แบกเป้เที่ยวปีนัง(2019) : เที่ยวแบบงงๆตามสไตล์คนไม่ได้เตรียมตัว(ฉบับนักศึกษาทุนต่ำ)

       
สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน(กรี๊ดดดดดๆๆๆๆๆๆๆ) เจ้าของกระทู้ตั้งใจจะลงกระทู้นี้มานานแล้วแต่ว่าพึ่งได้ลงจ้า เพราะว่ายืนยันตัวตนไม่ผ่านสักรอบเลยจ้า เลยตัดสินใจว่าจะมาให้ข้อมูลก่อน ถ้ายืนยันผ่านเมื่อไหร่ จะแนบรูปมาให้เพื่อนๆดูนะ
          ช่วงต้นเดือนธันวา 62 มีโอกาสได้ลองไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเองเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ต่นเต้นมากๆ และคิดอยากจะนำประสบการณ์มาแบ่งปันให้กับทุกคนเลย กระทู้นี้อาจเป็นประโยชน์ต่อคนที่สนใจจะไป
 
ปล.กระทู้นี้อาจมีการพิมพ์ภาษาไทยตกหล่น หรือไม่ถูกต้องบ้าง เพื่ออรรถรสในการพิมพ์และการอ่าน หากขัดหูขัดตาใครก็ปิดๆไปเลยค่ะ55555 (ล้อเล่นจ้า)
 
_______________________________________________________________________________________________
 
          **ทริปครั้งนี้เกิดขึ้นจากความอัดอั้นอยากจะไปเที่ยวมากๆ ประจวบเหมาะกับสอบปลายภาคเสร็จ ตามสไตล์นักศึกษาอยากเที่ยวแต่ไม่มีเวลาและไม่มีเงิน และแล้วก็มีการจัดแจงกับเพื่อนคนนึงว่าเราจะไปปีนังกันนะ**

วันที่จัดทริปไปคือวันที่ 30 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2562 รวมระยะเวลา 3 วัน 2 คืน อากาศแบบประเทศไทย แต่อาจจะร้อนกว่าสักหน่อยและมีความเหนอะตัว เพราะอยู่ใกล้ทะเล เวลาที่นั่นจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงค่ะ ใครขี้ร้อนแนะนำให้ซื้อพัดลมมือถือไปสักตัวนะคะ จะได้ไม่ทรมานมากมาก คอนเสปของทริปนี้คือ ไปให้ได้ ไปให้ถึง มีที่นอน อย่างอื่นค่อยว่ากัน (ก็คนมันไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยจ้า จะไปก็ไปเลย) ส่วนเรื่องอินเตอร์เน็ต เราสมัครแพ็คเก็จเสริมของ Dtac ค่ะ ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ใช้ซิมเราได้เลย ราคาประมาณ 450 บาท ได้เน็ตมา 7 MB พอข้ามมาฝั่งมาเลเซีย เปิดโรมมิ่งก็ใช้งานได้เลยค่ะ
 
การเดินทาง(ขาไป)

          เดินทางจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ รอบ 7.30 คนเยอะพอสมควร ตอนเราไปซื้อตั๋วก็บอกพนักงานเลยว่าไปปาดังเบซาร์ ราคาตั๋วอยู่ที่ 50 บาท ในตั๋วจะมีเลขที่นั่งให้ แต่ว่าถึงเวลาจริง ไม่ได้นั่งที่ตัวเอง แม่ค้าที่ขายของเขาบอกให้ไปนั่งตรงไหนก็ได้ค่ะ รถไฟจะจอดที่สถานีคลองแงะกับปาดังเบซาฝั่งไทย ยังไม่ต้องลง รอให้รถไฟข้ามฝั่งไปเลยค่ะ เราก็จะเข้าไปถึงตัวชานชะลาของทั้งฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซีย (อยากแนะนำให้ทานข้าวเช้าไปเลยนะ ไม่งั้นจะหิวมาก บนรถไฟของมาเลเขาไม่ให้ทานอาหารนะคะ)

           ลงรถไฟปุ๊ป เจ้าหน้าที่ก็จะต้อนเราให้เดินเข้าไปในอาคารเลยค่ะ ข้างในจะเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง เราก็จะทำการประทับตราออกจากประเทศ แล้วก็เดินไปอีกฝั่ง ก็จะเป็นการประทับตราเข้าประเทศมาเลเซีย หลังจากทำการประทับตราแล้วก็จะมีการนำสัมภาระเข้าสายพานตรวจ แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ไปซื้อตั๋ว KTM ราคาประมาณ 11.4 ริงกิต (ห้ามทิ้งตั๋วเด็ดขาดนะคะ ตอนถึงแล้วเขาจะตรวจตั๋วอีกรอบนึง) บนสถานีมีคนคอนช่วยเหลือเราเยอะค่ะ ไม่ต้องกังวล เข้าไปถามได้เลย หลังจากนั้นก็จะเดินไปทางด้านข้างของร้านขายอาหาร เดินผ่านห้องน้ำ แล้วลงไปยังชานชะลา รอไฟมาจ้า...

          รถไฟของฝั่งประเทศมาเลเซียสบายมาก เป็นรถไฟฟ้าแบบ BTS บ้านเราเลยค่ะ ได้ตั๋วรอบ 9.45 รถไฟเขามาถึงก่อนเวลานิดนึง แต่ไม่มีเลทจ้า ตรงเวลามากๆเลย นั่งรถไฟไปเรื่อยๆค่ะประมาณ 13 สถานี วิวของรถไฟจะเป็นวิวเมืองสลับกับท้องทุ่งนา นั่งไปไม่กล้าหลับเลยจ้า เพราะไม่แน่ใจว่าต้องลงสถานีไหน ต้องสลับลายรถไฟหรือเปล่า ถึงแม้แอร์จะเย็นมากจนน่านอนก็ตาม  ความจริงคือนั่งไปเรื่อยๆจนสุดสายเลยค่ะ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ดแล้วค่ะ 

ถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ด
             
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
                เราจะเดินขึ้นชั้นสอง ใครสะดวกลิฟท์ก็รอได้ค่ะ แต่ทางนี้สะดวกบันไดและคนเยอะมากๆ อาจจะเบียดเสียด ระวังหน่อยนะคะ ขึ้นไปปุ๊ป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ยืนเก็บตั๋วรถไฟเลยค่ะ เราก็จะเดินออกมา ผ่าเคาต์เตอร์ขายตั๋วไปทางขวา เดินตามๆกันไปเลยค่ะ ส่วนใหญ่ไปปีนังกันทั้งนั้นเลย พอมาถึงก็จะลงไปชั้นหนึ่งค่ะ แล้วก็จะข้ามไปที่ขึ้นเรือเฟอรี่ เดินตามป้ายไปเลยค่ะ เป็นสีส้มๆ พอเข้าไปแล้วก็เจอคอมมูนิตี้มอลค่ะ เดินตามป้ายต่อไปเรื่อยๆจนเจอทางออก ทางออกติดอยู่กับร้าน KFC ใครหิวแวะได้นะ  อิอิ

ไปขึ้นเฟอรี่ข้ามไปปีนังกันจ้า

                ไปถึงก็ซื้อตั๋วเลยค่ะ ราคา 1.7 ริงกิต ราคาถูกมากๆ แล้วที่สำคัญคือซื้อตั๋วเฉพาะขาไป ขากลับนั่งฟรีจ้า  เราก็จะเดินไปรอค่ะ แปปนึงเรือก็จะมาเทียบท่า เขาจะปล่อยรถบนเรือออก แล้วคนก็จะออก พอทุกอย่างเรียบร้อยถึงรอบเราขึ้น เขาจะให้รถขึ้นไปก่อน แล้วเราก็จะตามไปนั่งค่ะ 
นั่งไปประมาณ 15 นาที เพลินมากๆ ก็จะถึงค่ะ แล้วเราก็เดินไปตามๆคนอื่นเลย ก็จะเจอกับสถานีรถบัส Rapid ค่ะ ทริปนี้เราใช้รถ CAT รถโดยสารสาธารณะฟรีของที่นี่ค่ะ ใครตัดสินใจจะใช้รถโดยสารสาธารณะ แนะนำให้โหลดแอพ Moovit ค่ะ แอพตัวนี้จะช่วยแจ้งว่ารถจะมาถึงสถานีที่เรารอตอนไหน ช่วยเราหาสถานีที่ใกล้เราได้ด้วย รวมถึงบอกรอบของเฟอรี่ด้วยนะ

                การเดินทางอีกอย่างนึงที่สะดวกคือ GRAB ค่ะ ที่นี่แกรบราคาถูกมากๆ เริ่มที่ราคา 6 ริงกิตเองค่ะ เราลองใช้แล้ว เจอคนขับนิสัยดีและเทคแคร์มากๆ ไว้จะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะคะ

          คิดว่ากระทู้นี้คงยาวยืดมากๆแน่ๆค่ะ เพราะตื่นเต้นมากและอยากจะอธิบายให้เห็นภาพและละเอียดมากที่สุดอาจจะมีกระทู้หลายคนที่เขียนการเดินทางไปปีนังไว้แล้ว แต่น้อยคนที่จะเขียนวิธีการเดินกลับจากปีนังมาฝั่งไทยเลย ร้องไห้จ้า TT เดี๋ยวกระทู้นี้จะเขียนวิธีการเดินทางกลับด้วย ไว้พบกันค่ะ จะรีบๆกลับมาเขียนพร้อมกับแนะนำการเที่ยวแบบคนไร้จุดหมาย (555555) ให้อ่านด้วยเนอะ

หากผิดพลาดประการณ์ใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 
จุ้บๆๆๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่