ประเพณีการล่าแม่มดสู่ Cyberbullying ความเป็นจริงที่สังคมตัดสินด้วยคนหมู่มาก
สวัสดีครับ ผมชรา วันนี้มีเรื่องที่จะมาพูดคุยกับเพื่อนๆ ในสังคมพันทิปกันเกี่ยวกับเรื่อง
"การล่าแม่มด" และ "Cyberbullying"
(คำเตือนนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวของผมอาจมีควาามคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความคิดเห็นของคนอื่นๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยนะครับ)
เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "การล่าแม่มด" กันก่อนนะครับ
“การล่าแม่มดเป็นเรื่องการกำจัดคนที่ต่อต้าน มีบทบาท หรือความคิด ซึ่งแตกต่างจากในพระคัมภีร์ แต่ตอนหลังเริ่มลุกลามมาเป็นเรื่องเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือผลประโยชน์ สมมติว่าหมู่บ้านหนึ่งมีคนแก่ในหมู่บ้าน ซึ่งคนคนนั้นไม่มีลูกหลาน แต่มีที่ดิน หรือทรัพย์สิน คนในหมู่บ้านส่วนหนึ่งก็จะคุยกับพรรคพวกว่า เราไปตั้งข้อหาล่าแม่มด แล้วจับเผาทั้งเป็น เพื่อยึดทรัพย์สมบัติมาแบ่งกัน หรือถ้าใครสักคนทะเลาะกับผู้หญิงข้างบ้าน แล้วบังเอิญว่าคนนั้นเกิดเป็นผู้มีอำนาจในชุมชน ก็อาจจะไปรวมตัวกันกับพรรคพวกเพื่อยัดข้อหาแม่มดให้คนที่ไม่ชอบหน้า พูดง่ายๆ ก็คือการขจัดคนที่เราเห็นว่าเป็นอื่นออกไป นี่คือคำอธิบายที่ง่ายที่สุด” อ้างอิงโดย The momentum
https://themomentum.co/momentum-feature-witch-hunt-anusorn-tipayanon/
จากบทความดังกล่าวสรุปได้ใจความคือ การล่าแม่มด คือ การที่สังคมของคนส่วนมากที่มองความคิดเห็นส่วนต่างที่เล็กน้อยว่า แปลก และ ไม่เข้าพวก และกำจัดคนส่วนน้อยที่มีความคิดที่ต่างจากตน เพื่อคงไว้ซึ่งความถูกต้องที่คนส่วนมากได้กำหนดไว้
ในการล่าแม่มดนั่นมีมาตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 14 และดำเนินต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนถึงศตวรรษที่ 18 กินระยะเวลานับหลายร้อยปี
และเมื่อยุคสมัยพัฒนาไปไกลการล่าแม่มดมาแขวน เผา และฆ่ากันเลือดเย็นได้หมดไป แต่หารู้ไหมสังคมได้เปลี่ยนสภาพการล่าแม่มดไปในแบบใหม่นั่นคือ...
"Cyberbullying"
"Cyberbullying" คืออะไร?
Cyberbully คือการกลั่นแกล้งโดยใช้อุปกรณ์ดิจิตอลอย่างสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต ฯลฯ ซึ่งการกลั่นแกล้งนี้มาในรูปแบบของการส่งข้อความทางโทรศัพท์ ผ่านทางอีเมล แอ๊ป หรือสื่อโซเชียลต่างๆ ผ่านทางฟอรัม ผ่านบล็อก หรือแม้แต่เกม หรือที่ไหนก็ตามที่สาธารณะสามารถมองเห็น มีส่วนร่วม และแชร์หรือส่งต้อข้อความเหล่านั้นได้ ซึ่งการกลั่นแกล้งมีตั้งแต่การส่งข้อความ การโพสต์ หรือการแชร์ข้อมูลหรือเนื้อเรื่องที่เป็นเท็จ เป็นด้านลบ เป็นอันตราย หรือมุ่งร้ายของบุคคลอื่น นอกจากนี้ยังรวมถึงการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลเกิดความอับอาย ซึ่งในบางกรณี ไซเบอร์บูลลีอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ได้ อ้างอิงจาก springnews
https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/558628
จากบทความทางด้านบนเพื่อนๆ ทุกคนรู้สึกอะไรไหมครับ ? 
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั่นคิดว่าการล่าแม่มดที่ไล่ฆ่าคนกันในชีวิตจริง ได้วิวัฒนมาสู่การฆ่าคนด้วย "จิตใจ" มันคือการฆ่าคนด้วยบรรยากาศ สังคม สภาพจิตใจ และการทำร้ายโดยเจตนาและไม่เจตนา โดยปัจจุบันสังคมเรานั่นต่างติดต่อสื่อสารกันผ่านช่องทางออนไลน์ ข่าวสารต่างๆ นั้น แพร่กระจายไปรวดเร็วซะยิ่งกว่าโรคร้าย การทำร้ายด้วยจิตใจจึงเป็นอาวุธที่ร้ายแรงไม่ต่างอะไรจากการล่าแม่มดเลย
และเพื่อนๆ ทุกคนล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ประเพณีการล่าแม่มดสู่ Cyberbullying ความเป็นจริงที่สังคมตัดสินด้วยคนหมู่มาก
สวัสดีครับ ผมชรา วันนี้มีเรื่องที่จะมาพูดคุยกับเพื่อนๆ ในสังคมพันทิปกันเกี่ยวกับเรื่อง
เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "การล่าแม่มด" กันก่อนนะครับ
“การล่าแม่มดเป็นเรื่องการกำจัดคนที่ต่อต้าน มีบทบาท หรือความคิด ซึ่งแตกต่างจากในพระคัมภีร์ แต่ตอนหลังเริ่มลุกลามมาเป็นเรื่องเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือผลประโยชน์ สมมติว่าหมู่บ้านหนึ่งมีคนแก่ในหมู่บ้าน ซึ่งคนคนนั้นไม่มีลูกหลาน แต่มีที่ดิน หรือทรัพย์สิน คนในหมู่บ้านส่วนหนึ่งก็จะคุยกับพรรคพวกว่า เราไปตั้งข้อหาล่าแม่มด แล้วจับเผาทั้งเป็น เพื่อยึดทรัพย์สมบัติมาแบ่งกัน หรือถ้าใครสักคนทะเลาะกับผู้หญิงข้างบ้าน แล้วบังเอิญว่าคนนั้นเกิดเป็นผู้มีอำนาจในชุมชน ก็อาจจะไปรวมตัวกันกับพรรคพวกเพื่อยัดข้อหาแม่มดให้คนที่ไม่ชอบหน้า พูดง่ายๆ ก็คือการขจัดคนที่เราเห็นว่าเป็นอื่นออกไป นี่คือคำอธิบายที่ง่ายที่สุด” อ้างอิงโดย The momentum
https://themomentum.co/momentum-feature-witch-hunt-anusorn-tipayanon/
จากบทความดังกล่าวสรุปได้ใจความคือ การล่าแม่มด คือ การที่สังคมของคนส่วนมากที่มองความคิดเห็นส่วนต่างที่เล็กน้อยว่า แปลก และ ไม่เข้าพวก และกำจัดคนส่วนน้อยที่มีความคิดที่ต่างจากตน เพื่อคงไว้ซึ่งความถูกต้องที่คนส่วนมากได้กำหนดไว้
ในการล่าแม่มดนั่นมีมาตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 14 และดำเนินต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนถึงศตวรรษที่ 18 กินระยะเวลานับหลายร้อยปี
และเมื่อยุคสมัยพัฒนาไปไกลการล่าแม่มดมาแขวน เผา และฆ่ากันเลือดเย็นได้หมดไป แต่หารู้ไหมสังคมได้เปลี่ยนสภาพการล่าแม่มดไปในแบบใหม่นั่นคือ...
"Cyberbullying" คืออะไร?
Cyberbully คือการกลั่นแกล้งโดยใช้อุปกรณ์ดิจิตอลอย่างสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต ฯลฯ ซึ่งการกลั่นแกล้งนี้มาในรูปแบบของการส่งข้อความทางโทรศัพท์ ผ่านทางอีเมล แอ๊ป หรือสื่อโซเชียลต่างๆ ผ่านทางฟอรัม ผ่านบล็อก หรือแม้แต่เกม หรือที่ไหนก็ตามที่สาธารณะสามารถมองเห็น มีส่วนร่วม และแชร์หรือส่งต้อข้อความเหล่านั้นได้ ซึ่งการกลั่นแกล้งมีตั้งแต่การส่งข้อความ การโพสต์ หรือการแชร์ข้อมูลหรือเนื้อเรื่องที่เป็นเท็จ เป็นด้านลบ เป็นอันตราย หรือมุ่งร้ายของบุคคลอื่น นอกจากนี้ยังรวมถึงการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลเกิดความอับอาย ซึ่งในบางกรณี ไซเบอร์บูลลีอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ได้ อ้างอิงจาก springnews
https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/558628
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั่นคิดว่าการล่าแม่มดที่ไล่ฆ่าคนกันในชีวิตจริง ได้วิวัฒนมาสู่การฆ่าคนด้วย "จิตใจ" มันคือการฆ่าคนด้วยบรรยากาศ สังคม สภาพจิตใจ และการทำร้ายโดยเจตนาและไม่เจตนา โดยปัจจุบันสังคมเรานั่นต่างติดต่อสื่อสารกันผ่านช่องทางออนไลน์ ข่าวสารต่างๆ นั้น แพร่กระจายไปรวดเร็วซะยิ่งกว่าโรคร้าย การทำร้ายด้วยจิตใจจึงเป็นอาวุธที่ร้ายแรงไม่ต่างอะไรจากการล่าแม่มดเลย