในหัวกุ้ง แล้วจึงตักเกี๊ยวราวิโอลีอีกครึ่งหนึ่งจิ้มน้ำมันสีเขียวทำจากลูกกระเทียมทานตามกันไป จานนี้รสชาติดีมากทีเดียว เนื้อกุ้งหวานฉ่ำธรรมชาติ น้ำในหัวกุ้งมีรสเค็มอ่อนๆ เเต่มีกลิ่นหอมมากๆ รสขมของมันกุ้งอ่อนมากๆต่างจากกุ้งบ้านเราชัดเจน ถือเป็นจานที่ราคาค่อนข้างสูง (สูงกว่าพาสต้าทรัฟเฟิลเสียอีก) เเต่ทำรสชาติได้อร่อย มีเอกลักษณ์มากๆ (14/20)
- Risotto (490++)
Caccio e pepe with pericorino and essence
รีซอตโต้จานนี้คือจานที่รวมทุกอย่างของความเป็นโรมันเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มจากข้าวรีซอตโต้นำมาปรุงกับชีสและพริกไทยดำ หรือที่เรียกวันว่า คาชิโอ อี เปปเป้ ซึ่งเป็นวิธีการปรุงแบบอาหารโรมันยุคใหม่ ชีสที่ที่ร้านเลือกใช้มาปรุงเป็นสต็อกคือ เปอริคอโน่ โรมาโน่ ถือเป็นหนึ่งในชีสที่มีรสเเละกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ของอาหารโรมันสุดๆ มีรสเค็มเด่น มีกลิ่นหอมมากๆ ส่วนของพริกไทยดำคือเจลลีสีดำที่อยู่ข้างบน ตอนทานให้คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วตักทานทั้งหมด สำหรับเราข้าวรีซอตโต้ทำออกมาเเข็งมากไป เกินคำว่าอัลเดนเต้ไปอีก ตัวชีสทำออกมาดี เเต่รสค่อนข้างเค็มไปหน่อย แม้จะเอามาตรฐานอิตาเลียนมาวัดก็ตามที (10/20)
- Fettuccine (690++)
Fresh house made fettuccine with winter black truffle and beef demi-glace
ถัดมาคือเมนูตามฤดูกาลอย่างเห็ดทรัฟเฟิลดำ โดยทางร้านจะมาขูดเห็ดทรัฟเฟิลให้ที่โต๊ะเลย (11/20)
- Fettuccine (690++)
Fresh house made fettuccine with winter black truffle and beef demi-glace
เส้นเฟตตูชินี่ที่ทางร้านทำเองแบบอัลเดนเต้ เส้นยังนิ่มไปเพียงเล็กน้อย ราดด้วยซอสเนื้อรสเข้มข้น มีรสเค็มอ่อนๆ มีกลิ่นหอมตามแบบฉบับอิตาเลียนแท้ เสริมกันกับกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลดำได้อย่างลงตัว (11/20)
- Buffalo Mozzarella Tortelli (450++)
Cooked in the whey, piennulo tomatoes, caper and basil
เมนูใหม่จานสุดท้ายคือตอเตลลี่ พาสต้าทรงเกี๊ยวแบนที่ทำจากแป้งกับหางนม ตอนทานจะเคี้ยวเเล้วเหนียงหนุบหนับ ทำให้เกิด contrast กับเนื้อสัมผัสของชีสนมควายอย่างมอสซาเรลล่ายืดๆ มีกลิ่นหอมชีส มีกลิ่นหอมใบเบซิลเด่นชัดเจน ตัดรสมันเค็มของชีสด้วยรสเปรี้ยวของมะเขือเทศเพียนนูโลที่ปลูกันมากในเเถบภูเขาไฟวิสุเวียสทางตอนใต้ของอิตาลี มีรสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทานจานนี้เเล้วชวนให้เรานึกถึงทริปอิตาลีเมื่อปีที่เเล้วจริงๆ (12/20)
- Bread and Salad (Complimentary)
Salted Bread คือขนมปังอุ่นๆ รสออกเค็มมากแบบอิตาเลียนแท้ๆ เสิร์ฟให้ทานกับเนย (12/20)
- Bread and Salad (Complimentary)
‘Nduja Bread ขนมปังสอดไส้หมูซาลามี่แบบอิตาลี รสชาติคล้ายหมูแดงแบบจีน เเต่จะมีรสเผ็ดอ่อนๆร่วมด้วย ตัวขนมปังทางร้านนำไปทอดจนร้อนจัด ทานเเล้วผิวกรอบเเต่ด้านในนุ่ม มีกลิ่นหอมหมูมากๆ เหมือนซาลาเปาทอด อร่อยใช้ได้เลย (12/20)
- Bread and Salad (Complimentary)
Porchetta Salad หรือสลัดหมูที่ทางร้านใส่เเตงกวา โรยด้วยผงปาปริกาลงไป ทานเเล้วมีกลิ่นแตงกวาแรงไปหน่อย รสปาปริก้าไม่ค่อยออกมากนัก (9/20)
- Mousse (290++)
Hot chocolate foam, foie gras and candied hazelnut
ช็อกโกแลตมูสรสเข้มข้น ออกขมปนหวาน ทานกับโฟมช็อกโกแลตอุ่นๆ ด้านในมีส่วนผสมของฟัวกราส์ทำให้มีความต่างของรสขมระหว่างช็อกโกแลตและตับห่าน ตัวตับที่ใส่มาไร้ซึ่งกลิ่นคาว นอกจากนี้ยังมีถั่วฮาเซลนัทหวานกรอบตัดเนื้อสัมผัสกันอีกด้วย เเม้ว่าช็อกโกเเลตจะข้นไปสักหน่อยเเต่รสชาติที่ออกมาน่าสนใจ (11/20)
- Panna Cotta (290++)
Black tea kombucha, fluffy porkskin crumble, black truffle
พานาคอตต้าสูตรพิเศษ เนื้อพานาคอตต้าอยู่ด้านล่างใส่มาไม่เยอะมาก ด้านบนเป็นเจลลี่คอมบุฉะหรือชาดำญี่ปุ่น ครีมสีขาวเนียนนุ่ม ทอปด้วยแพนเชตต้ากรอบหรือหนังหมูกรอบที่ทางร้านนำมาใส่แทนครัมเบิ้ล จานนี้คอนเซปดูมีเอกลักษณ์ และเป็นการผสมผสานอาหารคาวและอาหารหวานได้น่าสนใจ เเต่เนื้อสัมผัสของหนังหมูที่ทำออกมากลับไม่กรอบมากนัก ออกหยุ่นๆ ยังสู้เนื้อสัมผัสของครัมเบิ้ลปกติไม่ได้ ดังนั้นการประยุกต์จากการใส่ของที่อยู่นอกเหนือสูตรปกติมาควรช่วยชูรสชาติให้ดียิ่งขึ้น จานนี้ควรนำไปเเก้ไขต่อ (10/20)
- Paolo’s Mother Tiramisu (350++)
Same as it ever was
ทิรามิสุสูตรพิเศษจากคุณแม่ของเชฟเปาโล ตัวเค้กมีรสกาแฟเพียงอ่อนๆเท่านั้น รสชาติหวานนำ ไม่ขมเท่าไหร่ มีกลิ่นโกโก้หอมๆ คนไม่ชอบกาแฟก็ทานได้ (12/20)
💰 ราคา 4,148.76 บาท
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้