สวัสดีค่ะวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเคลมประกันโน๊ตบุ๊ค HP ที่ UK ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ
ก่อนอื่นเนื่องจากเราจะมาเรียนที่อังกฤษหนึ่งปี ก่อนหน้านั้นจึงได้ไปซื้อโน๊ตบุ๊ค HP จากไทยมาใช้ที่นี่ (ซื้อเมื่อวันที่ 30/6/19)
หลังจากมาเรียนที่นี่ก็ใช้ปั่นงานเยอะอยู่เหมือนกัน ในขณะที่กำลังฟังเพลงในยูทูปอยู่ดีๆเครื่องก็รวนและขึ้นหน้าจอสีดำดังรูปค่ะ
ทีนี้ทำไงล่ะ เราลองทำตามคลิปในยูทูปที่บอกวิธีแก้อาการนี้ได้แน่นอน แต่ๆๆเราลองทำแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น บังเอิญนึกขึ้นได้ว่าตอนไปซื้อแม่ที่เน้นย้ำว่าเอาอันที่มีประกันแบบ worldwide นะเลยได้เครื่องนี้มา (ซึ่งพนักงานขายบอกว่าส่วนใหญ่ทุกยี่ห้อก็จะมีประกันแบบนี้อยู่ ไม่แน่ใจว่าจริงไหม)
เราเลยติดต่อไปที่ HP Thailand แต่เนื่องจากเป็นวันเสาร์อาทิตย์จึงไม่มีคนตอบกลับ ด้วยความร้อนใจเราเลยลองเสิร์ชหาศูนย์ HP ที่ UK ดู ปรากฏว่าเมืองที่เราอยู่นั้นไม่มีศูนย์เลยค่ะ เลยลองติดต่อไปที่ WhatsApp ของ HP UK ดู ปรากฏว่ามีคนแชทตอบกลับมาค่ะ ถึงแม้จะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ น้ำตาจะไหล
เราก็ได้แจ้งอาการคร่าวๆไป เค้าก็ให้เราลองแก้ไขดูด้วยตยเอง ซึ่งคล้ายๆกับในคลิปที่เราลองทำก่อนหน้านี้ แต่อาการก็ยังเป็นเหมือนเดิม เค้าจึงขอเลข serial เราไปเช็คประกันนู่นนี่นั่น สองสามวันต่อมาเค้าก็แจ้งกลับมาว่าสิทธิ์ประกันเรานั้นครอบคลุม และโมเดลที่เราใช้นั้นเหมือนจะไม่มีขายที่นี่ แต่เค้าสามารถใส่ข้อมูลลงไปในระบบให้เราได้ แต่เนื่องจากเมืองที่เราอยู่ไม่มีศูนย์จึงใช้บริการ pick up service มารับถึงบ้านค่ะ ดีมากๆเลย โดยใช้เป็นบริษัทขนส่งของที่UKมารับและมาส่งซึ่งเราสามารถ trackได้เหมือนขนส่งที่ไทยค่ะ วันที่เค้ามารับก็มีกล่อง suitcase บุฟองน้ำและล้อกอย่างแน่นหนา ระหว่างกระบวนการทั้งหลายทาง HP ก็จะส่งอีเมลมาอัพเดตรวมถึงหลักฐานในการส่งซ่อมมาให้เรา
สรุป 3/5 คะแนน
ข้อดี
-ขั้นตอนทุกอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย หรือเรียกสั้นๆว่า
ฟรี เราแอบไปถามITที่มหาลัยเค้าบอกว่าถ้าเอาไปให้ร้านทั่วไปเช็คอาการก็อาจจะต้องจ่ายประมาณหนึ่งพันบาท ย้ำอีกครั้งแค่เช็กอาการ ยังไม่ซ่อมนะ แพงมาก
-ทางทีม active และให้การช่วยเหลือดี ถึงแม้จะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ข้อเสีย
-ทางHP ใช้เวลาในการซ่อมให้เรา 2 วัน แต่ระยะเวลาตั้งแต่ที่เกิดปัญหาจนคอมกลับมาถึงมือเรา 3 อาทิตย์ เนื่องจากถึงแม้ว่าจะมีคนตอบกลับทางแชทเราตลอดเวลา แต่ก็ใช้เวลาเดินเรื่องค่อนข้างนาน รวมถึงระยะเวลาจากที่ทาง HP แจ้งว่าจะมารับคอมไป แต่มารับจริงๆเลทไป 1 อาทิตย์ ซึ่งเราต้องตามอยู่ตลอด เป็นไปได้ว่าใช้บริการของขนส่งเลยทำให้ล่าช้าตรงนี้
-วิธีการซ่อมคือการลงวินโดว์ใหม่เลย ซึ่งแน่นอนข้อมูลรวมถึงโปรแกรมทั้งหมดหายเกลี้ยง ดีที่เราพึ่งใช้ได้ไม่นานจึงยังไม่มีอะไรมาก
-ขอหักคะแนนอีกนิดตรงที่เราพึ่งซื้อมาได้ประมาณ4เดือน และไม่ได้ใช้หนักหน่วง แต่มีปัญหาซะแล้ว
สุดท้ายสำหรับใครที่มีปัญหากับโน๊ตบุ๊คในต่างประเทศไม่ว่าจะยี่ห้อไหนเราแนะนำว่าให้ลองติดต่อไปที่ศูนย์บริการก่อนนะคะ เพราะค่าซ่อมที่นี่แพงมากเหมือนกัน ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
แชร์ประสบการณ์เคลมประกัน HP laptop ที่UK
ก่อนอื่นเนื่องจากเราจะมาเรียนที่อังกฤษหนึ่งปี ก่อนหน้านั้นจึงได้ไปซื้อโน๊ตบุ๊ค HP จากไทยมาใช้ที่นี่ (ซื้อเมื่อวันที่ 30/6/19)
หลังจากมาเรียนที่นี่ก็ใช้ปั่นงานเยอะอยู่เหมือนกัน ในขณะที่กำลังฟังเพลงในยูทูปอยู่ดีๆเครื่องก็รวนและขึ้นหน้าจอสีดำดังรูปค่ะ
เราเลยติดต่อไปที่ HP Thailand แต่เนื่องจากเป็นวันเสาร์อาทิตย์จึงไม่มีคนตอบกลับ ด้วยความร้อนใจเราเลยลองเสิร์ชหาศูนย์ HP ที่ UK ดู ปรากฏว่าเมืองที่เราอยู่นั้นไม่มีศูนย์เลยค่ะ เลยลองติดต่อไปที่ WhatsApp ของ HP UK ดู ปรากฏว่ามีคนแชทตอบกลับมาค่ะ ถึงแม้จะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ น้ำตาจะไหล
สรุป 3/5 คะแนน
ข้อดี
-ขั้นตอนทุกอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย หรือเรียกสั้นๆว่า ฟรี เราแอบไปถามITที่มหาลัยเค้าบอกว่าถ้าเอาไปให้ร้านทั่วไปเช็คอาการก็อาจจะต้องจ่ายประมาณหนึ่งพันบาท ย้ำอีกครั้งแค่เช็กอาการ ยังไม่ซ่อมนะ แพงมาก
-ทางทีม active และให้การช่วยเหลือดี ถึงแม้จะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ข้อเสีย
-ทางHP ใช้เวลาในการซ่อมให้เรา 2 วัน แต่ระยะเวลาตั้งแต่ที่เกิดปัญหาจนคอมกลับมาถึงมือเรา 3 อาทิตย์ เนื่องจากถึงแม้ว่าจะมีคนตอบกลับทางแชทเราตลอดเวลา แต่ก็ใช้เวลาเดินเรื่องค่อนข้างนาน รวมถึงระยะเวลาจากที่ทาง HP แจ้งว่าจะมารับคอมไป แต่มารับจริงๆเลทไป 1 อาทิตย์ ซึ่งเราต้องตามอยู่ตลอด เป็นไปได้ว่าใช้บริการของขนส่งเลยทำให้ล่าช้าตรงนี้
-วิธีการซ่อมคือการลงวินโดว์ใหม่เลย ซึ่งแน่นอนข้อมูลรวมถึงโปรแกรมทั้งหมดหายเกลี้ยง ดีที่เราพึ่งใช้ได้ไม่นานจึงยังไม่มีอะไรมาก
-ขอหักคะแนนอีกนิดตรงที่เราพึ่งซื้อมาได้ประมาณ4เดือน และไม่ได้ใช้หนักหน่วง แต่มีปัญหาซะแล้ว
สุดท้ายสำหรับใครที่มีปัญหากับโน๊ตบุ๊คในต่างประเทศไม่ว่าจะยี่ห้อไหนเราแนะนำว่าให้ลองติดต่อไปที่ศูนย์บริการก่อนนะคะ เพราะค่าซ่อมที่นี่แพงมากเหมือนกัน ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ