[CR] ::lll REVIEW VIETNAM - โฮจิมินต์, ดาลัด, มุยเน่ 4 วัน 3 คืน 2019 lll::

เกริ่นหน่อย.. ตั้งแต่เริ่มทริปเลย ตั้งใจจะไปดานัง บานาฮิลล์กัน แต่พอเปิดดูราคาตั๋ว ตัดสินใจเลี้ยวหัวลงใต้เลย 5555 เอาจริงมันก็ไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก แต่ด้วยงบที่เรามีกันตอนนั้นด้วย แล้วไปดูราคาตั๋วไปโฮจิมินต์ถูกกว่า เลยตัดสินใจจองกันไป 4 วัน 3 คืน กับ 4 สาว: เราไปกันวันที่ 21-24 Nov 2019
 เพี้ยนออกทริปเพี้ยนแช๊ะ

นี่คือ แพลนที่เราแพลนกันไปทริปเวียดนามครั้งนี้ มาดูกัน ว่าจะไปได้ครบรึเปล่า :’)
Day 1: กรุงเทพ – โฮจิมินต์ (CAFE' APARTMENT > รูปปั้นลุงโฮ > Notre Dame Cathedral (โบสถ์สีชมพู) > ไปรษณีย์กลางสีเหลือง > ร้าน Craft beer) - รถนอนไปดาลัด
Day 2: ดาลัด (An Café > Garden Hydrangeas > Up coffee > Dalat cable car station > Datanla Waterfall > Cối Xay Gió > Domaine de Marie > Dalat Night Market)
Day 3: ดาลัด (Dalat Morning Market > Cối Xay Gió) – มุยเน่
Day 4: มุยเน่ - โฮจิมินต์ – กรุงเทพ
 
 
สรุปรวมงบทั้งหมดประมาณ 8,000 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ - โฮจิมินต์ 2,780 บาท
- ซื้อโหลดกระเป๋าเพิ่มขากลับ 680 บาท / 4 = 170 บาท
- ค่ากินคิดแบบนี้ (วันละ 800 x 4 คน x 4 วัน) =  12,800 บาท / 4 = 3,200
- ค่ารถทุกอย่าง รวมค่าโดนโกง (คนละ 1,000 บาท) = 2,000 + 1,000 = 3,000 / 4 = ประมาณ 1,600 บาท
- สรุปเหลือช๊อปเบาๆคนละ 600-800 บาทเลย ถ้าตัดช๊อปไปด้วย ก็เหลือคนละ 7,500 บาท โดยประมาณ
 
โรงแรมที่พัก
วันที่ 21 Nov 2019 Nineties hostel ราคาประมาณ 600-700 บาท
ที่พักอยู่ย่านฟามงูเหลา อยู่ใกล้จุดซื้อตั๋วและจุดขึ้นรถของ Futa bus มาก แนะนำสำหรับคนที่จะมาแค่อาบน้ำ วางกระเป๋าอ่ะ ถ้านอนไม่แนะนำ สภาพแวดล้อมโดยรวมไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ สำหรับพนักงานให้คำแนะนำดีค่ะ พูดภาษาอังกฤษได้ และ reception เปิด 24 ชั่วโมง
วันที่ 22 Nov 2019 ETE Hostel ราคาประมาณ 1,200 บาท
โฮสเทลน่ารักมาก เจ้าของน่ารักมาก พนักงานทุกคนพูดภาษอังกฤษได้ สามารถซื้อตั๋วรถไปมุยเน่กับที่พักได้ เช่ามอเตอร์ไซกับที่นี่ได้ ที่พักน่ารักมากๆๆ น่ารักตั้งแต่ทางเข้าจนห้องนอนเลย โดยรวมคือสะอาด ดูใหม่ ได้รับการดูแลอย่างดี ตรงบริเวณ Reception ตกแต่งด้วยธีมคริสมาร์ส ทำให้ดูอบอุ่นน่ารักไปอีก ที่ห้องเราพักเป็นห้อง Private 4 คน ถ่ายรูปบางมุมนี่เกาหลีมาก ส่วนของห้องน้ำรวมก็สะอาดเช่นกัน
วันที่ 23 Nov 2019 Muine beach hotel ราคาประมาณ 1,200 บาท
โรงแรมอยู่ติดถนน และอยู่จากจุดที่ลงรถบัสจากดาลัดมาประมาณ 4 กิโล อยู่ห่างจากร้านอาหารทะเลใหญ่ๆประมาณ 2 กิโล โรงแรมใหม่ โดยรวมสะอาด สงบ ทั้งห้องน้ำ ห้องนอน มีรองเท้าเตะให้ด้วย เราเอาใส่ไปทะเลทราย บริเวณนั้นมีร้านขายของชำ (โรงแรมไม่ติดหาดนะคะ) พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีเลย แล้วก็ช่วยเหลือเราทุกอย่าง ขอแค่บอกเค้า
 
 
 
มาเริ่มออกเดินทางกันเล๊ยยยยยยยยย  
Day 1: กรุงเทพ – โฮจิมินต์ (CAFE' APARTMENT > รูปปั้นลุงโฮ > Notre Dame Cathedral (โบสถ์สีชมพู) > ไปรษณีย์กลางสีเหลือง > ร้าน Craft beer) – รถนอนไปดาลัด
 
เราเดินทางด้วยสายการบิน Air Asia รอบ 7:30 AM - 9:15 AM เครื่องบินออกตรงเวลา ไปถึงที่โน้นก็เข้าห้องน้ำอะไรให้เรียบร้อย แล้วไปรอเข้าตม.กัน
 
พอเราออกมาจากตม.แล้ว ก็ลงบันไดเลื่อนมาชั้น 1 มันก็จะมีบู๊ทขายซิมเวียดนาม ที่เห็นๆมีอยู่ 2 เจ้า mobifone กับ Viettel เราเลือกเจ้า mobifone เราซื้อในสนามบิน 10 GB ประมาณ 300 บาท (จำราคาดองไม่ได้) จากที่ดูๆก็แพงอยู่นะเมื่อเทียบกับที่เรามาเจอด้านนอก ขั้นตอนการซื้อซิมเค้าก็จะขอ Passport เราไป แล้วบางเจ้ามีขอถ่ายรูปหน้าด้วย จ่ายเงิน เป็นอันเสร็จ
 
ปล. เราแนะนำให้เดินออกมาข้างนอกสนามบิน แล้วค่อยซื้อตามโต๊ะ ถูกกว่าเยอะมาก อย่างน้อยๆก็ 100-150 บาทเลยแหละ ส่วนสัญญาณเราว่าพอๆกันทั้ง 2 เจ้าเลย มีเพื่อนเราใช้ viettel สัญญาณก็โอเคนะ
 

พอออกมาแล้วมองไปทางด้านขวามือ จะเจอจุดจอดรถเมล์เพื่อไปฟามงูเหลา จะมี 2 สาย คือ 109, 152 จะขึ้นสายไหนก็ได้ ค่ารถเมล์เราขึ้นสาย 109 ค่ารถเมล์ 20,000 ดอง ((จริงๆเราหันไปเห็นตอนจ่ายเงินแล้ว ว่าของ 152 ติดป้ายไว้ที่ 5,000 ดองอ่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ – เหมือนสาย 152 จะคิดว่ากระเป๋าด้วย อีก 5,000 ดอง) เวลาเดินทางจากสนามบินไปฟามงูเหลาก็เกือบๆ 40 นาที

ถึงแว้วววว ฟามงูเหลา หรือถนนสาย Backpacker street เราจอง Nineties hostel เอาไว้วางกระเป๋า และเตรียมตัวอาบน้ำไปขึ้นรถนอน ตอนนี้ก็เที่ยงหน่อยๆแล้วแหละ หิววจ้า
 
 
ก่อนอื่นเลยเราต้องไปซื้อตั๋วรถนอนก่อน เราก็สอบถามทางคนดูแล Hostel แหละว่าซื้อตั๋วรถที่ไหน ปรากฏว่าเดินไปประมาณ 300 เมตรก็ถึง สะดวกมาก เราได้รอบรถ 23:50 มา ของ Futa bus (ดูมาจากในเน็ตแล้ว มันเต็มเกือบทุกรอบเลย ใจไม่ดี คนรู้จักที่เวียดนามเลยจองให้ แบบยกเลิกได้ ของอีกเจ้า แต่ก็ต้องนั่งแท็กไปอีก เลยตกลงกับเพื่อนว่า ถ้าเราได้รอบที่นี่ เราก็โทรไปแคนเซิลอีกที่ สรุปได้รอบมา 23:50) รอบนี้ไม่มีในเวบ หรือใบรอบรถที่เค้าเอามาให้ดู
 
 
เราก็ให้เค้าแนะนำ ว่าร้านเฝอที่ไหนอร่อย และนี่เลยค่ะ ชื่อร้าน + Map ร้านเฝอ 555 น่ารักมาก จริงๆคือ กดใน Google map ก็เจอแล้วค่ะ เดินไปอีกหน่อยนึง ก็ถึงแล้ว
ร้านนี้คนเยอะมาก มี 2 ชั้น (ไม่แน่ใจมีชั้น 3 ไหมสำหรับโต๊ะนั่ง แต่มีบันได) เราได้ขึ้นไปบนชั้น 2 อ่านเมนู คือ เน้นเนื้อ มีแต่เฝอเนื้อเลยหลักๆ เฝอไก่มีประเภทเดียว แล้วก็มีพวกขนมปัง เฝอแห้งก็มี ร้านนี้เด็ดอยู่นะ ปรุงไปปรุงมา เหมือนต้มยำบ้านเราเลย ส่วนพริกใส่ไปเพิ่มรสชาติ เผ็ดจ้า
 
อิ่มแล้วลุยต่อ... ตอนนี้วลาประมาณบ่ายสองละ เราเปิด Map เดินไป Café Apartment แล้วก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ จากร้านเฝอ เดินตรงไปเลย มันเป็นย่านที่มีผับ บาร์ ร้านอาหารกลางคืนเยอะมากก อารมณ์คล้ายพัทยาบ้านเรา เดินไป แวะมินิมาร์ทไป
 
บอกตรงๆคือ ไม่คิดว่าเวียดนามจะคาเฟ่เยอะขนาดนี้อ่ะ เดินไปเจอคาเฟ่ เดินไปเจอคาเฟ่ มีแต่คาฟ่น่ารักๆ ชิคๆ แล้วร้าน craft beer ก็เยอะมากกกกกกกกกกก เช่นกัน 
 
 
ข้ามถนนแบบชาวเวียดต้องห้ามหยุด อย่ายึกยัก ใจต้องแกร่ง แล้วก้าวเลย ฉับๆ รถหลบเราเอง แต่บางจุดต้องรอสัญญาณไฟนะ ดูดีๆ เพราะบางที่สัญญาณมันอยู่ข้างๆเรานี่แหละ มองไม่เห็น
 
 
เริ่มเหนื่อย เจอคาเฟ่ร้านนี้ เห็นขนมปังเป็นไม่ได้ ต้องเปิดประตูเดินเข้าไป โอยยยย ละลายค่ะงานนี้ ซื้อสิคะ รออะไร ขนม บราวนี่ เค้ก อลังมาก ชั้น 2 มีที่นั่งมุมสงบ แล้วก็มุมถ่ายรูปน่ารักๆเลย ข้างๆร้านนี้มีร้าน Alley coffee (ตอนวันสุดท้ายเราไปแวะ เพราะอยากกินชาไข่มุก สรุปไม่มีนะ ร้านขายแต่เมนูกาแฟ) เราแวะร้าน TOUS les JOURIS
 
เดินต่อไป Café Apartment คืออออ ทางเดินไปมีแต่คาเฟ่ ร้านเบียร์ ปลื้มอ่ะ ถูกใจจริงๆ โฮจิมินต์
ถ่ายรูปเสร็จ ก็นั่งพักมองตึกข้างทางไปเรื่อยๆ ตอนแรกว่าจะขึ้นไปข้างบน แต่ทุกคนเหนื่อย อยากพักกันแล้ว เราเลยตัดสินใจกลับกันค่ะ (รูปปั้นลุงโฮ > Notre Dame Cathedral (โบสถ์สีชมพู) > ไปรษณีย์กลางสีเหลือง ไม่ได้ไปเลย ไว้หาเรื่องกลับมาใหม่ 55)
 
ก่อนกลับแวะร้านเบียร์นิดนึง ร้านนี้เพื่อนหามา เป็นร้าน craft beer ที่ทางเข้างงมาก งงในที่นี้หมายถึง เห้ย นี่เป็นทางเข้าจริงดิ 5555 แต่ร้านดีมากกก สายฝ.เยอะเหมือนกัน
   
 
ก่อนกลับๆ เราเจอร้านขายข้างทาง เป็นแบบลูกหาบ เห็นคนเวียดนามกำลังซื้ออยู่ เลยบอกเค้าเอาแบบนี้ 1 สนนราคาที่ 20,000 ดอง (ทุกร้านขายราคานี้แทบจะทั้งหมด อยู่ที่ให้เยอะหรือน้อย) เราเรียกกันว่า “ยำโพลิเมอร์ หรือ ยำขนมเหนียว” 5555 ตอนแรกกินก็นึกในใจ กินอะไรอยู่เนี่ย ทำไมต้องมาเคี้ยวพลาสติก งงใจ กินไปกินมา อร่อยเฉย ต้องจัดซ้ำอีก
 
เดินไม่ไหวแล้วววว เรียก Grab เลยค่ะ ง่าย สะดวก จะตัดบัตรหรือจ่ายสดก็ได้ แล้วแต่เราเลย ส่งถึงที่
  
 เข้าที่พัก พักผ่อน แล้วออกมาหาอะไรกินค่ะ เราหาอะไรกินกันแถวย่านนั้น เจอร้านไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ 55 รออาหารนานมาก 1 ชม. จนต้องแคนเซิลอ่ะ ไม่บอกชื่อร้านนะคะ เพราะจำไม่ได้ ฮืออ สรุปแล้วจบที่มินิมาร์ท
 
อาบน้ำ พักผ่อน แล้วได้เวลา 23:30 ก็ออกจากที่พัก เดินไปที่รอรถค่ะ จะรอคนละฝั่งกับที่ซื้อตั๋ว ทางที่ดีคือ ถามนะคะ เรานี่เกือบนั่งรอเก้อเลย เค้าจะมีรถมารับเราไปส่งที่จุดขึ้นรถอีกที ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงจุดขึ้นรถ
 
 
รถนอนมาแล้ว สำหรับรถนอนนะ เราแนะนำจะนอนบน นอนล่างก็ได้ แล้วแต่เลย ถ้านอนบนควรนอนชิดขอบหน้าต่าง เพราะรถเหวี่ยงมาก เพื่อนเรานอนตรงกลางบอก น่ากลัวมาก เพราะที่กั้นมันนิดเดียว กลัวตก ส่วนเรานอนริม นอนสบายนะ รถนอนส่วนตัว มีที่ชาจ ทีวี แต่ไม่ได้ดู หลับบบ อ้อ รถนอนมีม่านให้ด้วยนะคะ
เพี้ยนฝันดี
=== ต่อในคอมเม้นนะคะ ===
 
 
 
ชื่อสินค้า:   รีวิวเวียดนามใต้
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่