รองโฆษกอนาคตใหม่ อวยพร 4 ส.ส. พร้อมขอโทษประชาชนถูกเหยียบย่ำหัวใจ
https://www.thairath.co.th/news/politic/1727950
วันที่ 17 ธ.ค. 2562 นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์
แฟนเพจเฟซบุ๊ก หลังที่ประชุมวิสามัญประจำปีของพรรคอนาคตใหม่ มีมติขับ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคทั้ง 4 คน ออกจากสมาชิก ซึ่งหลังมีสื่อเผยแพร่ออกไป มีบทสัมภาษณ์ของ ส.ส.ทั้ง 4 คน ว่า จะทำอย่างต่อไปโดยแนวทางของทั้ง 4 คน ระบุว่า “
ขอไปอยู่พรรครัฐบาลจะได้ทำงานเพื่อประชาชน”
นาย
ณัฐชา กล่าวว่า
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทั้ง 4 เขตที่เลือกตัวแทนทั้ง 4 คนนี้เข้ามา เพราะไว้ใจพรรคอนาคตใหม่
วันนี้เบื้องต้นที่ประชุมวิสามัญประจำปีของพรรคอนาคตใหม่ มีมติขับทั้ง 4 คนออกจากสมาชิกพรรค เพื่อส่งเรื่องต่อไปยังที่ประชุม ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาต่อไป ผมในฐานะ ส.ส.และสมาชิกพรรค เราจะลงมติเพื่อรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน
วันนี้ถามว่าพรรคเสียเปรียบทางการเมืองหรือไม่ที่เสียจำนวน ส.ส.ให้ฝั่งรัฐบาล ตอบตรงๆว่าเสียเปรียบ แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ต้องการแค่เล่นเกมทางการเมือง เพราะพรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง หากเพื่อนร่วมทางมีเป้าหมายไม่ตรงกันการแยกทางกันก่อนจะเดินทางต่อเป็นสิ่งที่ควรทำ
อยากจะฝากให้ทั้ง 4 คนคิด หากประชาชนและพรรคอนาคตใหม่ไม่ให้โอกาสคุณ จะมีโอกาสมากอบโกยกินกล้วยแบบนี้หรือไม่ นี่คงเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่จะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พวกคุณน่าจะสร้างความทรงจำที่ดีกว่านี้ให้ตัวเองและครอบครัวได้ภูมิใจมากกว่าการเหยียบย่ำหัวใจประชาชนเช่นนี้
ขอให้พวกคุณโชคดี ส่วนพวกเราพรรคอนาคตใหม่โชคดีมากที่วันนี้พรรคได้คัดกรองคนที่หักหลังประชาชนออกไป
https://www.facebook.com/NattachaBOfficial/posts/2708252775928526
“อัจฉริยะ”นำชาวบ้านพบอธิบดีกรมป่าไม้คดีรุกป่า
https://www.innnews.co.th/crime/news_555881/
นาย
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำชาวบ้านที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จับกุมดำเนินคดีทั่วประเทศ เข้าพบนาย
อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ประเหลียน อ.ประเหลียน จ.ตรัง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้มีการรังวัดพื้นที่ของชาวบ้านใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาถูกจับกุมดำเนินคดีจนทำให้มีชาวบ้านอายุ 70-80 ปี ถูกพิพากษาจำคุก 2 ราย รวมทั้งยังมีอีกจำนวน19 ราย ที่ถูกดำเนินคดี ทางกลุ่มชาวบ้านมีหลักฐานชัดเจนว่ามีนักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กลั่นแกล้งยัดข้อหา ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางมาร้องเรียนในวันนี้ ซึ่งต่างจากคดีของ น.ส.
ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่บุกรุกป่าแต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกดำเนินคดีในลักษณะเช่นเดียวกันกับชาวบ้านใน จ.ตรัง เรียกร้องขอความเป็นธรรมกับอธิบดีกรมป่าไม้
ด้าน น.ส.
อุหรี หนกหลัง และนาย
สมควร ทองดี บุตรของนาย
ไฉ ทองดี อายุ 72 ปี ที่ถูกศาลฎีกาจังหวัดตรังพิพากษาจำคุก8เดือน ปรับ 5 แสนบาท ฐานความผิดบุกรุกป่าพื้นที่ป่าสงวน 47 ไร่ ทั้งที่มีที่ทำกินแค่ 6-7 ไร่ ในพื้นที่ ม.6 ต.ท่าข้าม อ.ประเหลียน จ.ตรัง เปิดเผยว่า เรื่องนี้ครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยอมรับในคำพิพากษาของศาล ซึ่งต่างจากคดีของ น.ส.
ปารีณา ที่ไม่ถูกดำเนินคดี จึงเข้ามาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และเป็นห่วงพ่อที่อายุมากและตาบอด ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำ นอกจากนี้พ่อยังถูกดำเนินคดีอีก 2 คดี เกรงว่าจะไม้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดี
ขณะที่ น.ส.
ภัทรวดี เลายี่ปา ชาวบ้าน อ.เชียงดาว เปิดเผยว่า ตนเองอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว บ้านนาเลาไหม กลับถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่า ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่รัฐ อีกทั้งมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ พิพากษาปรับ 5 พันบาท รุกป่าพื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง และห้ามทำประโยชน์ในพื้นที่นอกจากเกษตรกรรม ซึ่งต่างจากกลุ่มชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่ถูกดำเนินคดีทั้งที่สร้างโฮมสเตย์
JJNY : อนค.อวยพร4ส.ส.ขอโทษปชช./อัจฉริยะนำชาวบ้านพบอธิบดีกรมป่าไม้/แบงค์ปรับแผนสกัดหนี้เสียพุ่ง/ประกาศ11จว.เขตภัยแล้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1727950
นายณัฐชา กล่าวว่า
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทั้ง 4 เขตที่เลือกตัวแทนทั้ง 4 คนนี้เข้ามา เพราะไว้ใจพรรคอนาคตใหม่
วันนี้เบื้องต้นที่ประชุมวิสามัญประจำปีของพรรคอนาคตใหม่ มีมติขับทั้ง 4 คนออกจากสมาชิกพรรค เพื่อส่งเรื่องต่อไปยังที่ประชุม ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาต่อไป ผมในฐานะ ส.ส.และสมาชิกพรรค เราจะลงมติเพื่อรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน
วันนี้ถามว่าพรรคเสียเปรียบทางการเมืองหรือไม่ที่เสียจำนวน ส.ส.ให้ฝั่งรัฐบาล ตอบตรงๆว่าเสียเปรียบ แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ต้องการแค่เล่นเกมทางการเมือง เพราะพรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง หากเพื่อนร่วมทางมีเป้าหมายไม่ตรงกันการแยกทางกันก่อนจะเดินทางต่อเป็นสิ่งที่ควรทำ
อยากจะฝากให้ทั้ง 4 คนคิด หากประชาชนและพรรคอนาคตใหม่ไม่ให้โอกาสคุณ จะมีโอกาสมากอบโกยกินกล้วยแบบนี้หรือไม่ นี่คงเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่จะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พวกคุณน่าจะสร้างความทรงจำที่ดีกว่านี้ให้ตัวเองและครอบครัวได้ภูมิใจมากกว่าการเหยียบย่ำหัวใจประชาชนเช่นนี้
ขอให้พวกคุณโชคดี ส่วนพวกเราพรรคอนาคตใหม่โชคดีมากที่วันนี้พรรคได้คัดกรองคนที่หักหลังประชาชนออกไป
https://www.facebook.com/NattachaBOfficial/posts/2708252775928526
“อัจฉริยะ”นำชาวบ้านพบอธิบดีกรมป่าไม้คดีรุกป่า
https://www.innnews.co.th/crime/news_555881/
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำชาวบ้านที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จับกุมดำเนินคดีทั่วประเทศ เข้าพบนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ประเหลียน อ.ประเหลียน จ.ตรัง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้มีการรังวัดพื้นที่ของชาวบ้านใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาถูกจับกุมดำเนินคดีจนทำให้มีชาวบ้านอายุ 70-80 ปี ถูกพิพากษาจำคุก 2 ราย รวมทั้งยังมีอีกจำนวน19 ราย ที่ถูกดำเนินคดี ทางกลุ่มชาวบ้านมีหลักฐานชัดเจนว่ามีนักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กลั่นแกล้งยัดข้อหา ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางมาร้องเรียนในวันนี้ ซึ่งต่างจากคดีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่บุกรุกป่าแต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกดำเนินคดีในลักษณะเช่นเดียวกันกับชาวบ้านใน จ.ตรัง เรียกร้องขอความเป็นธรรมกับอธิบดีกรมป่าไม้
ด้าน น.ส.อุหรี หนกหลัง และนายสมควร ทองดี บุตรของนายไฉ ทองดี อายุ 72 ปี ที่ถูกศาลฎีกาจังหวัดตรังพิพากษาจำคุก8เดือน ปรับ 5 แสนบาท ฐานความผิดบุกรุกป่าพื้นที่ป่าสงวน 47 ไร่ ทั้งที่มีที่ทำกินแค่ 6-7 ไร่ ในพื้นที่ ม.6 ต.ท่าข้าม อ.ประเหลียน จ.ตรัง เปิดเผยว่า เรื่องนี้ครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยอมรับในคำพิพากษาของศาล ซึ่งต่างจากคดีของ น.ส.ปารีณา ที่ไม่ถูกดำเนินคดี จึงเข้ามาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และเป็นห่วงพ่อที่อายุมากและตาบอด ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำ นอกจากนี้พ่อยังถูกดำเนินคดีอีก 2 คดี เกรงว่าจะไม้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดี
ขณะที่ น.ส.ภัทรวดี เลายี่ปา ชาวบ้าน อ.เชียงดาว เปิดเผยว่า ตนเองอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว บ้านนาเลาไหม กลับถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่า ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่รัฐ อีกทั้งมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ พิพากษาปรับ 5 พันบาท รุกป่าพื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง และห้ามทำประโยชน์ในพื้นที่นอกจากเกษตรกรรม ซึ่งต่างจากกลุ่มชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่ถูกดำเนินคดีทั้งที่สร้างโฮมสเตย์