มาใหม่อีกรอบจ้าาาา เมื่อกี้มีความมึน กดเลือกผิดเลือกถูก เพลียใจตัวเองงงงง
ไม่พูดเยอะ มาเริ่มกันเลยเน๊อะ
เอามาแชร์! เซรั่มผมที่ฟาดมาตอน SALE อันไหนทั้งถูกและดี มาดูกัน!
เฮลโหล้ววววสาวๆ รีวิวนี้เป็นรีวิวครั้งที่สองของเรา ยังไงก็ฝากด้วยน้า เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผม ปกติก็ใช้บ่อยแต่ก็เปลี่ยนแบรนด์ไปเรื่อย ช่วงเดือนที่ผ่านมามีงานลดกระหน่ำ11.11 บวกกับกำลังจะลองซื้อเซรั่มแบรนด์อื่นมาลองใช้ เท่านั้นแหละ แม่ก็กดสั่งมาแบบไม่เกรงใจกระเป๋าตังเลยจ้าาา สั่งมาเหมือนใช้ได้ยันปีหน้าทั้งปี
หลังจากสั่งของไป อีก 4-5 วัน ของก็มาส่งจ้าาาาา
แท่นแท่นแทนนนนนนนน
มาทั้งหมด 3 กล่อง เพราะสั่งมา 3 แบรนด์ถูกดีนัก 555555
จะบอกว่ามันก็มีที่รู้สึกว่าใช้แล้วเริ่ดมากประทับใจสุด ไปจนถึงใช้แล้วรู้สึกเฉยๆ ซึ่งก็คิดว่าเลยมารีวิว เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่ชอบใช้พวกผลิตภัณฑ์บำรุงผมแบบที่ไม่ต้องล้างออกนี่เป็นการบอกเล่าจากการใช้งานมาจริงๆ ตัวไหนดีไม่ดี เพื่อนๆก็สามารถมาแชร์กันได้นาจาาา
ขอแบ่งรีวิวออกเป็นตามนี้น้า คือ
1) ความคิดเห็นจากการใช้จริง
2) ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม
อย่างแรกคือขออธิบายสภาพผมตัวเองก่อนเราเป็นคนผมยาวและมีผมเส้นใหญ่ เคยผ่านการทำสี ดัด มาก่อนและทุกวันนี้ก็ไดร์ผมแทบทุกวัน โดนความร้อนเยอะ มีหนีบผมอยู่เป็นประจำ แต่เรื่องม้วนผม มีบ้างตามโอกาส แค่เลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้วจ้า สวยทุกวันไม่ไหว แม่เหนื่อย
เป็นคนหัวมันแต่ปลายผมแห้งเรียกว่าบางทีครีมนวดก็เอาไม่อยู่จ้า ใช้ได้แค่ปลายๆ ตรงโคนผมถ้าลงครีมนวดคือมันมากกกกก ก็เลยหันมาใช้ตัวช่วยในการบำรุงผมแบบที่ไม่ต้องล้างออกเพิ่มอีก เพราะคิดว่าแค่ครีมนวดคือบางทีก็ไม่ได้ช่วยแต่ใช้พวกวิตามินบำรุงผมละคือมันดีขึ้นแบบว่าเรารู้สึกได้ และยังช่วยปกป้องผมจากความร้อน หรือพวกแสงแดด ควันรถ ควันหมูปิ้งที่เจอทุกๆ วัน (รีวิวจากใจไม่ได้อวยจริงๆ)
ไม่พูดเยอะละเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. Dove Vitamin Intense Repair Hair Vitamins
พอเห็นของSALEกับคำเคลมที่เขียนว่าได้รับยอดขายอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อนก็ถึงกับต้องสั่งมาลอง คำเคลมจากแบรนด์ เขาบอกว่าเป็นวิตามินบำรุงผมช่วยปกป้องเส้นผมจากการถูกทำร้ายโดยปัจจัยต่างๆ เช่น แสงแดด มลพิษ วิตามินมีสารสกัดจากธรรมชาติจากผลอาร์กาน ที่ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมอ่อนแอ วิตามินอี ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผมแห้ง

ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : ใช้แล้วรู้สึกว่าผมหอม ถ้าถามว่าผมนุ่มขึ้นไหมก็นุ่มขึ้นนิดนึงแต่ว่าไม่ได้รู้สึกว่าเริ่ดและเห็นผลชัดขนาดนั้น ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุด ใช้แล้วไม่รู้สึกว่าผมเหนียวเหนอะมัน กลิ่นดีเหมือนกลิ่นยาสระผมทและครีมนวดของโดฟเลยจ้าา เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อออยที่ใส่มาในแคปซูล ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 6/10 พอแต่คงไม่ซื้อต่อเพราะยังไม่ค่อยชอบมากก

2. Lesasha Hair Vitamin (Green Tea&Mint)
สำหรับแบรนด์นี้ที่ลองสั่งมา เพราะเพื่อนลองใช้แล้วบอกว่าดีอยู่ตอนนั้นเพื่อนสั่งสีชมพูมา เราก็เลยลองสั่งตามเลยจาา แต่เราสั่งสีเขียวเพราะสำหรับผมเสียแห้งแตกปลายซึ่งตรงกับปัญหาผมเราพอดี ส่วนแบรนด์นี้เขาเคลมว่าเป็นเซรั่มวิตามินบำรุงผม สูตรชาเขียวและมินท์ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและเคลือบเส้นผม พร้อมช่วยบำรุงหนังศีรษะอีกด้วยมาดูกันว่าใช้แล้วจะเป็นยังไงงงง

ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : แบรนด์นี้ถือว่าใครๆก็ต้องรู้จักอะเนอะ พอลองใช้สูตร Green Tea&Mint แล้ว โอเคเลยนะ รู้สึกว่าผมนุ่มขึ้นหลังจากใช้ แต่ว่ามีความมันไปหน่อย กลิ่นก็โอเคเป็นกลิ่นมิ้นๆชาเขียว แต่ใช้แล้วผมไม่ได้หอม จริงๆเราอยากให้ใช้แล้วผมหอมมม ซึ่งข้อนี้ก้หักคะแนนกันไปจ้าา เป็นเนื้อออยใสๆเหมือนของโดฟ โดยรวมก็ดีใช้แล้วผมดูไม่ขี้ฟูตามที่แบรนด์เคลมจริง ลึกๆก็ชอบ กดไลค์แต่ยังไม่ได้เลิฟมาก
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 7/10 อาจจะซื้อต่อถ้าไม่เจอแบรนด์ที่ถูกใจมากกว่านะ

3. Eliips Hair Vitamin
ต้องขอเกริ่นก่อนว่ากำลังใช้แบรนด์นี้อยู่ ปกติใช้สูตรSmooth&Silky(สีเหลือง) ซึ่งก็ชอบอยู่ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองสีอื่นละเห็นของ SALE พอดี สีเหลืองที่ซื้อมาก็จะหมดละก็เลยกดสั่งมาเลยทั้ง 3 สี 3 สูตร ซึ่งแต่ละสูตรก็จะช่วยแก้ปัญหาผมที่แตกต่างกันไป
Smooth & Silky(สีเหลือง) สำหรับคนที่ผมชี้ฟูแห้งแตกปลาย
Hair Repair(สีชมพู) สำหรับคนที่ผมเสียพันกัน หวีแล้วติดกันเป็มปม
Silky Black(สีดำ) สุดท้ายสีนี้เหมาะกับสาวๆที่ ผมไม่อยู่ทรงอยากให้ผมดำเงางามดูธรรมชาติ
สูตรแรก Smooth & Silky(สีเหลือง)

ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : สำหรับสีนี้คือสีที่เราใช้ประจำอยู่แล้วก็ต้องบอกเลยว่าถ้าไม่ดีจริง ไม่ใช่มาจนถึงทุกวันนี้นาจา ความประทับใจแรกคือกลิ่น กลิ่นดี ให้ความรู้สึกผู้ดี ส่วนตัวคือชอบเพราะได้ทั้งผมหอม และผมก็นุ่มขึ้นไม่ได้ดูแห้ง ชอบสุดคือผมหอมทั้งวันกลิ่นติดทนแต่คือเนื้ออาจจะหนืดไปนิดไม่ค่อยเหมาะกับคนหนังศีรษะมัน แต่เราใช้แค่ปลายผมประมาณ 15 ซม. สำหรับสีนี้คือผ่าน เลิฟฟฟฟฟฟ เราใช้วันเว้นวันบางครั้งก็ 2 วันใช้ที
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 9/10 ซื้อต่อแน่นอนเพราะว่ามันดียยยยยย์ หัก 1 คะแนนเพราะหาซื้อยากไปนิด เราต้องไปซื้อที่ท้อปส์ หรือตามพวก beauty store ต่างๆ อย่าง Beautrium & Eve&Boy หรือสั่งออนไลน์เอา น่าจะมีขายในเซเว่น จะให้เต็ม 10 ไปเลย
สูตรสอง Hair Repair(สีชมพู)

ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : ปัญหาผมพันกัน แตกปลายเราก็มีบ้างแต่ไม่ใช่ปัญหาหลักสำหรับเรา ก็อยากลองเหมือนกันว่าจะช่วยจริงไหม พอลองใช้ดูนางก็ช่วยอยู่นะ แล้วเราลองเอามือสางผมแทนหวีดูและพบว่าเอ่ออ ก็ดีจริง เพราะปกติบางทีเราใช้มือสางนี่คือจบมาก ผมพันกันเป็นปม กลิ่นก็โอเคกลิ่นหอมสไตล์หวานๆ สาวๆ ส่วนมากนน่าจะชอบกลิ่นประมาณนี้แน่นอน แต่ว่าติดนิดนึงคือเราแอบรู้สึกว่าใช้แล้วผมมันไปนิดนึงแต่โดยรวมคือเริ่ดจัดว่าผ่านค่ะ
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 8/10 ซื้อต่อแต่อาจจะไม่ได้ใช้สีนี้เป็นหลัก อาจจะใช้ในช่วงที่สภาพผมเริ่มไม่ไหว แตกปลายหนักๆ พันกันเป็นปมหนักๆ
สูตรสาม Silky Black(สีดำ)

ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : มาถึงสูตรสุดท้ายที่บอกว่าช่วยให้ผมอยู่ทรงเงางามดูธรรมชาติ หลังจากใช้แล้วเรารู้สึกว่าโอเคในระดับนึงเลย กลิ่นดี หอมแบบกลิ่นน้ำหอมแต่ไม่ฉุนเกินไป ใช้แล้วผมชุ่มชื้น จัดทรงง่ายอยู่นะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่ว่าผมดูเงา สุขภาพดีขึ้พนจริงๆ เอาเป็นว่าผ่านจ้า แล้วประเด็นคือแบรนด์นี้กลิ่นติดทนมากอยู่ตั้งแต่เช้ายันเย็นทุกสีเลยยยย
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 7/10 ซื้อต่อแต่คืออาจจะไม่ได้ใช้บ่อย อาจจะอาทิตย์ละครั้งเพื่อให้ผมดูเงางามเป็นธรรมชาติ
ทำสรุปมาให้สาวๆ อ่านง่ายขึ้นนะจ้าา
รีวิวหมดแล้วจ้า เป็นยังไงกันบ้าง อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ใครใช้อันไหนเป็นยังไงมาแชร์กันได้นะคะ รอบหน้าเดียวลองยี่ห้ออื่นแล้วถ้าเจอของดีจะมาแชร์กันอีกนะจ้าาาา
[CR] รีวิวแฮร์วิตามิน ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วผมปัง ราคาไม่แรง มาดูกัน!
ไม่พูดเยอะ มาเริ่มกันเลยเน๊อะ
เอามาแชร์! เซรั่มผมที่ฟาดมาตอน SALE อันไหนทั้งถูกและดี มาดูกัน!
เฮลโหล้ววววสาวๆ รีวิวนี้เป็นรีวิวครั้งที่สองของเรา ยังไงก็ฝากด้วยน้า เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผม ปกติก็ใช้บ่อยแต่ก็เปลี่ยนแบรนด์ไปเรื่อย ช่วงเดือนที่ผ่านมามีงานลดกระหน่ำ11.11 บวกกับกำลังจะลองซื้อเซรั่มแบรนด์อื่นมาลองใช้ เท่านั้นแหละ แม่ก็กดสั่งมาแบบไม่เกรงใจกระเป๋าตังเลยจ้าาา สั่งมาเหมือนใช้ได้ยันปีหน้าทั้งปี
หลังจากสั่งของไป อีก 4-5 วัน ของก็มาส่งจ้าาาาา
แท่นแท่นแทนนนนนนนน
มาทั้งหมด 3 กล่อง เพราะสั่งมา 3 แบรนด์ถูกดีนัก 555555
จะบอกว่ามันก็มีที่รู้สึกว่าใช้แล้วเริ่ดมากประทับใจสุด ไปจนถึงใช้แล้วรู้สึกเฉยๆ ซึ่งก็คิดว่าเลยมารีวิว เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่ชอบใช้พวกผลิตภัณฑ์บำรุงผมแบบที่ไม่ต้องล้างออกนี่เป็นการบอกเล่าจากการใช้งานมาจริงๆ ตัวไหนดีไม่ดี เพื่อนๆก็สามารถมาแชร์กันได้นาจาาา
ขอแบ่งรีวิวออกเป็นตามนี้น้า คือ
1) ความคิดเห็นจากการใช้จริง
2) ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม
อย่างแรกคือขออธิบายสภาพผมตัวเองก่อนเราเป็นคนผมยาวและมีผมเส้นใหญ่ เคยผ่านการทำสี ดัด มาก่อนและทุกวันนี้ก็ไดร์ผมแทบทุกวัน โดนความร้อนเยอะ มีหนีบผมอยู่เป็นประจำ แต่เรื่องม้วนผม มีบ้างตามโอกาส แค่เลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้วจ้า สวยทุกวันไม่ไหว แม่เหนื่อย
เป็นคนหัวมันแต่ปลายผมแห้งเรียกว่าบางทีครีมนวดก็เอาไม่อยู่จ้า ใช้ได้แค่ปลายๆ ตรงโคนผมถ้าลงครีมนวดคือมันมากกกกก ก็เลยหันมาใช้ตัวช่วยในการบำรุงผมแบบที่ไม่ต้องล้างออกเพิ่มอีก เพราะคิดว่าแค่ครีมนวดคือบางทีก็ไม่ได้ช่วยแต่ใช้พวกวิตามินบำรุงผมละคือมันดีขึ้นแบบว่าเรารู้สึกได้ และยังช่วยปกป้องผมจากความร้อน หรือพวกแสงแดด ควันรถ ควันหมูปิ้งที่เจอทุกๆ วัน (รีวิวจากใจไม่ได้อวยจริงๆ)
ไม่พูดเยอะละเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. Dove Vitamin Intense Repair Hair Vitamins
พอเห็นของSALEกับคำเคลมที่เขียนว่าได้รับยอดขายอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อนก็ถึงกับต้องสั่งมาลอง คำเคลมจากแบรนด์ เขาบอกว่าเป็นวิตามินบำรุงผมช่วยปกป้องเส้นผมจากการถูกทำร้ายโดยปัจจัยต่างๆ เช่น แสงแดด มลพิษ วิตามินมีสารสกัดจากธรรมชาติจากผลอาร์กาน ที่ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมอ่อนแอ วิตามินอี ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผมแห้ง
ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : ใช้แล้วรู้สึกว่าผมหอม ถ้าถามว่าผมนุ่มขึ้นไหมก็นุ่มขึ้นนิดนึงแต่ว่าไม่ได้รู้สึกว่าเริ่ดและเห็นผลชัดขนาดนั้น ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุด ใช้แล้วไม่รู้สึกว่าผมเหนียวเหนอะมัน กลิ่นดีเหมือนกลิ่นยาสระผมทและครีมนวดของโดฟเลยจ้าา เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อออยที่ใส่มาในแคปซูล ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 6/10 พอแต่คงไม่ซื้อต่อเพราะยังไม่ค่อยชอบมากก
2. Lesasha Hair Vitamin (Green Tea&Mint)
สำหรับแบรนด์นี้ที่ลองสั่งมา เพราะเพื่อนลองใช้แล้วบอกว่าดีอยู่ตอนนั้นเพื่อนสั่งสีชมพูมา เราก็เลยลองสั่งตามเลยจาา แต่เราสั่งสีเขียวเพราะสำหรับผมเสียแห้งแตกปลายซึ่งตรงกับปัญหาผมเราพอดี ส่วนแบรนด์นี้เขาเคลมว่าเป็นเซรั่มวิตามินบำรุงผม สูตรชาเขียวและมินท์ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและเคลือบเส้นผม พร้อมช่วยบำรุงหนังศีรษะอีกด้วยมาดูกันว่าใช้แล้วจะเป็นยังไงงงง
ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : แบรนด์นี้ถือว่าใครๆก็ต้องรู้จักอะเนอะ พอลองใช้สูตร Green Tea&Mint แล้ว โอเคเลยนะ รู้สึกว่าผมนุ่มขึ้นหลังจากใช้ แต่ว่ามีความมันไปหน่อย กลิ่นก็โอเคเป็นกลิ่นมิ้นๆชาเขียว แต่ใช้แล้วผมไม่ได้หอม จริงๆเราอยากให้ใช้แล้วผมหอมมม ซึ่งข้อนี้ก้หักคะแนนกันไปจ้าา เป็นเนื้อออยใสๆเหมือนของโดฟ โดยรวมก็ดีใช้แล้วผมดูไม่ขี้ฟูตามที่แบรนด์เคลมจริง ลึกๆก็ชอบ กดไลค์แต่ยังไม่ได้เลิฟมาก
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 7/10 อาจจะซื้อต่อถ้าไม่เจอแบรนด์ที่ถูกใจมากกว่านะ
3. Eliips Hair Vitamin
ต้องขอเกริ่นก่อนว่ากำลังใช้แบรนด์นี้อยู่ ปกติใช้สูตรSmooth&Silky(สีเหลือง) ซึ่งก็ชอบอยู่ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองสีอื่นละเห็นของ SALE พอดี สีเหลืองที่ซื้อมาก็จะหมดละก็เลยกดสั่งมาเลยทั้ง 3 สี 3 สูตร ซึ่งแต่ละสูตรก็จะช่วยแก้ปัญหาผมที่แตกต่างกันไป
Smooth & Silky(สีเหลือง) สำหรับคนที่ผมชี้ฟูแห้งแตกปลาย
Hair Repair(สีชมพู) สำหรับคนที่ผมเสียพันกัน หวีแล้วติดกันเป็มปม
Silky Black(สีดำ) สุดท้ายสีนี้เหมาะกับสาวๆที่ ผมไม่อยู่ทรงอยากให้ผมดำเงางามดูธรรมชาติ
สูตรแรก Smooth & Silky(สีเหลือง)
ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : สำหรับสีนี้คือสีที่เราใช้ประจำอยู่แล้วก็ต้องบอกเลยว่าถ้าไม่ดีจริง ไม่ใช่มาจนถึงทุกวันนี้นาจา ความประทับใจแรกคือกลิ่น กลิ่นดี ให้ความรู้สึกผู้ดี ส่วนตัวคือชอบเพราะได้ทั้งผมหอม และผมก็นุ่มขึ้นไม่ได้ดูแห้ง ชอบสุดคือผมหอมทั้งวันกลิ่นติดทนแต่คือเนื้ออาจจะหนืดไปนิดไม่ค่อยเหมาะกับคนหนังศีรษะมัน แต่เราใช้แค่ปลายผมประมาณ 15 ซม. สำหรับสีนี้คือผ่าน เลิฟฟฟฟฟฟ เราใช้วันเว้นวันบางครั้งก็ 2 วันใช้ที
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 9/10 ซื้อต่อแน่นอนเพราะว่ามันดียยยยยย์ หัก 1 คะแนนเพราะหาซื้อยากไปนิด เราต้องไปซื้อที่ท้อปส์ หรือตามพวก beauty store ต่างๆ อย่าง Beautrium & Eve&Boy หรือสั่งออนไลน์เอา น่าจะมีขายในเซเว่น จะให้เต็ม 10 ไปเลย
สูตรสอง Hair Repair(สีชมพู)
ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : ปัญหาผมพันกัน แตกปลายเราก็มีบ้างแต่ไม่ใช่ปัญหาหลักสำหรับเรา ก็อยากลองเหมือนกันว่าจะช่วยจริงไหม พอลองใช้ดูนางก็ช่วยอยู่นะ แล้วเราลองเอามือสางผมแทนหวีดูและพบว่าเอ่ออ ก็ดีจริง เพราะปกติบางทีเราใช้มือสางนี่คือจบมาก ผมพันกันเป็นปม กลิ่นก็โอเคกลิ่นหอมสไตล์หวานๆ สาวๆ ส่วนมากนน่าจะชอบกลิ่นประมาณนี้แน่นอน แต่ว่าติดนิดนึงคือเราแอบรู้สึกว่าใช้แล้วผมมันไปนิดนึงแต่โดยรวมคือเริ่ดจัดว่าผ่านค่ะ
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 8/10 ซื้อต่อแต่อาจจะไม่ได้ใช้สีนี้เป็นหลัก อาจจะใช้ในช่วงที่สภาพผมเริ่มไม่ไหว แตกปลายหนักๆ พันกันเป็นปมหนักๆ
สูตรสาม Silky Black(สีดำ)
ความคิดเห็นจากการใช้งานจริง : มาถึงสูตรสุดท้ายที่บอกว่าช่วยให้ผมอยู่ทรงเงางามดูธรรมชาติ หลังจากใช้แล้วเรารู้สึกว่าโอเคในระดับนึงเลย กลิ่นดี หอมแบบกลิ่นน้ำหอมแต่ไม่ฉุนเกินไป ใช้แล้วผมชุ่มชื้น จัดทรงง่ายอยู่นะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่ว่าผมดูเงา สุขภาพดีขึ้พนจริงๆ เอาเป็นว่าผ่านจ้า แล้วประเด็นคือแบรนด์นี้กลิ่นติดทนมากอยู่ตั้งแต่เช้ายันเย็นทุกสีเลยยยย
ให้กี่คะแนน ซื้อต่อไหม : เอาไป 7/10 ซื้อต่อแต่คืออาจจะไม่ได้ใช้บ่อย อาจจะอาทิตย์ละครั้งเพื่อให้ผมดูเงางามเป็นธรรมชาติ
ทำสรุปมาให้สาวๆ อ่านง่ายขึ้นนะจ้าา
รีวิวหมดแล้วจ้า เป็นยังไงกันบ้าง อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ใครใช้อันไหนเป็นยังไงมาแชร์กันได้นะคะ รอบหน้าเดียวลองยี่ห้ออื่นแล้วถ้าเจอของดีจะมาแชร์กันอีกนะจ้าาาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้