[CR] รีวิว โตเกียวบานาน่าร่วมมือกับคิทแคททำรสชาติใหม่ และร้านราเมงดังๆ Tokyo Ramen Street ที่ ใต้ดินสถานีโตเกียว อิจิบันไก

สวัสดีค่ะ เรามาโตเกียวทีไรไม่พลาดที่จะมาเดินเล่นทีนี่เลย 
วันแดดออกก็มา วันฝนตกก็มา เดินเล่นสบายๆ เพราะไม่ต้องกลัวร้อน กลัวหนาว กลัวเปียก กลัวอย่างเดียวคือเสียเงินจนหมดตัว ฮ่าๆๆๆ 
มาเดินเล่นจนถึงรีวิวจนคิดว่าตัวเองไปที่อื่นไม่เป็นหรอไง ครั้งนี้ก็มาอีกรอบ แล้วดั้นนนนน เจอโตเกียวบานาน่าโฉมใหม่

วันนี้เลยขอมารีวิวโตเกียวบานาน่า+คิทแคทรสชาติใหม่ที่เจอในใต้ดินสถานีโตเกียวตรงโตเกียวเอกิ อิจิบังไก
ออกจากสถานีมาปุป ตกใจมาเลอออ เพราะเขาโปรโมทกันยิ่งใหญ่มั่กๆๆ โปรโมทตรงโซนขนม Tokyo Okashi Land เลย
(ลงที่ สถานีโตเกียว แล้วออกทาง Yaesu Underground Central Exit จะโผล่เข้ามาใน Tokyo-eki Ichiban-gai ทันที)
ลองหาข่าวดู เห็นว่าเพิ่งทำรสใหม่นี้ออกมาไม่นานนี้เอง 
โตเกียวบานาน่าจับคู่กับคิทแคททำรสใหม่ออกมา ชื่อรส Gold จริงๆแล้ว คือ รสกล้วยผสมคาลาเมลนั้นเอง 55555
รูปร่างภายนอกนั้นคือ คิทแคท แต่รสชาติภายในนั้นจะมีครีมที่เป็นรสกล้วยผสมคาลาเมลอยู่
ส่วนชอคโกแลตที่เคลือบอยู่นั้น เป็น gold chocolate และมีตราสัญลักษณ์โตเกียวบานาน่าปั้มอยู่ด้วย
เห็นว่ารสชาติใหม่นี้มีขายแค่เพียงฤดูกาลสั้นๆเท่านั้น และเพิ่งเริ่มปีนี้เป็นปีแรกด้วยล่ะค่า ขายทุกปีหรือเปล่าไม่แน่ใจน้า
แต่เขาเริ่มขายมาสักพักนึงแล้วล่ะค่ะ วางขายตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ไปจนถึง 8 มกราคม 2020 นี้เอง 
ใครที่มาโตเกียวช่วงนี้หาซื้อรสนี้ได้แค่ที่ Tokyo-eki Ichiban-gai นี่ที่เดียวเท่านั้นนะคะ เพราะที่อื่นไม่มีขายน้า

แต่ว่าๆๆ หลังจากวันที่ 9 มกราคม 2020 เป็นต้นไป เขาถึงจะเริ่มวางขายตามแต่ละสนามบินและบนสถานีโตเกียวล่ะค่า 
เอาเป็นว่าช่วงนี้กระแสกำลังมาแรงแนะนำให้รีบๆซื้อเลย อิอิ
ส่วนเรื่องว่าอร่อยมั้ยนั้น รีวิวให้ไม่ได้ เพราะอยากให้ลองเอง ฮ่าๆๆ
แต่เราซื้อมาเป็นของฝากสะเยอะเลยล่ะ อิอิ

ไหนๆก็เขียนมาถึงนี่แล้ว ขอแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับ Tokyo-eki ichiban-gai ให้ทุกคนไม่หลงกันค่ะ
เคยเขียนไว้แล้วที่กระทู้อื่น ขอก้อปปี้ลิ้งมาวางไว้เลยละกันนะคะ

WEBSITE > ห้ามพลาด!! พาเดินเล่นชั้นใต้ดินสถานีโตเกียว แหล่งรวมร้านตัวการ์ตูน, ร้านอาหารและร้านขนมดังทั่วญี่ปุ่น
PANTIP > Review ในที่สุดก็หาตรอกราเมงในโตเกียวเจอ Tokyo Ramen Street ที่ Tokyo-Eki Ichiban-gai ที่ๆรวมร้านราเมงดังๆในสถานีโตเกียว
ขออีกนิดดดด Ramen Street ในนี้คือดีจริงง ร้านเด็ดร้านดังอยู่ในตรอกรางเมงนี้แล้วจ้า
ก้อปวางให้แบบสั้นๆ เพราะตัดความเวิ่นเว้อไปเยอะ ฮ่าๆๆ ถ้าอยากอ่านรายละเอียดยาวๆ เข้าลิ้งไปตามนี้ กด

โซน Tokyo Ramen Street ที่ Tokyo-eki ichiban-gai
ถ้าอยากกินราเมงดังๆในโตเกียว แต่ก็ไม่รู้ว่าร้านไหนดังบ้าง แนะนำให้เดินทางมาเรามาเลยค่ะ
คนญี่ปุ่นชอบกินราเมงมากๆ เพราะเป็นอาหารคล้ายฟ้าดฟู้ด กินได้เร็ว และเมนูไม่เยอะ กินง่ายเลือกง่ายดี 
ดังนั้นถ้าร้านราเมงมารวมๆกัน จะทำให้เลือกร้านราเมงที่ชอบได้ง่าย เพราะราเมงต่างกันที่น้ำซุป ใครชอบซุปแบบไหนก็เข้าร้านนั้น (ตามนั้นเด้ออ)
ร้านราเมงในสถานีโตเกียวที่ Tokyo Ramen Street นั้น เป็นร้านดังทุกร้านเลยจ้า ทั้ง 8 ร้านนี่ 
คือร้านราเมงที่มีชื่อเสียงในหมู่คนญี่ปุ่นเลยเด้อออ ต่างด้าวแบบเราไม่รู้เรื่อง 
รู้อย่างเดียวว่าเลือกร้านที่จะเข้าไม่ถูก ร้านนั้นก็อยากเข้าร้านนี้ก็อยากเข้าไปหมด 555555
แต่จุดยืน จุดประสงค์ที่เรามา คือ อยากกินราเมงอร่อยๆ และดังๆ ดังนั้นคงไม่พ้นร้านใดร้านนึงในนี้ล่ะ
อย่างที่บอกว่า ขี้เกียจไปเดินหาไกลๆ เปลืองค่ารถไฟก้ะ หนาวด้วย

ในตรอกราเมงที่นี่ ต้องสั่งอาหารผ่านทางตู้ Ticket Machine ที่ตั้งอยู่หน้าร้านนั้นๆค่ะ 
เพราะฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้เลยว่า (ถ้าเราไม่สั่งอาหารเพิ่ม) เราไม่มีทางที่จะโดนชาร์จค่าอะไรอย่างอื่นอีกแน่นอน 
และอาหารที่เราจะได้นั้น ก็ตรงตามรูปที่เราเลือกเป๊ะๆเลยนาจา

ในป้ายร้านรวมราเมงนั้น มีร้านนี้ร้านเดียวที่น้ำซุปราเมงเป็นซุปมิโสะ และเขาเขียนว่า 
เป็นร้านเฉพาะทางในด้านราเมงซุปมิโสะเลย และรสชาติซุปมิโสะของร้านนี้จะเข้มข้น กลมกล่อมนุ่มปาก
แหม่ เขียนมาขนาดนี้ อยากลองเลยจ้า ป่ะะ ลองกันค่ะ
เลือกร้านได้แล้ว ก็หาร้านกัน อยู่ตรงหัวมุมพอดีเลยย และแถวอย่างยาว 5555
ใช้เวลาต่อแถวเพียง 15 นาที เราก็อยู่หน้าร้านละจ้าา ร้านนี้สั่งอาหารผ่านทางตู้เมื่อเราอยู่หน้าร้านแล้วนะก้ะ
สามารถใช้เวลาเลือกได้อยู่ เพราะว่ากว่าพนักงานจะมาเรียกก็ใช้เวลานิดนึง แต่จะโดนกดดันจากคนข้างหลังนี่ล่ะ 5555
เข้ามาปุป บรรยากาศแบบญี่ปุ่นมากก ดนตรีก็เร้าใจ เป็นกลองและบทเพลงญี่ปุ่นมาเลย ประทับใจค่ะ อิอิ 
พนักงานจะไปที่โต๊ะ หลังจากนั้น เราก็ยื่นตั๋วที่กดเมื่อกี้ให้พนักงานไป และก็แค่นั่งรอเขามาเสริฟเท่านั้นเอง 
กินเสร็จก็เดินออกไปได้เลย ไม่ต้องรอเก็บตังไรอีก ง่ายและรวดเร็วดีค่ะ 
เราสั่งกันคนละอย่างแต่แบ่งกันชิม อิอิ
มี Miso Ramen ราคา 850yen และ Rich Miso Ramen ราคา 900yen 
และมีเพิ่ม Spicy Miso ราคา 100yen อีกนิด เพราะอยากชิมว่าจะเผ็ดขนาดไหน 
Miso Ramen คือราเมงซุปมิโสะปกติ มีรสชาติมิโสะอย่างชัดเจน 
ส่วน Rich Miso Ramen นั้นจะเข้มข้นกว่ามากๆ  รสชาติมันกลมกล่อม นัวๆๆดี เราชอบอันนี้มากกว่า เพราะชอบอะไรที่รสจัดๆหน่อย ทำให้สมกับที่เป็นร้านเฉพาะทาง

และเมื่อได้เอา Spicy Miso ลงไปในราเมงนิดนึงแล้ว จะบอกว่าค่อนข้างเผ็ดนะ 
อย่างที่บอกว่าเราแอบชอบรสเข้มข้นของน้ำซุปเข้มข้นจัดๆแต่ไม่เผ็ดมากกว่า ฮ่าๆๆ แต่ถ้าใครชอบแบบเผ็ดๆก็จัดไปเลยค่ะ

หลังจากอาหารเที่ยง (บ่ายๆ) ของเราเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เดินเล่นในสถานีโตเกียวนั้นล่ะ เพราะข้างนอกมันหนาวววววว อยู่ในนี้อุ่นกว่า มีร้านที่อยากช้อปด้วย อิอิ 
(ดูรีวิวตรงส่วนนี้ได้ข้างล่างนะคะ ขอรีวิวราเมงอีกร้านก่อน)
ร้านนี้เขาเขียนไว้ว่า ร้านเขาดังในเรื่องน้ำซุปที่เคี้ยวมาจากกระดูกไก่ หลังจากได้น้ำซุปที่เข้มข้นแล้ว ก็เพิ่มรสชาติโดยการใส่ปลาตากแห้งหลากหลายชนิดลงไป เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของร้านเขาเลยล่ะค่ะ
อ่านแล้วก็น้ำลายไหล ฮ่าๆๆ เลยได้ลองชิมกันจริงจังสักที
 
เหมือนเดิมเลย ต่อแถวเข้าร้าน แล้วก็สั่งอาหารผ่านทางตู้ Ticket Machine ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน
สั่งอาหารไป 3 อย่าง คือ 
Soy-Sauce and Niboshi (Anchovy) Ramen หรือเมนู Sarari Soba
Rich Niboshi (Anchovy) Ramen หรือเมนู Torori Soba
Dried Fish Flakes Rice หรือเมนู Torokeru Katsuobushi Gohan
แปลกใจมั้ยคะว่า ทำไมเป็นร้านราเมงแท้ๆ แต่ชื่อเมนูในภาษาญี่ปุ่นถึงเขียนว่าเป็นโซบะ
เราค่อนข้างแปลกใจมากเลย เลยไปถามคนญี่ปุ่นดูอีก 5555555

เขาบอกว่า แต่ก่อนเมื่อนานๆมาแล้วคนญี่ปุ่นไม่มีคำศัพท์คำว่า “ราเมง” ล่ะค่ะ
คนญี่ปุ่นเรียกราเมงว่า “Chuka Soba” เอาคำศัพท์นี้มาจากประเทศจีน ซึ่งแปลประมาณว่า เส้นโซบะแบบจีน คนญี่ปุ่นใช้คำนี้กันเรื่อยมา จนวันนีง Nissin ได้สร้างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า Chicken Ramen คำว่าราเมงเลยได้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ตอนนั้น และเมื่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดังขึ้นเรื่อยๆ คำว่าราเมงได้ติดปากผู้คนไป จึงได้เปลี่ยนการเรียกราเมงจาก “Chuka Soba” เป็น “ราเมง” ล่ะค่ะ

ดังนั้นร้านนี้จึงเล่นคำเอาคำดั้งเดิมมาใช้นั้นเอง และคนญี่ปุ่นก็รู้กันด้วยนะว่า มันคือ ราเมง ไม่ใช่ โซบะ นาจา
อาหารมาเสริฟอย่างไวเลย น่ากินมากกกก
Dried Fish Flakes Rice (หรือ Torokeru Katsuobushi Gohan) ดูหยุบหยิบมากอะ
แบบปลาแห้งเหมือนมีชีวิตอยู่ เพราะมันเคลื่อนไหวไปตามลมเลยยย
แล้ววิธีการกินก็คือกินกับไข่ดิบค่ะ เอาเฉพาะไข่แดง เพราะมันจะทำให้ข้าวไม่แฉะจนเกินไป
แต่ถ้าหากว่าใครชอบแบบมีไข่ขาวด้วย ตอกไปทั้งฟองเลยก็ได้เด้อ ตอกเสร็จก็ใส่โชยุลงไปนิดๆให้มันเค็มหน่อยๆ แล้วคนๆให้เข้ากันกับข้าวและปลาแห้ง
แค่นั้นเองค่ะ แล้วก็ลองชิมโล้ดดดดดดดดดดด
ก็ไม่ต้องกลัวพยาธินะคะ เพราะ ไข่ดิบญี่ปุ่นเขากินได้
ส่วนเรื่องตัวราเมง ขอบอกเลยว่าเด็ดมากกกกกก
น้ำซุปเขานี่พอชิมปุป ได้รสชาติของปลาตากแห้งเลยย อร่อยมากๆๆค่ะ
Rich Niboshi (Anchovy) Ramen (หรือเมนู Torori Soba) จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า ดูที่น้ำซุปสิคะ มีใส่ปลาแห้งไว้อยู่ด้วย เลือกกินไม่ถูกเลยค่ะ ชอบทั้ง 2 ชามเลยจริงๆ 
ขอจบรีวิวราเมงเพียงเท่านี้ เพราะหิวแล้วจ้า ฮ่าๆๆ
อยากให้ทุกคนได้ลองมาเที่ยวตรงโซนนี้ดู เพราะมันไม่เหมือนราเมงทั่วไปมันพิเศษกว่าเยอะอะ แล้วบางร้านคือขึ้นชื่อในด้านนั้นๆจริงๆ ยิ่งถ้าใครอยากลองราเมงรสชาติใหม่ๆนอกเหนือจาก ippudo หรือ ichiran ราเมงแล้ว แนะนำให้มาลองร้านราเมงแถวนี้จะติดใจจจจ เพราะมันอร่อยจริงๆ 
ได้ลิ้มรสราเมงเจ้าดังและอร่อยๆในโตเกียวทั้งหมด แถมยังไม่ต้องเดินตากลมจากฝนอีกด้วยนะเออ
อาจจะหายากสักหน่อย เพราะสถานีมีทางออกหลายทางเกิ๊นนนน 55555 
ดังนั้น ถ้าจะมาทางออกที่ง่ายที่สุดคือ Yaesu Underground Central Exit ออกปุป เจอโซนขนม เห็นป้ายคาร์บี้เลยจ้า