ตอนมีข่าว ไม่เห็นมีใครยื่นมือมาช่วย ซ้ำเติมกัน ทำร้ายกัน แถมงานฟรี มีค่าใช้จ่าย แถมในเกาหลีไม่ค่อยออกงาน  

ไม่ส่งเด็กในค่ายมาเลย สักคน ดีที่สุด

พูดตามตรงคือผลงานในประเทศ ศลป. YG ปีนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนพวกงานเพลงปลายปี ก็ไปแค่ช่อง SBS แต่บังเอิญคดีซึงรีเริ่มคลี่คลาย กลายเป็นว่านักข่าวทาง SBS ตัดต่อแชทซึงรีทำให้ซึงรีกลายเป็นคนผิดและทำให้ประชาชนเข้าใจผิด อาจเพราะเรื่องนี้ YG เลยไม่ส่ง ศลป.ตัวเองไป

ส่วนอีกมุมนึงก็อาจเพราะ ข่าวด้านลบของทาง YG ยังไม่คลี่คลายแบบ 100% ถ้าส่งคนในค่ายไปอาจเกิดกระแสตีกลับทำให้คนรื้อฟื้นขึ้นมาอีก อาจต้องรอให้เงียบกว่านี้ก่อน

เอาเป็นว่าผลงาน YG ปี 2020 ต้องทำดีแบบมากที่สุดเพื่อให้คนไม่ด่าและมองข้ามเรื่องร้ายๆต่างๆไปได้

สังเกตนะวายจีจะแคร์งานปลายปีสำหรับไอดอลในค่ายที่เพิ่งเดบิ้วปีแรกเท่านั้น ไปเกือบทุกเวทียกเว้นมาม่า เหมือนไปโปรโมท พอปีต่อๆมาถ้าดังแล้วจะไม่ค่อยอยากส่งอีก เว้นแต่ได้รางวัลชัวร์ๆถึงส่งไปอย่างได้บนซัง แต่สเตจจะไม่ลงทุนเวทีอะไรมาก ปีหน้าคอยดูถ้าวงน้องสมบัติเดบิ้ววายจีส่งไปทุกงานแน่นอนพร้อมเวทีอลังการ
     แต่เท่าที่ดูตอนนี้ในวงการเคป๊อปดูเหมือนค่ายยักษ์2ค่ายอย่างsm กับ yg จะไม่ค่อยสนใจไม่ค่อยแคร์อะไรกับรางวัลในเกาหลีนะ เหมือน2ค่ายนี้จะไม่มีความกระหายในการอยากมีอยากได้รางวัลเท่าไร คงได้กันมาเยอะในปีก่อนๆเลยไม่อะไรกัน เหมือน2ค่ายนี้จะมองหาลู่ทางใหม่ๆมองหาตลาดใหม่ๆในการทำไอดอลมากกว่าจะทำไอดอลเพื่อสะสมถ้วยรางวัลในประเทศ อย่างsmก็ทำวงnct ยูนิคต่างๆ supermตีตลาดอเมริกา wayvตลาดจีน
ส่วนyg ก็ประสบความสำเร็จกับบพ. ปล่อยเพลงไม่ต้องเยอะแต่ขายเวิลด์ทัวร์ทัวร์โดมทำเพลงน้อยแต่ดูเป็นของแรร์แต่เจ๋ง ตะลุยวงการแฟชั่นจนเมมเบอร์อย่างลิซ่าไปติดผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกร่วมเซเลปตะวันตก เป็นเอ็นดอเซอร์กันได้ทุกคน อย่างน้องสมบัติที่จะเดบิ้วก็มี2ยูนิตจะแยกหรือรวมร่างก็ได้ มีเมมเบอร์ญ่ปุ่นเจาะตลาดญี่ปุ่นได้สบาย มันคือการทำไอดอลรูปแบบใหม่ ที่ไม่ใช่มุ่งแต่แข่งขันในประเทศต้องคอยเอาอกเอาใจสื่อหรือช่องทีวีในประเทศแบบสมัยก่อน เพราะสมัยก่อนวงการยังไม่กว้างขวางในต่างประเทศเท่ายุคนี้แถมช่องทางการนำเสนอต่อแฟนๆก็ยังไม่เยอะเท่ายุคนี้ จึงต้องเน้นในประเทศไว้ก่อน แต่ยุคนี้แฟนเคป็อปมีทั่วโลก ทุกวงต้องมีแฟนอยู่ทุกประเทศมากน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและฐานแฟน แต่ทุกวงต้องมีแฟนอยู่ทั่วโลก เพราะงั้นค่ายใหญ่ๆที่มีฐานในประเทศแน่นแล้วอย่างYGหรือsm จึงลองวิธีการหรือตลาดใหม่ๆกับไอดอลรุ่นใหม่ๆมากขึ้น

ส่วนตัวผมมองว่าการจัดคิวว่าวงไหนจะมาเล่นเวทีไหนช่วงปลายปีบ้างเนี่ย มันคงมีเตรียมการไว้ก่อนวันงานพอสมควร ซึ่งช่วงนั้นสถานการณ์ค่ายมันยังไม่ชัดเจนว่าคดีต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางไหน ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของค่ายคืออยู่นิ่งๆ และเลือกจะไม่ส่งศิลปินไปเวทีไหนเลยเพื่อควบคุมสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน ณ เวลานั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึง หากว่าผลการตัดสินมันออกมาในเชิงลบกับค่าย

สมมติว่าศาลตัดสินว่าหยางผิด กระแสสังคมก็คงรุมประนามทั้งตัวหยางทั้งตัวศิลปิน มันก็เสี่ยงว่าในงานปลายปี ถ้าส่งศิลปินไปเกิดโดนแบน โดนตะโกนด่ามันก็จะไม่ส่งผลดีกับทั้งค่าย และศิลปินเท่าไหร่  ก็เลยเลือกที่จะไม่ส่งศิลปินไปเวทีไหนเลย  มันก็คือ Risk Management นั่นแหละครับ

YG คงไม่ถึงขั้นว่าจะไม่ส่งศิลปินไปเวทีไหนหรอก  ปีหน้าผมว่าก็คงส่งไปตามปกติ เพราะยังไงการประชาสัมพันธ์แบบนี้มันก็ยังส่งผลในแง่การตลาดอยู่ดี ไม่ใช่ว่าทุกวงจะดังเหมือน Blackpink เหมือน Bigbang นี่ครับ วงอื่นยังต้องการพื้นที่อยู่ จะไม่ส่งเลยเพราะไม่อยากจ่ายค่าเตรียมงานเอง ผมว่าคงไม่ใช่

สรุปปีนี้ที่ไม่ส่งก็เป็นเรื่อง Risk Management ธรรมดา ควบคุมความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงไว้ก่อน ซึ่งถึงตอนนี้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี จบปัญหาทุกอย่างแล้ว แต่อยู่ดีๆ จะไปแทรกคิวขอลงมันก็ไม่ใช่เรื่องครับ  ก็ไปว่ากันปีหน้า  ผมว่ายังไงปีหน้าคงได้เห็นศิลปิน YG ตามเวทีต่างๆ ตามปกตินั่นแหละ  ปีนี้ไม่ส่งเพราะสถานการณ์มันไม่ปกติก็เท่านั้นเอง