คดีของ"สมคิด พุ่มพวง"ฆาตกรต่อเนื่อง5ศพ ศาลได้มีคำพิพากษาทั้ง 5 คดี ให้ประหารชีวิตทั้ง5คดี
โดยปกติแล้ว ตามกฎหมายไทย เวลามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น จะมีการนับโทษ อย่างเช่น ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 แล้วเอาโทษทั้งหมดมารวมกัน เช่นคดีลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ศาลลงโทษ 1 ปี ตีหัวไป 5 คน ศาลลงโทษคนละปี ก็จะเอา 5 ปี มาบวกรวมกัน นับโทษต่อกันไป ตัวอย่าง กรณีของซินแสโชกุน มีความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 871 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 4,355 ปี แต่จำคุกจริงได้เพียง 20 ปี (ตามกฎหมาย ให้จำคุกจำเลยไว้สูงสุดไม่เกิน 20 ปี )
กรณีนายสมคิด ศาลลงโทษประหารชีวิต นายสมคิด ถูกศาลลงโทษประหารชีวิตทั้ง 5 คดี การรับโทษประหารชีวิตไม่สามารถนำโทษมารวมกันได้ ไม่สามารถประหารชีวิตซ้ำๆได้ การที่ฆ่าคน5ศพ ไม่ได้หมายความว่าโทษจะหนักขึ้น5เท่า แต่ศาลได้ลดโทษให้ เพราะให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต โทษของการจำคุกตลอดชีวิตก็เช่นกัน ไม่สามารถนำมารวมกันได้ ไม่ได้หมายความว่าโทษจะหนักขึ้น5เท่า จะฆ่าคน1ศพ ฆ่าคน5ศพ หรือฆ่าคน10ศพ จะได้รับโทษสถานเดียวคือการจำคุกตลอดชีวิตแค่โทษเดียวเท่านั้น
ซึ่งโทษจำคุกตลอดชีวิตตามกฎหมายไทย ถ้าใครต้องโทษตลอดชีวิต ให้รับโทษแค่จำคุก 50 ปีเท่านั้น
ด้วยกฎหมายไทยไม่ว่าจะฆ่าคนตายมากี่ศพ จะฆ่าคน1ศพ ฆ่าคน5ศพ หรือฆ่าคน10ศพ เมื่อศาลลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต จะรับโทษแค่จำคุก 50 ปีเท่านั้น ตรงนี้อาจจะเรียกว่าเป็นช่องโหว่ของกฎหมายก็ได้
เมื่อทำตัวเป็นประโยชน์ลดโทษให้เรื่อยๆ ติดคุกจริงๆ 14 ปี เพราะฆ่าคน 1 คน ฆ่าคน 5 คนก็รับโทษเท่ากัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีคนที่ฆ่าคนตายทีเดียว 5 ศพ กรณีสมคิดถือว่าเป็นเคสพิเศษ ที่กระทำซ้ำต่อเนื่อง แต่ติดคุกแค่ 14 ปี เท่ากับเหมือนเป็นการฆ่าแค่ศพเดียว แต่จริงๆ แล้วฆ่ามาทั้งหมด 5 ศพ
กรณีลดโทษของสมคิด ถึงแม้จะบอกว่าเป็นผู้ต้องโทษที่มีพฤติกรรมดี กระบวนการลดโทษ เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่สิ่งที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากนั้นคือมองว่าผู้ต้องหาที่ก่อคดีฆาตกรรม 5 ศพต่อเนื่อง ถือเป็นบุคคลอันตรายหรือไม่ การใช้เกณฑ์ลดโทษแบบคนอื่นๆทั่วไป อาจไม่ใช่คำตอบที่นำใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ถ้าเป็นในกรณีของต่างประเทศฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้จะต้องถูกประเมินสุขภาพจิตร่วมด้วยหลังจากการถูกคุมขัง ส่วนใหญ่ตามพฤติกรรมของฆาตกรต่อเนื่องจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดจากการบันดาลโทสะ เหตุการณ์ซึ่งหน้าหรือมีความแค้นส่วนตัวกันมาก่อน แต่มันคือปัญหาทางจิตที่มีปมทางจิตอยู่แล้ว โดยทั่วไปฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้ภายนอกจะดูเป็นคนปกติธรรมดาสุภาพเรียบร้อย แต่ถ้าเจอคนที่ตรงกับปมหรือถูกกับปมในใจ ฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้ก็สามารถก่อเหตุได้ทันทีโดยที่ตัวเองไม่รู้สึกว่าได้กระทำผิด นั่นคืออาการทางจิต
"สมคิด พุ่มพวง"ฆาตกรต่อเนื่อง5ศพ ติดคุกแค่ 14 ปี ทำไมได้รับโทษน้อยจัง เรามีคำตอบตามข้อกฎหมาย
โดยปกติแล้ว ตามกฎหมายไทย เวลามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น จะมีการนับโทษ อย่างเช่น ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 แล้วเอาโทษทั้งหมดมารวมกัน เช่นคดีลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ศาลลงโทษ 1 ปี ตีหัวไป 5 คน ศาลลงโทษคนละปี ก็จะเอา 5 ปี มาบวกรวมกัน นับโทษต่อกันไป ตัวอย่าง กรณีของซินแสโชกุน มีความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 871 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 4,355 ปี แต่จำคุกจริงได้เพียง 20 ปี (ตามกฎหมาย ให้จำคุกจำเลยไว้สูงสุดไม่เกิน 20 ปี )
กรณีนายสมคิด ศาลลงโทษประหารชีวิต นายสมคิด ถูกศาลลงโทษประหารชีวิตทั้ง 5 คดี การรับโทษประหารชีวิตไม่สามารถนำโทษมารวมกันได้ ไม่สามารถประหารชีวิตซ้ำๆได้ การที่ฆ่าคน5ศพ ไม่ได้หมายความว่าโทษจะหนักขึ้น5เท่า แต่ศาลได้ลดโทษให้ เพราะให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต โทษของการจำคุกตลอดชีวิตก็เช่นกัน ไม่สามารถนำมารวมกันได้ ไม่ได้หมายความว่าโทษจะหนักขึ้น5เท่า จะฆ่าคน1ศพ ฆ่าคน5ศพ หรือฆ่าคน10ศพ จะได้รับโทษสถานเดียวคือการจำคุกตลอดชีวิตแค่โทษเดียวเท่านั้น
ซึ่งโทษจำคุกตลอดชีวิตตามกฎหมายไทย ถ้าใครต้องโทษตลอดชีวิต ให้รับโทษแค่จำคุก 50 ปีเท่านั้น
ด้วยกฎหมายไทยไม่ว่าจะฆ่าคนตายมากี่ศพ จะฆ่าคน1ศพ ฆ่าคน5ศพ หรือฆ่าคน10ศพ เมื่อศาลลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต จะรับโทษแค่จำคุก 50 ปีเท่านั้น ตรงนี้อาจจะเรียกว่าเป็นช่องโหว่ของกฎหมายก็ได้
เมื่อทำตัวเป็นประโยชน์ลดโทษให้เรื่อยๆ ติดคุกจริงๆ 14 ปี เพราะฆ่าคน 1 คน ฆ่าคน 5 คนก็รับโทษเท่ากัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีคนที่ฆ่าคนตายทีเดียว 5 ศพ กรณีสมคิดถือว่าเป็นเคสพิเศษ ที่กระทำซ้ำต่อเนื่อง แต่ติดคุกแค่ 14 ปี เท่ากับเหมือนเป็นการฆ่าแค่ศพเดียว แต่จริงๆ แล้วฆ่ามาทั้งหมด 5 ศพ
กรณีลดโทษของสมคิด ถึงแม้จะบอกว่าเป็นผู้ต้องโทษที่มีพฤติกรรมดี กระบวนการลดโทษ เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่สิ่งที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากนั้นคือมองว่าผู้ต้องหาที่ก่อคดีฆาตกรรม 5 ศพต่อเนื่อง ถือเป็นบุคคลอันตรายหรือไม่ การใช้เกณฑ์ลดโทษแบบคนอื่นๆทั่วไป อาจไม่ใช่คำตอบที่นำใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ถ้าเป็นในกรณีของต่างประเทศฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้จะต้องถูกประเมินสุขภาพจิตร่วมด้วยหลังจากการถูกคุมขัง ส่วนใหญ่ตามพฤติกรรมของฆาตกรต่อเนื่องจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดจากการบันดาลโทสะ เหตุการณ์ซึ่งหน้าหรือมีความแค้นส่วนตัวกันมาก่อน แต่มันคือปัญหาทางจิตที่มีปมทางจิตอยู่แล้ว โดยทั่วไปฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้ภายนอกจะดูเป็นคนปกติธรรมดาสุภาพเรียบร้อย แต่ถ้าเจอคนที่ตรงกับปมหรือถูกกับปมในใจ ฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้ก็สามารถก่อเหตุได้ทันทีโดยที่ตัวเองไม่รู้สึกว่าได้กระทำผิด นั่นคืออาการทางจิต