โอก้าเป็นคนชอบเที่ยวไปเรื่อย คราวนี้จะพามาสำรวจที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากสนามบินฮาเนดะแล้วกัน เพราะสะดวกแก่การเดินทางดี เรามาดูที่เที่ยวแถว Shinagawa, Kawasaki และ Ota กันนะ เอาเขต Shinagawa ก่อนแล้วกันเนอะ แถบนี้มีกิจกรรมเยอะมากๆ โอก้ามีโอกาสได้แวะลองเที่ยวเลยอยากมาแนะนำต่อ แนะนำที่แรกก่อนนะ นั่นคือ Shinagawa Aquarium
รายละเอียด Shinagawa Aquarium
พิกัด
https://goo.gl/maps/FECnxBfM31B4yvHDA
เวบไซต์
https://www.aquarium.gr.jp/
เวลา 10.00-17.00 (เข้าชมก่อนเวลา 16.30 นะ) วันอังคารหยุด
เดินทาง ลงที่สถานี Omorikaigan Station (Keikyu Line) เดินต่อ 8 นาที
เนี่ย ออกจากสถานี แล้วเดินตามป้ายไปเลย แต่ถ้าเรามาจากสถานี Oimachi จะมีรถบัสบริการรับส่งด้วยนะ
เดินไปตามทิศทางป้ายบอกเลย แล้วจะเจอ ทางเข้าเป็นแบบนี้ ผู้ใหญ่1350 เยน เด็กประถม/ม.ต้น 600 เยนเอง
ดูให้อาหารปลา เต่าก็ว่ายไปมา
มีโลมาโชว์ด้วยนะ ตอนนี้มีลูกปลาโลมาเพิ่งคลอดออกมา น่ารักมาก
ว่ายน้ำเคียงข้างแม่ตลอดเวลา
ส่วนตัวนี้ แมวน้ำน่าร้ากกก
แสนฉลาดด้วยนะ บอกให้ถือตะกร้าขนมก็ถือได้ ดูเท้าสิคะคุณ พับหนีบกันไว้เรียบร้อย ฮ่าๆ
ว่ายไปมา น่าหมั่นไส้มาก อ้วนๆกลมๆแบบนี้ ไวมากเลยนะ
เอ่อ โกรธไรกันมาคะ
ด้านในยังมีทางเดิน มุมสวยๆมากมาย
นั่งมองอุโมงค์ปลา สวยดีเนอะ ใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานมาก
เด็กๆ หรือใครที่อยากสัมผัสปลา ก็มีมุมให้เอามือจุ่มลงไปแบบนี้ด้วยนะ จั๊กจี้ๆ
เหมือนลูกแก้ววิเศษเลย ปลาด้านในสวยมาก แล้วบนผิวแก้วจะเปลี่ยนลวดลายไปเรื่อยๆด้วยนะ
ปลาฉลามก็มีจ้า ใหญ่มาก เด็กๆมาเห็นต้องมีร้องกรี๊ด
ออกจากที่เที่ยวสำหรับเด็กๆแล้ว คราวนี้ถึงยามค่ำคืนไม่รู้จะไปไหนต่อดี โอก้ามีที่เที่ยวพักผ่อนของคนวัยทำงานในโตเกียวมาให้ดู เรานั่งแท็กซี่ต่อมาก็ได้นะ เพราะสนามแข่งม้า Tokyo City Keiba อยู่ใกล้ๆกันนี่เอง แต่ถ้าใครเดินทางมาจากสถานี Hamamatsucho ก็นั่งโมโนเรลมาลงที่สถานี Oikeibajo-mae
รายละเอียด
Tokyo City Keiba
เวบไซต์
https://www.tokyocitykeiba.com/en/
พิกัด
https://goo.gl/maps/wXVU1V4hoaMJxrxm7
เวลา 14.00 - 20.50 กรุณาตรวจเช็คที่เวบไซต์อีกครั้ง

ทางเข้าก็ไม่ไกลจากสถานีเลยนะ เดินเข้ามาเลย คนต่างชาติโชว์แค่พาสปอร์ตก็ได้เข้าฟรีละจ้า ดีจุงเลย

เข้าไปที่ช่องนี้เลยนะ แต่ถ้าจะนั่งแบบห้องส่วนตัว ห้องกระจกด้านบน ต้องไปที่ซื้อตั๋ว เดี๋ยวมีพนักงานคอยช่วยแนะนำการซื้อให้ ราคาหลักพันเยนขึ้นไป

ด้านใน มีแบบฟอร์มสำหรับแทงม้า มีพนักงานที่สื่อสารอังกฤษได้คอยช่วยแนะนำ การกรอกก็มีคำอธิบายภาษาไทยด้วย โหว อะไรจะอำนวยความสะดวกให้ขนาดนี้

ก่อนเราจะกาเลือกม้าเบอร์ไหนดี คือก่อนการลงแข่งสัก 30 นาที เค้าจะพาม้าตัวที่จะลงสนามรอบต่อไปมาเดินให้คนชมก่อน เราก็จะดูว่าเราชอบม้าตัวไหนน้า เอาตามจริง โอก้าดูไม่ออก ฮ่าๆ ตัวไหนขนสวย ผมหน้าม้าเต่อ เอาตัวนั้นแหล่ะ แล้วพอเดินใกล้รอบสุดท้าย เจ้าหน้าที่จะมาเดินจูงม้าตัวนั้นด้วยตัวเอง (จ๊อกกี้ดังๆ ขี่ม้าตัวไหน ตัวนั้นจะเป็นตัวเก็งทันที)

มันต้องลองดูค่ะ เพื่อจะได้เข้าถึงอารมณ์ของคนญี่ปุ่น จัดหนักไป 100 เยน เลือกแบบโอกาสถูกยากสุดเลย Trifecta (เลือกม้า 3 ตัว เข้าตามลำดับเป๊ะๆ) ใครมือใหม่ ชอบแบบง่ายๆก็เลือกแทงแบบ win ก็พอ คือเบอร์ไหนเข้าที่ 1 ก็ได้ตังค์ถ้าเลือกถูก

ได้ตั๋วแบบนี้มา (มีพนักงานคอยยืนช่วยเหลือ ไม่ต้องห่วง)เก็บไว้นะ เผื่อมีโชค ใครแทงถูกก็ไปขึ้นเงินที่ตู้เดิมนั่นแหล่ะ หรือบอกให้พนักงานช่วยได้
คนที่ไม่อยากเสียเงินเยอะ ก็อยู่ด้านล่างเลยจ้า ส่วนคนไหนชอบแบบส่วนตัว มีจอให้ดูสถิติ นั่งชมสบายๆกับเพื่อนฝูงก็จ่ายเพิ่มนิดนึง
ดูเอาจ้า ว่ายิ่งใหญ่อลังการแค่ไหน นี่แค่ส่วนนึงเท่านั้นนะ
เอาแบบห้องส่วนตัวแบบกรุ๊ปก็มีนะ เพราะสนามแข่งม้าเป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นมาก ถือว่าคือการพักผ่อนอีกแบบ ที่นี่เปิดวันธรรมดาตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ เหมาะสำหรับเวลาเลิกงานก็มานั่งสังสรรค์กัน เค้าบอกว่า เชื่อมสัมพันธไมตรีกับเพื่อนร่วมงานได้ดีเชียวล่ะ
ก็ดูเอาว่า มีแบบห้องอาหารบุฟเฟต์ คนละ 5000 เยนแต่ทานได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงที่นี่ปิด ตักทานแล้วไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง กับเพื่อนฝูง เท่าที่โอก้าสังเกต ดูจะเป็นกลุ่มนั่งปาร์ตี้เมาท์มอยกันมากกว่าดูแข่งม้านะ ฮ่าๆ
หรือจะออกไปหาทานตามร้านอาหารก็มีเยอะมากๆ มีร้านอาหารประเภทปลามากมายมาจากตลาดปลาสึกิจิเลยนะ
ถ้าจะเอาแบบแคมป์ปิ้งก็มี เอ๊ะ เดี๋ยวนะ โอก้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ฮ่าๆ เรามาแต่ตัวเท่านั้นแล้วค่อยมาเช่าอุปกรณ์เอาค่ะ
ถึงเวลาปล่อยม้าแข่งออกมาแล้ว วี๊ดวิ้ววววว ..... 100 เยนปลิวไปแล้ววววว ม้าอายุ 3- 6 ปีจะวิ่งได้เก่งที่สุด แต่ละตัวหนักได้ถึง 500 กิโลกรัมเชียวนะ ปลอกขาที่เห็นคือตัวช่วยซัพพอร์ตค่ะ เพราะขาม้าค่อนข้างอ่อนไหวง่าย
ร้านขายของที่ระลึก จ๊อกกี้ คนไหนดังก็จะมีลายประจำตัวคนนั้นมาวางขาย
*******
เดี๋ยวเรามาหาที่เที่ยวที่อื่นกันต่อ คราวนี้ โอก้าจะพามาส่องเมือง Kawasaki บ้าง ว่าที่นี่นั้นมีอะไรให้เดินเล่นเดินชมบ้าง เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี Mukogaoka Yuen โดยสายรถไฟ Odakyu ออกมาจากสถานีแล้ว โอ้ววว โดราเอม่อน น่าร้ากกก
นั่งรถบัสญี่ปุ่นไปเที่ยวดูบ้างละกัน ป้ายรอรถบัสเบอร์ 5 อยู่ด้านหน้าร้าน Lawson นี่เอง
ขึ้นรถบัสหมายเลข 19 นะ พอหน้าจอนี้ขึ้นมา กดปุ่มลงที่ป้าย Ikuta Ryokuchi Iriguchiนี้เลย ค่ารถ 210 เยน
ลงรถที่ป้ายแล้ว เดินไปทางด้านหน้าต่อเลย ถึงตรงไฟแดงนั่นก็เดินชิดทางขวา
จะเจอทางเข้า พิพิธภัณฑ์บ้านญี่ปุ่นกลางแจ้ง หรือ Japan Open-air Folk House Museum
รายละเอียด
เวบไซต์
http://english.nihonminkaen.jp/ ค่าเข้าผู้ใหญ่ 500 เยนเองจ้า
พิกัด
https://goo.gl/maps/xXk9n8Uk7uurBrHR8 จ.คานากาว่า
เวลา [Mar. - Oct.] 9:30 - 17:00 [Nov. - Feb.] 9:30 - 16:30
หยุดวันจันทร์ แต่ถ้าตรงวันหยุดปฏิทินก็จะเปิดให้เข้า
บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ ใส่ชุดกิโมโนมาเดินคงได้เหมือนย้อนยุคไปอดีต
เดินเข้ามาด้านใน มีอธิบายลักษณะบ้านญี่ปุ่นที่สร้างตามภูมิประเทศต่างๆ เช่น บ้านตามภูเขาหรือทะเล
ทุกบ้านจะมีคำอธิบายไว้หมด ว่าบ้านของใคร ทำอาชีพอะไร สร้างมาตั้งแต่ยุคไหน คือที่นี่เป็นบ้านจริงที่นำมาจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ มารวมกันไว้ด้วยกัน
ชอบหลังคาบ้านญี่ปุ่นสมัยก่อนมากๆ ดูคลาสสิกสุดๆ
ด้านหลังบ้านก็มีห้องน้ำด้วยนะ
ดูความแตกต่างของภายในแต่ละบ้าน โครงสร้างไม่เหมือนกัน และน่าสนใจมากๆ
โอก้าชอบบ้านที่มีก่อเตาแบบนี้ กลิ่นของฟืนหอมมากๆ จะมีบางบ้านที่เค้าจุดไฟให้เราดูว่า ของจริงในสมัยก่อนนั้น เค้าก็จุดเพื่อให้ควันไฟไปรมถึงหลังคาด้านบน แมลงจะได้ไม่อยู่
ชุดเสื้อคลุม และรองเท้าบูทจ้าาาาา ทำมาจากฟางข้าว สวยเก๋
อาชีพของคนสมัยก่อน ก็คงไม่พ้นการทอผ้า เช่น ผ้าไหม
บ้านทรงแปลกๆ มีให้เห็นเป็นระยะ เราต้องเดินขึ้นเนินเขาสักหน่อยนะ ใส่รองเท้าผ้าใบมาน่าจะสะดวกกว่า
ลานแสดงละครจ้า ถ้าเป็นบ้านเราคงเหมือนรัชดาลัยเธียเตอร์
ขากลับมีทางเดินป่าเล็กๆด้วยนะ เดินไปแล้วเดินกลับด้วยล่ะ เพราะเราต้องกลับสถานีเดิม ก็นั่งรถบัสที่ฝั่งตรงข้ามที่เราลงตะกี้แหล่ะ
โอก้ายังมีที่เที่ยวต่ออีกนะ เราก็มาที่สถานี Kawasakidaishi (Keikyu Daishi Line)กันต่อ เพื่อมาเที่ยววัด
จากสถานีสามารถเดินมาวัดได้นะ เราจะไปที่นี่กัน
วัด Kawasakidaishi Heikenji
เวบไซต์
http://www.kawasakidaishi.com/english/index.html
พิกัด
https://goo.gl/maps/Kn3QpG3AN2MgEuei9
ทางเดินเข้าวัด มีร้านค้ามากมาย แต่ไปถึงเย็นร้านเลยปิดกันเยอะ
ชอบที่สุดคือ ตุ๊กตาดารุมะ มีวางขายเยอะจริงๆ แถบนี้ขายดารุมะกันเยอะมาก ซื้อไปแล้วใช้หมึกสีดำเขียนวงกลมเป็นตาดำไว้ 1 ข้าง ขอพร เมื่อสมหวังแล้วก็เขียนเพิ่มตาอีก 1 ข้างค่ะ
เชื่อกันว่า เดินลอดผ่านโคมแดงนี้เข้าไป ก็จะได้รับการปกป้องดูแลจากพระพุทธรูปของที่นี่
คนที่มาไหว้พระที่นี่ส่วนใ
เที่ยวญี่ปุ่นอย่างกูรู ตอน แหล่งโดนใจต้องไปสักครั้ง เขต Shinagawa Kawasaki และ Ota
รายละเอียด Shinagawa Aquarium
พิกัด https://goo.gl/maps/FECnxBfM31B4yvHDA
เวบไซต์ https://www.aquarium.gr.jp/
เวลา 10.00-17.00 (เข้าชมก่อนเวลา 16.30 นะ) วันอังคารหยุด
เดินทาง ลงที่สถานี Omorikaigan Station (Keikyu Line) เดินต่อ 8 นาที
เนี่ย ออกจากสถานี แล้วเดินตามป้ายไปเลย แต่ถ้าเรามาจากสถานี Oimachi จะมีรถบัสบริการรับส่งด้วยนะ
เดินไปตามทิศทางป้ายบอกเลย แล้วจะเจอ ทางเข้าเป็นแบบนี้ ผู้ใหญ่1350 เยน เด็กประถม/ม.ต้น 600 เยนเอง
ดูให้อาหารปลา เต่าก็ว่ายไปมา
มีโลมาโชว์ด้วยนะ ตอนนี้มีลูกปลาโลมาเพิ่งคลอดออกมา น่ารักมาก
ว่ายน้ำเคียงข้างแม่ตลอดเวลา
ส่วนตัวนี้ แมวน้ำน่าร้ากกก
แสนฉลาดด้วยนะ บอกให้ถือตะกร้าขนมก็ถือได้ ดูเท้าสิคะคุณ พับหนีบกันไว้เรียบร้อย ฮ่าๆ
ว่ายไปมา น่าหมั่นไส้มาก อ้วนๆกลมๆแบบนี้ ไวมากเลยนะ
เอ่อ โกรธไรกันมาคะ
ด้านในยังมีทางเดิน มุมสวยๆมากมาย
นั่งมองอุโมงค์ปลา สวยดีเนอะ ใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานมาก
เด็กๆ หรือใครที่อยากสัมผัสปลา ก็มีมุมให้เอามือจุ่มลงไปแบบนี้ด้วยนะ จั๊กจี้ๆ
เหมือนลูกแก้ววิเศษเลย ปลาด้านในสวยมาก แล้วบนผิวแก้วจะเปลี่ยนลวดลายไปเรื่อยๆด้วยนะ
ปลาฉลามก็มีจ้า ใหญ่มาก เด็กๆมาเห็นต้องมีร้องกรี๊ด
ออกจากที่เที่ยวสำหรับเด็กๆแล้ว คราวนี้ถึงยามค่ำคืนไม่รู้จะไปไหนต่อดี โอก้ามีที่เที่ยวพักผ่อนของคนวัยทำงานในโตเกียวมาให้ดู เรานั่งแท็กซี่ต่อมาก็ได้นะ เพราะสนามแข่งม้า Tokyo City Keiba อยู่ใกล้ๆกันนี่เอง แต่ถ้าใครเดินทางมาจากสถานี Hamamatsucho ก็นั่งโมโนเรลมาลงที่สถานี Oikeibajo-mae
รายละเอียด
Tokyo City Keiba
เวบไซต์ https://www.tokyocitykeiba.com/en/
พิกัด https://goo.gl/maps/wXVU1V4hoaMJxrxm7
เวลา 14.00 - 20.50 กรุณาตรวจเช็คที่เวบไซต์อีกครั้ง
ทางเข้าก็ไม่ไกลจากสถานีเลยนะ เดินเข้ามาเลย คนต่างชาติโชว์แค่พาสปอร์ตก็ได้เข้าฟรีละจ้า ดีจุงเลย
เข้าไปที่ช่องนี้เลยนะ แต่ถ้าจะนั่งแบบห้องส่วนตัว ห้องกระจกด้านบน ต้องไปที่ซื้อตั๋ว เดี๋ยวมีพนักงานคอยช่วยแนะนำการซื้อให้ ราคาหลักพันเยนขึ้นไป
ด้านใน มีแบบฟอร์มสำหรับแทงม้า มีพนักงานที่สื่อสารอังกฤษได้คอยช่วยแนะนำ การกรอกก็มีคำอธิบายภาษาไทยด้วย โหว อะไรจะอำนวยความสะดวกให้ขนาดนี้
ก่อนเราจะกาเลือกม้าเบอร์ไหนดี คือก่อนการลงแข่งสัก 30 นาที เค้าจะพาม้าตัวที่จะลงสนามรอบต่อไปมาเดินให้คนชมก่อน เราก็จะดูว่าเราชอบม้าตัวไหนน้า เอาตามจริง โอก้าดูไม่ออก ฮ่าๆ ตัวไหนขนสวย ผมหน้าม้าเต่อ เอาตัวนั้นแหล่ะ แล้วพอเดินใกล้รอบสุดท้าย เจ้าหน้าที่จะมาเดินจูงม้าตัวนั้นด้วยตัวเอง (จ๊อกกี้ดังๆ ขี่ม้าตัวไหน ตัวนั้นจะเป็นตัวเก็งทันที)
มันต้องลองดูค่ะ เพื่อจะได้เข้าถึงอารมณ์ของคนญี่ปุ่น จัดหนักไป 100 เยน เลือกแบบโอกาสถูกยากสุดเลย Trifecta (เลือกม้า 3 ตัว เข้าตามลำดับเป๊ะๆ) ใครมือใหม่ ชอบแบบง่ายๆก็เลือกแทงแบบ win ก็พอ คือเบอร์ไหนเข้าที่ 1 ก็ได้ตังค์ถ้าเลือกถูก
ได้ตั๋วแบบนี้มา (มีพนักงานคอยยืนช่วยเหลือ ไม่ต้องห่วง)เก็บไว้นะ เผื่อมีโชค ใครแทงถูกก็ไปขึ้นเงินที่ตู้เดิมนั่นแหล่ะ หรือบอกให้พนักงานช่วยได้
คนที่ไม่อยากเสียเงินเยอะ ก็อยู่ด้านล่างเลยจ้า ส่วนคนไหนชอบแบบส่วนตัว มีจอให้ดูสถิติ นั่งชมสบายๆกับเพื่อนฝูงก็จ่ายเพิ่มนิดนึง
ดูเอาจ้า ว่ายิ่งใหญ่อลังการแค่ไหน นี่แค่ส่วนนึงเท่านั้นนะ
เอาแบบห้องส่วนตัวแบบกรุ๊ปก็มีนะ เพราะสนามแข่งม้าเป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นมาก ถือว่าคือการพักผ่อนอีกแบบ ที่นี่เปิดวันธรรมดาตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ เหมาะสำหรับเวลาเลิกงานก็มานั่งสังสรรค์กัน เค้าบอกว่า เชื่อมสัมพันธไมตรีกับเพื่อนร่วมงานได้ดีเชียวล่ะ
ก็ดูเอาว่า มีแบบห้องอาหารบุฟเฟต์ คนละ 5000 เยนแต่ทานได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงที่นี่ปิด ตักทานแล้วไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง กับเพื่อนฝูง เท่าที่โอก้าสังเกต ดูจะเป็นกลุ่มนั่งปาร์ตี้เมาท์มอยกันมากกว่าดูแข่งม้านะ ฮ่าๆ
หรือจะออกไปหาทานตามร้านอาหารก็มีเยอะมากๆ มีร้านอาหารประเภทปลามากมายมาจากตลาดปลาสึกิจิเลยนะ
ถ้าจะเอาแบบแคมป์ปิ้งก็มี เอ๊ะ เดี๋ยวนะ โอก้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ฮ่าๆ เรามาแต่ตัวเท่านั้นแล้วค่อยมาเช่าอุปกรณ์เอาค่ะ
ถึงเวลาปล่อยม้าแข่งออกมาแล้ว วี๊ดวิ้ววววว ..... 100 เยนปลิวไปแล้ววววว ม้าอายุ 3- 6 ปีจะวิ่งได้เก่งที่สุด แต่ละตัวหนักได้ถึง 500 กิโลกรัมเชียวนะ ปลอกขาที่เห็นคือตัวช่วยซัพพอร์ตค่ะ เพราะขาม้าค่อนข้างอ่อนไหวง่าย
ร้านขายของที่ระลึก จ๊อกกี้ คนไหนดังก็จะมีลายประจำตัวคนนั้นมาวางขาย
*******
เดี๋ยวเรามาหาที่เที่ยวที่อื่นกันต่อ คราวนี้ โอก้าจะพามาส่องเมือง Kawasaki บ้าง ว่าที่นี่นั้นมีอะไรให้เดินเล่นเดินชมบ้าง เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี Mukogaoka Yuen โดยสายรถไฟ Odakyu ออกมาจากสถานีแล้ว โอ้ววว โดราเอม่อน น่าร้ากกก
นั่งรถบัสญี่ปุ่นไปเที่ยวดูบ้างละกัน ป้ายรอรถบัสเบอร์ 5 อยู่ด้านหน้าร้าน Lawson นี่เอง
ขึ้นรถบัสหมายเลข 19 นะ พอหน้าจอนี้ขึ้นมา กดปุ่มลงที่ป้าย Ikuta Ryokuchi Iriguchiนี้เลย ค่ารถ 210 เยน
ลงรถที่ป้ายแล้ว เดินไปทางด้านหน้าต่อเลย ถึงตรงไฟแดงนั่นก็เดินชิดทางขวา
จะเจอทางเข้า พิพิธภัณฑ์บ้านญี่ปุ่นกลางแจ้ง หรือ Japan Open-air Folk House Museum
รายละเอียด
เวบไซต์ http://english.nihonminkaen.jp/ ค่าเข้าผู้ใหญ่ 500 เยนเองจ้า
พิกัด https://goo.gl/maps/xXk9n8Uk7uurBrHR8 จ.คานากาว่า
เวลา [Mar. - Oct.] 9:30 - 17:00 [Nov. - Feb.] 9:30 - 16:30
หยุดวันจันทร์ แต่ถ้าตรงวันหยุดปฏิทินก็จะเปิดให้เข้า
บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ ใส่ชุดกิโมโนมาเดินคงได้เหมือนย้อนยุคไปอดีต
เดินเข้ามาด้านใน มีอธิบายลักษณะบ้านญี่ปุ่นที่สร้างตามภูมิประเทศต่างๆ เช่น บ้านตามภูเขาหรือทะเล
ทุกบ้านจะมีคำอธิบายไว้หมด ว่าบ้านของใคร ทำอาชีพอะไร สร้างมาตั้งแต่ยุคไหน คือที่นี่เป็นบ้านจริงที่นำมาจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ มารวมกันไว้ด้วยกัน
ชอบหลังคาบ้านญี่ปุ่นสมัยก่อนมากๆ ดูคลาสสิกสุดๆ
ด้านหลังบ้านก็มีห้องน้ำด้วยนะ
ดูความแตกต่างของภายในแต่ละบ้าน โครงสร้างไม่เหมือนกัน และน่าสนใจมากๆ
โอก้าชอบบ้านที่มีก่อเตาแบบนี้ กลิ่นของฟืนหอมมากๆ จะมีบางบ้านที่เค้าจุดไฟให้เราดูว่า ของจริงในสมัยก่อนนั้น เค้าก็จุดเพื่อให้ควันไฟไปรมถึงหลังคาด้านบน แมลงจะได้ไม่อยู่
ชุดเสื้อคลุม และรองเท้าบูทจ้าาาาา ทำมาจากฟางข้าว สวยเก๋
อาชีพของคนสมัยก่อน ก็คงไม่พ้นการทอผ้า เช่น ผ้าไหม
บ้านทรงแปลกๆ มีให้เห็นเป็นระยะ เราต้องเดินขึ้นเนินเขาสักหน่อยนะ ใส่รองเท้าผ้าใบมาน่าจะสะดวกกว่า
ลานแสดงละครจ้า ถ้าเป็นบ้านเราคงเหมือนรัชดาลัยเธียเตอร์
ขากลับมีทางเดินป่าเล็กๆด้วยนะ เดินไปแล้วเดินกลับด้วยล่ะ เพราะเราต้องกลับสถานีเดิม ก็นั่งรถบัสที่ฝั่งตรงข้ามที่เราลงตะกี้แหล่ะ
โอก้ายังมีที่เที่ยวต่ออีกนะ เราก็มาที่สถานี Kawasakidaishi (Keikyu Daishi Line)กันต่อ เพื่อมาเที่ยววัด
จากสถานีสามารถเดินมาวัดได้นะ เราจะไปที่นี่กัน
วัด Kawasakidaishi Heikenji
เวบไซต์ http://www.kawasakidaishi.com/english/index.html
พิกัด https://goo.gl/maps/Kn3QpG3AN2MgEuei9
ทางเดินเข้าวัด มีร้านค้ามากมาย แต่ไปถึงเย็นร้านเลยปิดกันเยอะ
ชอบที่สุดคือ ตุ๊กตาดารุมะ มีวางขายเยอะจริงๆ แถบนี้ขายดารุมะกันเยอะมาก ซื้อไปแล้วใช้หมึกสีดำเขียนวงกลมเป็นตาดำไว้ 1 ข้าง ขอพร เมื่อสมหวังแล้วก็เขียนเพิ่มตาอีก 1 ข้างค่ะ
เชื่อกันว่า เดินลอดผ่านโคมแดงนี้เข้าไป ก็จะได้รับการปกป้องดูแลจากพระพุทธรูปของที่นี่
คนที่มาไหว้พระที่นี่ส่วนใ