[CR] Winter in Tokamachi >>> หนาวนี้ไปไหน ไป โทคะมาจิ

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น Slow Life

สวัสดีทุกคนนะครับ หายไปเลยตั้งแต่รีวิวแคชเมียร์ไปคราวที่แล้ว งานรุมเร้า ใช้หนี้ทริป 555 กลับมารอบนี้ได้ว่างเล็กน้อย จะมารีวิวทริปเก่าเมื่อต้นปี ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาครับ เนื่องจากช่วงนี้บ้านเราอากาศหนาวๆ(ซึ่งกำลังหมดไป) และข่าวหิมะที่ญี่ปุ่นที่ตกเร็วขึ้น เลยนึกถึงทริปนี้ขึ้นมาได้
หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันมีที่แห่งนี้อยู่ คือ เมืองที่หิมะตกเยอะมากกกก หนาวมากกก พอๆกับทางฮอกไกโดที่เรารู้จักกันดี แต่ที่เมืองนี้อยู่ใกล้กับโตเกียวนิดเดียว เหมาะมากกับใครที่อยากช็อปปิ้งในโตเกียว แต่ก็อยากไปเห็นหิมะฟูๆๆ แนะนำที่นี่เลย นั่นคือ เมืองโทคะมาจิ(Tokamachi)จังหวัดนีงาตะ(Niigata) ครับ เผื่อใครอยากไปต้นปีหน้าแล้วยังไม่ได้จองอะไร ลองไปดูกันเลยยยย

Day1 : 27 Feb 2019

ทริปนี้นิคไปกับแม่กับพี่สาวครับ เดินทางด้วยสายการบินไทย รักคุณเท่าฟ้า สะดวกสบายสุดแล้ว ไปญี่ปุ่นนั่งเครื่องนาน นิคบินกับเขาตลอด ออกจากสุวรรณภูมิ5ทุ่ม ไปลงที่สนามบินฮาเนดะ ประมาณ7โมงครับ

...ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จริงๆทริปนี้เราวางแผนเที่ยวหลักๆคือ โตเกียว>คามะคุระ>โทคะมาจิ>คาวะโกเอะ ครับ แต่เราจะเน้นๆที่โทคะมาจิแล้วกันเนาะ เมืองอื่นๆคนน่าจะรีวิวเยอะแล้วล่ะ

Day2 : 28 Feb 19

ออกจากตม.มา ถ้าใครซื้อตั๋วTokyo Wide Passมาแนะนำให้รีบ เดินเฉียงซ้ายไปเรื่อยๆข้างลิฟต์สุดทางจะเจอศูนย์ของJR ต่อแถวแลกบัตรเลย เดินช้าบอกเลยว่าแถวยาวนะ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่จะเดินเอาใบมาให้กรอกประเภทบัตรที่เราจะแลก(กรณีพูดญี่ปุ่นไม่ได้จะได้ไม่เสียเวลา) พอถึงคิว เจ้าหน้าที่จะถาม มีใบมั้ย!!! ตอบไปว่า -ึงซิอีกะเทย!!! 5555 ผิดๆๆๆ อินไปหน่อย ท่ดๆๆ ก็ยื่นใบให้เขาแล้วก็จองชินกันเซ็นไว้ ขาที่จะไปกลับโทคะมาจิ เสร็จก็นั่งรถไฟเข้าโตเกียวกันเลย สถานีจุดหมายอยู่ที่Shinbashi เพราะที่พักอยู่แถวนั้น ปล.รถไฟฟ้าจากสนามบินเข้าเมืองต้องจ่ายเองนะ ประมาณ530￥ใช้ตั๋วJRไม่ได้สำหรับสายนี้

ถึงที่พักฝากกระเป๋าแล้วไปอาซากุสะก่อนเลยไม่รอช้า แต่ฝนตกจ้าาา แต่ก็ธรรมดาของอากาศช่วงนี้นะ แต่ไม่ได้เอาร่มมาเสียเงินซื้อร่มอีก...พอขึ้นจากรถไฟใต้ดินมาเจอร้านนี้ ชื่อร้านTendo ในซอยฝั่งตรงข้ามคามินาริมง แต่ร้านนี้รับเฉพาะจ่ายเงินผ่านบัตรหรือออนไลน์นะ ไม่รับเงินสด

อืม...ก็จะเปียกๆหน่อยนะ จากนั้นก็เดินเข้าวัดไปขอพร นั่นนี่ ดูยอดสกายทรีจากไกลๆ เหงาๆ ไม่มี่วี่แววได้พบสบตาคู่แท้เหมือนรีวิวที่เขาว่ามาขอพรปุ๊บเงยหน้ามาได้คู่ปั๊บแต่อย่างใด งงมากแม่มีแต่ฝน เม่าฝนตก

เสร็จแล้วไปชิบุยะต่อ ช็อปปิ้งเป็นหลัก แล้วก็จบวันแรกแบบหมดตัวแถมเฉอะแฉะ

Day3 : 1 Mar 19

ฝนไม่ตกแล้ววว อากาศครึ้มๆ วันนี้เราจะไปคามาคุระ และวัดฮาเซเดะระ แล้วกลับมาที่โอไดบะกัน

จากโตเกียวนั่งรถไฟฟ้าไปคามาคุระ ใช้JRพาสได้เลย ถึงแล้วต่อรถบัส ชานชาลาที่1ไปลงป้ายไดบุซึมาเอะ200￥

หันหลังให้รถบัสปุ๊บ จะเจอร้านขายซอฟต์ครีมตรงทางม้าลายข้ามถนนเลย อร่อยนะ ถึงหนาวแต่กิน2ถ้วยอ่ะ ถ้วยละประมาณ400￥

เสร็จแล้วก็เข้าวัดโคโตขุอินที่มีพระใหญ่ คุ้นตากันดีเนาะ นักท่องเที่ยวเยอะปกติ

อากาศช่วงนี้กำลังดี ดอกบ๊วบขาวเริ่มบานแล้ว

ที่น่าสนใจสำหรับเราชาวไทยคือ ต้นไม้ต้นนี้ บริเวณสวนด้านหน้าพระใหญ่ เป็นต้นสนที่พ่อหลวงร.9 ทรงรับสั่งให้ผู้แทนพระองค์มาปลูกทดแทนต้นเดิมที่ร.6ทรงปลูกไว้ที่โดนแมลงกิน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีของไทยและญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน

จากวัดโคโตขุอิน เดินกลับมาสวนกับทางที่บัสวิ่งมาส่งเราทีแรก มาเรื่อยๆประมาณ5นาที เลี้ยวขวาตรงแยกแล้วตรงสุดทางจะเจอวัดฮาเซเดะระ ซึ่งคนยังไม่ค่อยรู้จัก ที่นี่มีเจ้าแม่กวนอิมทั้งหมด31ปางจัดแสดงอยู่ภายใน บ้านเรา่นับถือเจ้าแม่กวนอิมเลยอยากมาไหว้

ที่แปลกใหม่ส่วนตัวไม่เคยเจอคือ เครื่องขายตั๋วเข้าชมวัดอัตโนมัติ ไฮเทคไปอีกกก 300￥

สวนภายในมีซากุระบานแล้วด้วยนะ ก่อนเข้าไปที่โบสถ์เราก็ต้องชำระล้างก่อน

หน้าโบสถ์เป็นแบบนี้นะครับ แต่ว่าไม่สามารถถ่ายรูปภายในได้ ด้านในมีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่มากกกก และมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงปางต่างๆอีก มีค่าเข้าต่างหากเพิ่มนิดหน่อยครับ ออกมาจากไหว้พระแล้ว ด้านข้างมีสวนที่มีรูปเจ้าแม่กวนอิมหินสลักและจุดชมวิวทะเลเอะโนชิมะด้วยนะครับ ลองไปกันดูนะ

ออกมาสวนด้านล่างมีมาสคอตน้องเณรด้วยนะ น่ารักมาก น้องคือ นาโงมิจิโซ(Nagomijizou) เป็นหินแกะสลักให้โชค

เสร็จจากคามาคุระเราก็กลับมาโตเกียวแล้วไปต่อที่โอไดบะครับ บ่ายคล้อยแดดอ่อนๆแล้ว พอเราเดินตามทางมาเพื่อไปถ่ายรูปเทพีเสรีภาพจำลอง เราก็เจอกับถนนต้นซากุระที่บานอยู่!!! แบบเห้ยเป็นไปได้ไงก็ไม่คิดว่าจะได้พาแม่มาเห็นซากุระบานด้วย มันคือพันธุ์คาวาซุ บานเร็วหน่อย สวยมาก

พอถ่ายรูปเทพีเสรีภาพเสร็จเราก็เดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าห้างไดเวอร์ซิตี้ เพื่อมายลโฉมน้องกันดั้มตัวใหม่ น้องแปลงร่างได้ด้วยนะมีรอบโชว์อยู่ แต่เวลาอาจจะเปลี่ยนลองหาข้อมูลกันมาดีๆนะครับ

ดูโชว์น้องดั้มแปลงร่างเสร็จก็ไปห้างอีกห้างนึงก่อน ใกล้ๆไดเวอร์ซิตี้ชื่อ Venus Fort ด้านในใหญ่โต มีโซนจัดแสดงอย่างโซนี้เป็นญี่ปุ่นยุค60 ภายในห้างโซนปกติจะเป็นแต่งสไตล์ยุโรป มีร้านปลอดภาษีด้วยลองมาเดินได้

...เราเดินทะลุห้างออกไป จะมีชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่เป็นอันดับ2ของญี่ปุ่น สูงมากกกเลยไม่ได้ถ่ายรูปออกมาสวยเลยไม่โชว์นะ มีกระเช้า2แบบ แบบธรรมดากับแบบโปร่งใสทั้งกระเช้า พี่สาวเราเลือกใสจ้าาา คนละ1000￥ไม่กล้าขยับตัวเยอะเลยกลัว เพี้ยนสะอื้น

เสร็จจากชิงช้าสวรรค์ก็กลับมาที่ไดเวอร์ซิตี้ มากินข้าวแล้วก็เจอขนมร้านนี้ ซอฟต์ครีมสายไหมยักษ์ มีหลายรสหลายสีแต่เขาจัดเซ็ตที่รสชาติมันเข้ากันไว้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่สามารถเปลี่ยนรสเปลี่ยนสีได้ หรือใครอยากกินแต่ซอฟต์ครีม อยากกินแต่สายไหม สั่งแยกได้นะ มีเมนูสายไหมฟูจิขนาด45ซม.ลองสั่งดูได้ ราคาเริ่มต้น650￥+ภาษี จบอีกวันจ้า