หลังๆมา เรามักจะได้ยินว่าเวียดนามคือประเทศที่กำลังเป็นแทรนด์อันดับต้นๆ ในการท่องเที่ยว ด้วยค่าครองชีพที่ถูก อากาศดี และค่าตั๋วเรื่องบินราคาไป-กลับ ไม่แพง ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงนิดๆ
ระยะเวลาเดินทางของเราคือ 30 พ.ย. – 3 ธ.ค. 62
ทริปนี้เราจะตะลุยเวียดนามใต้กัน กับ โฮจิมินห์ มุยเน่ ด่าหลัต
4 วัน 3 คืน กับงบ 10,000 บาท เท่านั้น!!!
แผนการเดินทางของพวกเรา
30 พ.ย.62 โฮจิมินห์
1 ธ.ค.62 มุ่ยเน่-ด่าหลัต
2 ธ.ค.62 ด่าหลัต
3 ธ.ค.62 ด่าหลัต
สายการบินขาไป Air Asia ราคาประหยัดมีเที่ยวบินไป โฮจิมินห์ ทุกวัน
เครื่องออก 7.40 น. ถึง โฮจิมินห์ (ไซ่ง่อน) เวลา 9.30 น. (เวลาที่เวียดนามจะเท่ากับเวลาของไทย)
พอผ่าน ต.ม.ปุ๊ป เราก็ตรงไปซื้อซิมที่ Vinaphone เราไปไม่กี่วัน เลยซื้อ 5 G ในราคา 100,000 VDN

จากนั้นเราจะตรงเข้าเมือง โดยนั่งรถบัส สาย 152 สีฟ้าๆ ค่ารถ 5,000 VDN ไปลง ฟามงูเหลาเพื่อไปซื้อตั๋วรถนอนสำหรับเดินทางต่อไปมุ่ยเน่ สำหรับคืนนี้
เรามีกระเป๋าเดินทางไปด้วย และต้องการที่จะอาบน้ำก่อนเดินทางไปมุยเน่ เพราะอากาศที่โฮจิมินห์จะคล้ายๆไทยบ้านเรา จึงเปิดห้องที่ Hong Linh Hotel ในราคา 350,000 VDN

จากนั้นเราก็เวลา ประมาณ 10 ชม.เราใช้วิธีการเดิน เพราะระยะทางไม่ได้ไกลมาก ระหว่างทางก็จะเจอกับเสียงบีบแตร และการข้ามถนนก็แสนยากลำบากมาก
เราเดินกันไม่นานก็มาถึง Noter Dame Cathedral of Saigon ซึ่งตอนที่เรามากำลังปรับปรุงสถานที่อยู่

และข้างๆจะมี Saigon Central Post Office หรือไปรณีย์กลาง สีเหลืองตัดขอบเขียว น่าถ่ายรูปในทุกๆมุม

เริ่มหิวกันแล้ว ดูจากรีวิวของคนที่เคยมาเที่ยวที่นี่ ร้าน Propaganda Saigon ตั้งอยู่ข้าง ๆ กับโบสถ์นอร์ทเธอร์ดามไซ่ง่อน เป็นร้านที่ตกแต่งด้วยสีทาบนผนังเป็นรูปชาวบ้านสีสันสดใส ในเมนูนอกจากอาหารเวียดนามแล้วก็ยังมีอาหารฝรั่งให้เลือกอีกด้วย

และเราก็เดินไปเรื่อย จุดหมายต่อไปคือ Ho Chi Mihn City Hall ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสโฮจิมินห์

จากนั้นเราก็ไป Saigon Opera House ซึ่งจะอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน

และไฮไลท์ของทริปโฮจิมินห์นี้คือ The Café Apartment ที่มีทั้งหมด 9 ชั้น อดีตเคยเป็นที่พักของทางรัฐบาลและทหารภายในแต่ละชั้นก็จะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ซึ่งแต่ละร้านก็จะตกแต่งด้วยสไตล์ที่แตกต่างกันไป

หลักจากนั่งชิวสักพักใหญ่ๆเราก็ไป Ben Thanh Market (ตลาดเบ๊นถั่ญ ) กันต่อ เพราะมีของกินมากมายรวมถึงตลาดกลางคืน มีทั้ง Street Food และสถานที่นั่งชิวเยอะมาก

(นี่เป็นขนมปังขึ้นชื่อของเวียดนาม ใครได้มาต้องลองสักครั้ง มีทั้งหมูและเนื้อปิ้ง ส่วนผสมจะมีไข่ดาวซึ่งหอมน้ำมัน และเครื่องเคียงเป็นผักแนม ขนมปังกรอบ กัดไปนี่ฟินสุดๆ)
ใกล้ได้เวลาขึ้นรถรอบ 23.00 น.แล้ว เราเตรียมตัวกันเสร็จก็ไปนั่งรอที่ท่ารถตรงข้ามกับที่เราซื้อตั๋ว
พอถึงเวลาก็จะมีรถตู้มารับเรา เพื่อไปขึ้นรถที่นอกเมือง นั่งออกไปประมาณ 10 นาทีได้ และจะมีรถบัสนอนจอดรอเราอยู่
ในรถนอนสบายมาก
03.00 น. ถึงมุยเน่แล้ว เรารอไกด์ที่ขับรถจิ๊บมารับเรา เวลา 04.30 น. ในท่ารถ Fula ก็จะมีห้องน้ำ สะดวกสะบายนะ บรรยากาศเหมือนอยู่ริมหาดบางแสนตอนกลางคืน
ลืมบอกไปว่าเราเจอไกด์ที่ขับรถจิ๊บมาจากเพจหนึ่ง เขาสามารถพูดภาษาไทย และพิมพ์ภาษาไทยได้ “เที่ยวเวียดนาม ดาลัด มุยเน่” พิมพ์หาใน FB ได้เลย เราซื้อแบบไพรเวททัวร์ เป็นแบบครึ่งวันเช้า 04.30 – 08.30 น. ราคา 900,000 VDN ดีตรงที่เที่ยวก่อนแล้วค่อยจ่ายตังค์เนี่ยแหละ
04.30 น. แล้ว รถจิ๊บมารับเราตามเวลาแป๊ะๆ เลย
เราใช้เวลา เกือบ 2 ชม.ครึ่ง ไปถึง White Sand Dunes ทะเลทรายขาว นี่คือความฝันของสาวๆหลายคนที่จะต้องไปเดินท่ามกลางทะเลทราย และรออีกแปปนึงพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ประทับใจมากสถานที่สวยเหมือนกับที่ทุกๆคนรีวิวมา

จากนั้นเราก็ไป Red Sand Dune ทะเลทรายแดงต่อ เริ่มสายแล้ว แดดออก แต่ถ่ายภาพสวยมาก ทะเลทรายแดงตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม มันดีย์มากค่ะ

Fisherman Village หมู่บ้านชาวประมง มุยเน่ เป็นทางผ่าน เราจะได้เห็นเรือกระด้งแบบเวียดนามหลานพันลำเลียงรายอยู่

Fairy Stream ลำธารนางฟ้า ลักษณะคล้ายๆกับแกรนแคนยอน เชียงใหม่บ้านเรานะ แต่ความพิเศษคือเราสามารถเดินเผ่านลำธาร น้ำจะอยู่ที่ประมาณข้อเท้า สัมผัสกับน้ำเย็นๆ พื้นทรายนุ่มๆ เหมือนได้ทำสปาเท้าเลย ค่าเข้าคนละ 15,000 VDN

หมดเวลาแล้วสิ เราจองตั๋วรถบัสไปด่าหลัต โดยใช้บริการของ MUI NE GO รอบเวลา 9.40 น. ราคา 120,000 VDN ต่อคน ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงได้ เป็นรถบัสนั่ง คนไม่เต็มรถ นั่งสบายเลย ระหว่างทางหลับบ้างตื่นเต้นบ้าง แต่ตื่นเต้นกับเส้นทางน่าดู เราต้องขึ้นเขา-ลงเขา เส้นทางหักศอก เวียนหัวสุดๆ
เมื่อรถมาจอดที่ท่ารถใกล้ๆกับตลาดด่าหลัต เราก็ได้ประทะกับลมหนาว กับอากาศ 18 องศา น้ำมูกไหลเลย ปรับตัวไม่ทัน
เราเลือกพักที่ Tulip Hotel 3 โรงแรมสะอาด ไม่มีแอร์นะมีแต่พัดลมเพดาน ราคา 680,000 VDN ต่อวัน โรงแรมจะอยู่ติดกับ Dalat Night Market เลย แถวนั้นของกินเพียบ คาเฟ่ก็เยอะ

ระหว่างทาง กับ AN Café คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ออแกนิค 1 ในTop10 คาเฟ่ในเวียดนาม ที่ทุกคนจะต้องไปเยือนให้ได้ ในร้านมีมุมถ่ายภาพสวยๆ อาหารอร่อยๆหลากหลายเมนู

จากนั้นเราก็ไป Dalat Night Market ไปชิมอาหาร Street Food ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง พิซซ่าเวียดนาม น้ำเต้าหู้อุ่นๆ และของปิ้งย่างข้างทาง รวมถึงเสื้อผ้าเสื้อกันหนาวที่ราคาแสนถูกกว่าบ้านเราเยอะ เพราะด่าหลัตเป็นเมือง หนาวและฝน ทั้งปี คล้ายๆกับแฟชั่นเสื้อกันหนาว ใส่มาประชันกัน เสื้อหนาๆกันทั้งนั้น เราไปแล้วรู้สึกดีมาก ทั้งอากาศและผู้คน

เช้ามาเราก็เชคเอ้าเพื่อที่จะเปลี่ยนที่พัก เพราะเราต้องการบรรกาศหลากหลาย เราจองที่พักกับ Agoda ไว้ เป็นวิลล่าราคาไม่แพง “Tia Du Villa” บ้านพักตากอากาศห่างจากตัวเมืองด่าหลัต 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเนินเขา บริการดีสุดๆ บริการรวมอาหารเช้าด้วยนะ 800,000 VDN


เราเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเที่ยว 1 วันครึ่ง เป็นเงิน 180,000 VND เติมน้ำมันแค่ 40,000 VND พอนะเต็มถัง และเหลือเฟือมาก แลนมาร์กแรกเราคือ Robin Hill Cable Car นั่งกระเช้ามุมสูงดูบรรยากาศเมืองด่าหลัต ราคาไป-กลับ คนละ 80,000 VND ด้านบนจะมีวัด Thien Vien Truc lam เป็นวัดพุทธในนิกายเซน (ZEN) ข้างในเงียบสงบ และมีดอกไม้สวยๆให้เราได้ถ่ายภาพแบบเพลินๆ

จุดหมายต่อไป เราอยากไปมาก ไม่ใช่อะไรเราอยากเล่น Roller Coaster มาก เพราะไม่เคยเล่นมาก่อน ค่าเสียหายไป-กลับ อยู่ที่ 150,000 VND ต่อคน ใครจะเดินไป-เดินกลับก็ได้นะ ด้านล่างเป็นน้ำตกน้อยๆ น้ำใสมาก

เมื่อขับมอเตอร์ไซค์ออกนอกเมืองไปเรื่อยๆ หยุดแวะพัก Sunny Farm สักหน่อย มีค่าบริการฝากรถด้วย 30,000 VND

จากนั้นก็ขับตาม Google Map ไป Garden Hydrangeas สวนดอกไม้ไฮเดรนเยีย เกือบหลงเพราะมันต้องเข้าซอยเล็กๆเข้าไปสักพัก

เมื่อเริ่มหิวก็ขับรถกลับเข้ามาในเมืองแวะเข้า Up Café สักหน่อย ได้ดื่มชาร้อนๆแล้ว เหมือนได้เพิ่มพลัง บรรยากาศร้านน่ารัก มองเห็นวิวแบบ 360 องศา

Big C Dalat จะบอกว่าของฝากใน Big C ถูกมาก

เมื่อมาเวียดนามต้องห้ามพลาด Nem Nuong Ba Hung แหนมเนือง 1 ชุด ราคา60,000 VND คือมา 2 คนรู้สึกอิ่ม ถ้าให้เราพูดถึงเราชอบแผ่นแป้งของที่นี่ คือมันไม่ต้องแช่น้ำ รู้สึกว่ามันไม่เละอ่ะ ผักเคียงก็จะเป็นผักพื้นเมือง มีรสชาติเผ็ดๆ น้ำจิ้มก็โอเคเลย

เช้าวันสุดท้ายที่ด่าหลัต มีเวลาครึ่งวัน
Cock Church or Evangelical Church โบสถ์ดาลัต เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนต์

Domaine De Marie Convent โบสถ์คอนแวนต์โดเมนเดอมารี เป็นโบสถ์เก๋ๆ สีชมพู

Tiệm Bánh Cối Xay Gió ร้านขนมปังที่ใครมาก็ต้องมาเชคอินสักหน่อย

จากนั้นเราก็ต้องเตรียมตัวไปสนามบินนานาชาติเหลียนเคือง โดยใช้เวลาจากตัวเมือง ประมาณ 45 นาที
เรากลับโดยสายการบิน Vietjet Air ซึ่งสามารถบินตรงจากด่าหลัตไปสุวรรณภูมิได้เลย สะดวกสะบายมาก

สุดท้ายเราชอบเวียดนามใต้มากเลย อยากจะให้ใครที่ยังไม่เคยมามาลองสัมผัสกันสักครั้ง หลายความน่าตื่นเต้น หลายบรรยากาศ และอีกอย่างชาวเวียดนามก็น่ารักมาก อยากให้ลองไปลุยดูสักครั้ง
[CR] หนีงานเที่ยว เวียดนามใต้ 4 วัน 3 คืน กับงบ 10,000 บาท ก็เที่ยวได้!!!
ระยะเวลาเดินทางของเราคือ 30 พ.ย. – 3 ธ.ค. 62
ทริปนี้เราจะตะลุยเวียดนามใต้กัน กับ โฮจิมินห์ มุยเน่ ด่าหลัต
4 วัน 3 คืน กับงบ 10,000 บาท เท่านั้น!!!
แผนการเดินทางของพวกเรา
30 พ.ย.62 โฮจิมินห์
1 ธ.ค.62 มุ่ยเน่-ด่าหลัต
2 ธ.ค.62 ด่าหลัต
3 ธ.ค.62 ด่าหลัต
สายการบินขาไป Air Asia ราคาประหยัดมีเที่ยวบินไป โฮจิมินห์ ทุกวัน
เครื่องออก 7.40 น. ถึง โฮจิมินห์ (ไซ่ง่อน) เวลา 9.30 น. (เวลาที่เวียดนามจะเท่ากับเวลาของไทย)
พอผ่าน ต.ม.ปุ๊ป เราก็ตรงไปซื้อซิมที่ Vinaphone เราไปไม่กี่วัน เลยซื้อ 5 G ในราคา 100,000 VDN
จากนั้นเราจะตรงเข้าเมือง โดยนั่งรถบัส สาย 152 สีฟ้าๆ ค่ารถ 5,000 VDN ไปลง ฟามงูเหลาเพื่อไปซื้อตั๋วรถนอนสำหรับเดินทางต่อไปมุ่ยเน่ สำหรับคืนนี้
เรามีกระเป๋าเดินทางไปด้วย และต้องการที่จะอาบน้ำก่อนเดินทางไปมุยเน่ เพราะอากาศที่โฮจิมินห์จะคล้ายๆไทยบ้านเรา จึงเปิดห้องที่ Hong Linh Hotel ในราคา 350,000 VDN
จากนั้นเราก็เวลา ประมาณ 10 ชม.เราใช้วิธีการเดิน เพราะระยะทางไม่ได้ไกลมาก ระหว่างทางก็จะเจอกับเสียงบีบแตร และการข้ามถนนก็แสนยากลำบากมาก
เราเดินกันไม่นานก็มาถึง Noter Dame Cathedral of Saigon ซึ่งตอนที่เรามากำลังปรับปรุงสถานที่อยู่
และข้างๆจะมี Saigon Central Post Office หรือไปรณีย์กลาง สีเหลืองตัดขอบเขียว น่าถ่ายรูปในทุกๆมุม
เริ่มหิวกันแล้ว ดูจากรีวิวของคนที่เคยมาเที่ยวที่นี่ ร้าน Propaganda Saigon ตั้งอยู่ข้าง ๆ กับโบสถ์นอร์ทเธอร์ดามไซ่ง่อน เป็นร้านที่ตกแต่งด้วยสีทาบนผนังเป็นรูปชาวบ้านสีสันสดใส ในเมนูนอกจากอาหารเวียดนามแล้วก็ยังมีอาหารฝรั่งให้เลือกอีกด้วย
และเราก็เดินไปเรื่อย จุดหมายต่อไปคือ Ho Chi Mihn City Hall ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสโฮจิมินห์
จากนั้นเราก็ไป Saigon Opera House ซึ่งจะอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
และไฮไลท์ของทริปโฮจิมินห์นี้คือ The Café Apartment ที่มีทั้งหมด 9 ชั้น อดีตเคยเป็นที่พักของทางรัฐบาลและทหารภายในแต่ละชั้นก็จะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ซึ่งแต่ละร้านก็จะตกแต่งด้วยสไตล์ที่แตกต่างกันไป
หลักจากนั่งชิวสักพักใหญ่ๆเราก็ไป Ben Thanh Market (ตลาดเบ๊นถั่ญ ) กันต่อ เพราะมีของกินมากมายรวมถึงตลาดกลางคืน มีทั้ง Street Food และสถานที่นั่งชิวเยอะมาก
(นี่เป็นขนมปังขึ้นชื่อของเวียดนาม ใครได้มาต้องลองสักครั้ง มีทั้งหมูและเนื้อปิ้ง ส่วนผสมจะมีไข่ดาวซึ่งหอมน้ำมัน และเครื่องเคียงเป็นผักแนม ขนมปังกรอบ กัดไปนี่ฟินสุดๆ)
ใกล้ได้เวลาขึ้นรถรอบ 23.00 น.แล้ว เราเตรียมตัวกันเสร็จก็ไปนั่งรอที่ท่ารถตรงข้ามกับที่เราซื้อตั๋ว
พอถึงเวลาก็จะมีรถตู้มารับเรา เพื่อไปขึ้นรถที่นอกเมือง นั่งออกไปประมาณ 10 นาทีได้ และจะมีรถบัสนอนจอดรอเราอยู่
ในรถนอนสบายมาก
03.00 น. ถึงมุยเน่แล้ว เรารอไกด์ที่ขับรถจิ๊บมารับเรา เวลา 04.30 น. ในท่ารถ Fula ก็จะมีห้องน้ำ สะดวกสะบายนะ บรรยากาศเหมือนอยู่ริมหาดบางแสนตอนกลางคืน
ลืมบอกไปว่าเราเจอไกด์ที่ขับรถจิ๊บมาจากเพจหนึ่ง เขาสามารถพูดภาษาไทย และพิมพ์ภาษาไทยได้ “เที่ยวเวียดนาม ดาลัด มุยเน่” พิมพ์หาใน FB ได้เลย เราซื้อแบบไพรเวททัวร์ เป็นแบบครึ่งวันเช้า 04.30 – 08.30 น. ราคา 900,000 VDN ดีตรงที่เที่ยวก่อนแล้วค่อยจ่ายตังค์เนี่ยแหละ
04.30 น. แล้ว รถจิ๊บมารับเราตามเวลาแป๊ะๆ เลย
เราใช้เวลา เกือบ 2 ชม.ครึ่ง ไปถึง White Sand Dunes ทะเลทรายขาว นี่คือความฝันของสาวๆหลายคนที่จะต้องไปเดินท่ามกลางทะเลทราย และรออีกแปปนึงพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ประทับใจมากสถานที่สวยเหมือนกับที่ทุกๆคนรีวิวมา
จากนั้นเราก็ไป Red Sand Dune ทะเลทรายแดงต่อ เริ่มสายแล้ว แดดออก แต่ถ่ายภาพสวยมาก ทะเลทรายแดงตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม มันดีย์มากค่ะ
Fisherman Village หมู่บ้านชาวประมง มุยเน่ เป็นทางผ่าน เราจะได้เห็นเรือกระด้งแบบเวียดนามหลานพันลำเลียงรายอยู่
Fairy Stream ลำธารนางฟ้า ลักษณะคล้ายๆกับแกรนแคนยอน เชียงใหม่บ้านเรานะ แต่ความพิเศษคือเราสามารถเดินเผ่านลำธาร น้ำจะอยู่ที่ประมาณข้อเท้า สัมผัสกับน้ำเย็นๆ พื้นทรายนุ่มๆ เหมือนได้ทำสปาเท้าเลย ค่าเข้าคนละ 15,000 VDN
หมดเวลาแล้วสิ เราจองตั๋วรถบัสไปด่าหลัต โดยใช้บริการของ MUI NE GO รอบเวลา 9.40 น. ราคา 120,000 VDN ต่อคน ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงได้ เป็นรถบัสนั่ง คนไม่เต็มรถ นั่งสบายเลย ระหว่างทางหลับบ้างตื่นเต้นบ้าง แต่ตื่นเต้นกับเส้นทางน่าดู เราต้องขึ้นเขา-ลงเขา เส้นทางหักศอก เวียนหัวสุดๆ
เมื่อรถมาจอดที่ท่ารถใกล้ๆกับตลาดด่าหลัต เราก็ได้ประทะกับลมหนาว กับอากาศ 18 องศา น้ำมูกไหลเลย ปรับตัวไม่ทัน
เราเลือกพักที่ Tulip Hotel 3 โรงแรมสะอาด ไม่มีแอร์นะมีแต่พัดลมเพดาน ราคา 680,000 VDN ต่อวัน โรงแรมจะอยู่ติดกับ Dalat Night Market เลย แถวนั้นของกินเพียบ คาเฟ่ก็เยอะ
ระหว่างทาง กับ AN Café คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ออแกนิค 1 ในTop10 คาเฟ่ในเวียดนาม ที่ทุกคนจะต้องไปเยือนให้ได้ ในร้านมีมุมถ่ายภาพสวยๆ อาหารอร่อยๆหลากหลายเมนู
จากนั้นเราก็ไป Dalat Night Market ไปชิมอาหาร Street Food ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง พิซซ่าเวียดนาม น้ำเต้าหู้อุ่นๆ และของปิ้งย่างข้างทาง รวมถึงเสื้อผ้าเสื้อกันหนาวที่ราคาแสนถูกกว่าบ้านเราเยอะ เพราะด่าหลัตเป็นเมือง หนาวและฝน ทั้งปี คล้ายๆกับแฟชั่นเสื้อกันหนาว ใส่มาประชันกัน เสื้อหนาๆกันทั้งนั้น เราไปแล้วรู้สึกดีมาก ทั้งอากาศและผู้คน
เช้ามาเราก็เชคเอ้าเพื่อที่จะเปลี่ยนที่พัก เพราะเราต้องการบรรกาศหลากหลาย เราจองที่พักกับ Agoda ไว้ เป็นวิลล่าราคาไม่แพง “Tia Du Villa” บ้านพักตากอากาศห่างจากตัวเมืองด่าหลัต 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเนินเขา บริการดีสุดๆ บริการรวมอาหารเช้าด้วยนะ 800,000 VDN
เราเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเที่ยว 1 วันครึ่ง เป็นเงิน 180,000 VND เติมน้ำมันแค่ 40,000 VND พอนะเต็มถัง และเหลือเฟือมาก แลนมาร์กแรกเราคือ Robin Hill Cable Car นั่งกระเช้ามุมสูงดูบรรยากาศเมืองด่าหลัต ราคาไป-กลับ คนละ 80,000 VND ด้านบนจะมีวัด Thien Vien Truc lam เป็นวัดพุทธในนิกายเซน (ZEN) ข้างในเงียบสงบ และมีดอกไม้สวยๆให้เราได้ถ่ายภาพแบบเพลินๆ
จุดหมายต่อไป เราอยากไปมาก ไม่ใช่อะไรเราอยากเล่น Roller Coaster มาก เพราะไม่เคยเล่นมาก่อน ค่าเสียหายไป-กลับ อยู่ที่ 150,000 VND ต่อคน ใครจะเดินไป-เดินกลับก็ได้นะ ด้านล่างเป็นน้ำตกน้อยๆ น้ำใสมาก
เมื่อขับมอเตอร์ไซค์ออกนอกเมืองไปเรื่อยๆ หยุดแวะพัก Sunny Farm สักหน่อย มีค่าบริการฝากรถด้วย 30,000 VND
จากนั้นก็ขับตาม Google Map ไป Garden Hydrangeas สวนดอกไม้ไฮเดรนเยีย เกือบหลงเพราะมันต้องเข้าซอยเล็กๆเข้าไปสักพัก
เมื่อเริ่มหิวก็ขับรถกลับเข้ามาในเมืองแวะเข้า Up Café สักหน่อย ได้ดื่มชาร้อนๆแล้ว เหมือนได้เพิ่มพลัง บรรยากาศร้านน่ารัก มองเห็นวิวแบบ 360 องศา
Big C Dalat จะบอกว่าของฝากใน Big C ถูกมาก
เมื่อมาเวียดนามต้องห้ามพลาด Nem Nuong Ba Hung แหนมเนือง 1 ชุด ราคา60,000 VND คือมา 2 คนรู้สึกอิ่ม ถ้าให้เราพูดถึงเราชอบแผ่นแป้งของที่นี่ คือมันไม่ต้องแช่น้ำ รู้สึกว่ามันไม่เละอ่ะ ผักเคียงก็จะเป็นผักพื้นเมือง มีรสชาติเผ็ดๆ น้ำจิ้มก็โอเคเลย
เช้าวันสุดท้ายที่ด่าหลัต มีเวลาครึ่งวัน
Cock Church or Evangelical Church โบสถ์ดาลัต เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนต์
Domaine De Marie Convent โบสถ์คอนแวนต์โดเมนเดอมารี เป็นโบสถ์เก๋ๆ สีชมพู
Tiệm Bánh Cối Xay Gió ร้านขนมปังที่ใครมาก็ต้องมาเชคอินสักหน่อย
จากนั้นเราก็ต้องเตรียมตัวไปสนามบินนานาชาติเหลียนเคือง โดยใช้เวลาจากตัวเมือง ประมาณ 45 นาที
เรากลับโดยสายการบิน Vietjet Air ซึ่งสามารถบินตรงจากด่าหลัตไปสุวรรณภูมิได้เลย สะดวกสะบายมาก
สุดท้ายเราชอบเวียดนามใต้มากเลย อยากจะให้ใครที่ยังไม่เคยมามาลองสัมผัสกันสักครั้ง หลายความน่าตื่นเต้น หลายบรรยากาศ และอีกอย่างชาวเวียดนามก็น่ารักมาก อยากให้ลองไปลุยดูสักครั้ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้