“ไทเปถึงเธอ”

“ไทเปถึงเธอ”

นานจนจำไม่ได้แล้วว่าเคยเขียนโปสการ์ดถึงใคร หรืออาจไม่เคยเขียนด้วยซ้ำ

การเดินทางครั้งนี้ ผมจะบันทึกรูปภาพพร้อมเรื่องราวส่งผ่านโลกออนไลน์ไปถึงคุณ ซึ่งมันคงไม่ต่างจากการเขียนโปสการ์ดมากนัก แค่ไม่ต้องรอเวลาให้โปสการ์ดเดินทาง และใช้วิธีการเลื่อนอ่านแทนการพลิกภาพ นอกจากนั้นผมหวังว่าคงไม่ต่างกัน

ผมจะเรียกมันว่า “โปสการ์ดอิเล็กทรอนิกส์” ก็แล้วกัน

และถึงแม้ตัวอักษรจะไม่มีเสน่ห์ของลายมืออีกแล้ว แต่อย่างน้อยความทรงจำบนอินเทอร์เน็ตจะไม่ซีดจางเหมือนรอยหมึกเหล่านั้น



“ถึงคุณ”

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราไม่ได้มาเที่ยวด้วยกัน แต่ผมจะคิดถึง ทยอยถ่ายภาพ และเขียนถึงคุณไปเรื่อยๆ นะ





“แดงของผม ส้มของคุณ”

ผมถึงไต้หวันแล้วนะ นั่งเครื่องแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เอง พอถึงปุ๊บก็พุ่งตัวไปตลาดปลาไทเปเดี๋ยวนั้นเลย ลองคิดๆ ดูแล้ว ถ้าคุณเป็นผมก็คงทำไม่ต่างกัน

“เอาแซลมอนมา เอาทูน่าไป” ผมยังจำประโยคนี้ได้เสมอ แต่ครั้งนี้ผมไม่รู้จะคีบแซลมอนให้ใคร เอาเป็นว่าผมจะกินเผื่อคุณเป็นสองเท่าละกันนะ
.
Taipei Fish Market



“หวังว่าคงนอนหลับ”

ภาพนี้คือโรงแรมที่ผมพัก

ก็อย่างที่คุณคิดแหละ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถ้าเจอผีไทเปจริงๆ ผมเตรียมบทสวดภาษาจีนกลางไว้แล้ว ถึงสำเนียงจะไม่ชัด แต่ผมจะตั้งใจสวดให้เสียงดังที่สุด
.
O2 Hotel Taipei Main Station


ทอดอารมณ์

ผมเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ เหมือนสัมภเวสี เดินล่องลอยสูดอากาศแบบไม่รีบไปผุดไปเกิด มีแค่แผนคร่าวๆ ในหัวว่าจะกินเท่าที่อยากกิน แวะซื้อชานมทุกร้านที่คนต่อคิวเยอะๆ และที่ไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ก็เพราะหนึ่งในแผนของผมคือการได้บันทึกเรื่องราวให้คุณนี่แหละ
.
Ximending


“แก้วแรก”

คงเหมือนมาไม่ถึงถ้าไม่ได้กินแก้วนี้ ทุกครั้งที่เห็นชานมไข่มุก ผมคิดถึงเรื่องอื่นไม่ได้จริงๆ ความรักของเราหอมหวานเหมือนชานม ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาก็ฝังลึกเหมือนเม็ดมุกที่จมลึกลงก้นแก้ว
.
Ximending


“ค่าเงินของเราเท่ากัน”

ค่าเงินของไทยกับไต้หวันที่ผมแลกมา 1 THB = 1.005 TWD ประมาณว่าเท่ากันนั่นแหละ จะซื้ออะไรก็คิดแทนเป็นเงินไทยได้เลยง่ายๆ แต่ที่ไม่ง่ายคือคุณไม่ได้มาด้วยทำให้ผมต้องควักเงินเอง


“เวลาของเราไม่เท่ากัน”

ไต้หวันเวลาเร็วกว่าไทยแค่ชั่วโมงเดียวเอง แต่ถ้าเรากำลังคิดถึงกัน นั่นแปลว่าผมคิดถึงคุณเร็วกว่าที่คุณคิดถึงผมตั้งหนึ่งชั่วโมงแน่ะ คิดแล้วก็น่าน้อยใจเหมือนกัน คงไม่ต้องให้บอกนะ โอนเงินมาแล้วผมจะหายงอน


“เต้าหู้เหม็น”

ที่คุณท้าทายผมไว้ว่าผมจะต้องคายทิ้ง วันนี้ผมผ่านมันมาได้แล้วนะ กลิ่นของมันคล้ายรถขยะจริงๆ นั่นแหละ และผมยอมรับว่าชิ้นแรกต้องกลั้นหายใจถึงจะกลืนลง แต่ทุกอย่างก็เริ่มง่ายขึ้นเมื่อถึงชิ้นที่สาม 

และสิบกว่าชิ้นที่ผมกินเข้าไปคงยืนยันความพ่ายแพ้ของคุณไปแล้วนะ
.
แอบหนีมา Jiufen วันนึงแหละ

 
“ฝันดีนะ”

ช่วงฟ้ามืดนี่แหละที่เสี่ยงต่อความเหงามากที่สุด ไฟตามตึกรามบ้านช่องค่อยๆ ทยอยดับ อุณหภูมิเริ่มต่ำลงจนหนาวขึ้นมาก มีแต่เสียงเบียร์แตกฟองดังต่อเนื่องในความเงียบแค่นั้นเอง

ยังไงดีล่ะ ถ้าผมตั้งใจจะเขียนโปสการ์ดถึงคุณแล้ว การโทรหาคุณให้หายคิดถึงคงจะทำลายทุกสิ่งลงอย่างสิ้นเชิง
.
Zhongzheng District

 
“อบอุ่นทุกเช้า”

โจ๊กร้อนๆ ไม่เคยสู้อ้อมกอดอุ่นๆ ของคุณตอนตื่นนอนได้เลย ทั้งชีวิตของผมพิสูจน์มาแล้วว่าอิ่มใจยังไงก็ดีกว่าอิ่มท้องแน่ๆ

สิ่งเดียวในทุกเช้าที่คุณสู้โจ๊กถ้วยนี้ไม่ได้คือกลิ่นหอม สัญญากับผมได้มั้ยว่าทุกครั้งที่ตื่นมา คุณจะลุกไปแปรงฟันก่อน
.
Tim Ho Wan

 
“ร่องรอยความทรงจำ”

แสงแดดและลมฝนฝากร่องรอยไว้บนผนังปูนให้แตกร้าวคล้ายแกะสลัก คงไม่ต่างจากชีวิตของเราที่ทิ้งบางร่องรอยบาดลึกไว้ให้จำ

แต่นี่ก็ผ่านไปเกือบสองปีแล้วนะ รอยเย็บใต้ราวนมของคุณคงเนียนขึ้นมากแล้ว
.
Huashan 1914 Creative Park


“เปียกหมดแล้ว”

วันนี้ฝนปรอยๆ ทั้งวัน ผมต้องแวะหลบตามสองข้างทางเป็นพักๆ จนตอนนี้ตัวผมทั้งเปียกทั้งสั่นเป็นลูกหมาเลย

อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าอยากซุกมือเข้าไปในเสื้อของคุณ คิดถึงไออุ่นรักแร้ที่คุณเคยเหน็บมือผมเอาไว้
.
ใกล้ๆ National Chiang Kai-Shek Memorial Hall


“คลายหนาว”

ผมแวะหลบฝนมากินชาบูหม่าล่าแหละ อยากให้ท้องอุ่นขึ้นซักหน่อย ซดไปซดมาปากเริ่มแสบร้อนเหมือนอมรังมดไว้เลย แต่มันก็ไม่ทรมานเท่าการได้เห็นโต๊ะข้างๆ ลวกเนื้อแล้วป้อนให้กันหรอก ร้านแบบนี้ไม่เหมาะมานั่งคนเดียวจริงๆ กลายเป็นหนาวใจกว่าเดิม
.
Hakkai Shabu Shabu


“มื้อสุดท้าย”

ชามสุดท้ายของทริปนี้แล้ว เส้นบะหมี่เหนียวนุ่มและอร่อยที่สุด แต่ตอนนี้ผมอิ่มเกินไปแล้วจริงๆ กินเหลือเกือบครึ่งชามแน่ะ ที่คุณเคยบอกว่าเวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง ผมหวังแค่ว่าพอกลับถึงไทยความอิ่มจะหายทันสำหรับกับข้าวฝีมือคุณ
.
Zhongzheng District


“ทุกอย่างคือคุณ”

คุณอยู่ในทุกสิ่งที่ผ่านสายตาผมจริงๆ เวลาไม่เคยพรากสิ่งนี้ไปได้ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะคิดถึงคุณได้มากขนาดนี้ แค่เห็นหน้าหมาก็คิดถึงคุณอีกแล้ว

ที่จริงบะหมี่ที่เหลือไว้จากโปสการ์ดใบก่อน ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะห่อไปฝากคุณที่ไทยด้วย แต่คงบูดก่อนแน่ๆ ผมเลยคิดซะว่าคุณเป็นหมา แล้วโยนให้มันกิน


“แล้วเจอกันนะ”

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในไต้หวันแล้ว ผมเดินเยอะมากๆ เดินจนรู้สึกว่าโลกนี้มันกว้างเกินไป ตั้งแต่สะโพกลงมาเมื่อยล้าไปหมด คงต้องใช้เวลาที่เหลือพักผ่อนให้เต็มที่ คิดแล้วก็อยากให้คุณมาอยู่ข้างๆ จัง คืนนี้ผมจะได้ไม่ต้องไปร้านนวด

คงเขียนมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะมีคนอื่นอ่านอยู่ด้วย

ด้วยรัก แล้วเจอกันนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่