กระทู้นี้ไม่ปรารถนาโอ้อวดใดๆกับใคร แค่อยากเป็นกำลังใจกับคนที่มองไม่เห็นอนาคตในวันนี้ ว่าทุกชีวิตที่ยังตื่นมามีลมหายใจ...คือหมายถึงยังมีโอกาสสู้เพื่อทำวันพรุ่งนี้ใหม่..ให้ดีกว่าเดิม😁
จขกท เริ่มจากเกิดมาในครอบครัวที่จน จนใกล้จะจบก่อนสองปี ที่บ้านไม่มีเงินจะส่งต่อ และดันถูกรางวัลที่ 1 หกล้านบ้าน
เป็นคนเรียนดี จนได้ตำแหน่งรองผู้จัดการในรีสอร์ทระดับ 6 ดาวภายในระยะเวลาหลังเริ่มทำงานใน 1 ปี
ไม่ผ่านโปรการทดลองงานในเดือนสุดท้ายและถูกเชิญออก แต่ดันมีการเปลี่ยนหัวหน้าและเขาอยากให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองจนได้ทำงานต่อ หลังผ่านโปรได้เลื่อนเป็น PR Manager ทันที
ทำงานจนได้ถูกส่งตัวไปเป็นตัวแทน GM ที่ต่างประเทศและถูกจ้างไปทำงานที่ออสเตรเลียให้แขกที่เคยมาพักและเขาเป็นเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ออสเตรเลีย
ไปทำได้แค่ 5 วันได้ตัดสินใจกลับเพราะถูกคุกคามทางเพศจากหัวหน้าชาวออสเตรเลีย จนรู้สึกไม่ปลอดภัย
กลับเมืองไทยตกงานเกือบปีกว่าจะได้งานใหม่ในตำแหน่งพนักงาน PR ธรรมดา
ไปทำงานเป็น event executive ให้ ร้านอาหารแห่งนึงย่านสาธร จนถูกเอาเปรียบค่าคอมมิสชั่นจากการขายงาน และถูกกระชากกระเป๋าย่านชิดลมจนเสียขวัญไม่กล้าอยู่ใน กทม.
กลับบ้านเกิดที่ ตจว. มาอยู่กับแฟน หมั้นหมาย เตรียมแต่งงาน
พ่อเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงจนฆ่าคนในครอบครัวและพยายามฆ่าตัวเอง
เงินเก็บทั้งหมด หมดไปกับการสะสางค่ารักษาพยาบาลและคดี รวมทั้งย้ายครอบครัวจากบ้านเกิด เพราะพ่อถูกขู่ฆ่าจากผลของการกระทำตัวเอง...
หลังสะสางคดี หมดเงิน เป็นหนี้อีก 200,000 ญาติตัดขาด ส่งเสียครอบครัวอีก 3 ชีวิต และถูกคู่หมั้นที่หมายเป็นคู่ชีวิตบอกเลิกไล่ออกจากบ้าน เพราะพี่สาวเค้ารังเกียจจากเหตุการณ์ที่พ่อเราเป็นฆาตกร
ไม่มีที่ไป เพราะไม่มีเงินและต้องเลี้ยงดูอีก 3 ชีวิต เลยหน้าด้านทนอยู่ให้เขาไล่เรื่อยๆ จนความสัมพันธ์ย่ำแย่ชนิดที่ อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่เคยคุยกันหลาย ซื้อข้าวมาเผื่อเขาก็ไม่กินและโยนทิ้งถังขยะ...
ชีวิตขึ้นลง...สุดทนแต่ต้องทน...เพราะความจนมันน่ากลัว😂
จขกท เริ่มจากเกิดมาในครอบครัวที่จน จนใกล้จะจบก่อนสองปี ที่บ้านไม่มีเงินจะส่งต่อ และดันถูกรางวัลที่ 1 หกล้านบ้าน
เป็นคนเรียนดี จนได้ตำแหน่งรองผู้จัดการในรีสอร์ทระดับ 6 ดาวภายในระยะเวลาหลังเริ่มทำงานใน 1 ปี
ไม่ผ่านโปรการทดลองงานในเดือนสุดท้ายและถูกเชิญออก แต่ดันมีการเปลี่ยนหัวหน้าและเขาอยากให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองจนได้ทำงานต่อ หลังผ่านโปรได้เลื่อนเป็น PR Manager ทันที
ทำงานจนได้ถูกส่งตัวไปเป็นตัวแทน GM ที่ต่างประเทศและถูกจ้างไปทำงานที่ออสเตรเลียให้แขกที่เคยมาพักและเขาเป็นเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ออสเตรเลีย
ไปทำได้แค่ 5 วันได้ตัดสินใจกลับเพราะถูกคุกคามทางเพศจากหัวหน้าชาวออสเตรเลีย จนรู้สึกไม่ปลอดภัย
กลับเมืองไทยตกงานเกือบปีกว่าจะได้งานใหม่ในตำแหน่งพนักงาน PR ธรรมดา
ไปทำงานเป็น event executive ให้ ร้านอาหารแห่งนึงย่านสาธร จนถูกเอาเปรียบค่าคอมมิสชั่นจากการขายงาน และถูกกระชากกระเป๋าย่านชิดลมจนเสียขวัญไม่กล้าอยู่ใน กทม.
กลับบ้านเกิดที่ ตจว. มาอยู่กับแฟน หมั้นหมาย เตรียมแต่งงาน
พ่อเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงจนฆ่าคนในครอบครัวและพยายามฆ่าตัวเอง
เงินเก็บทั้งหมด หมดไปกับการสะสางค่ารักษาพยาบาลและคดี รวมทั้งย้ายครอบครัวจากบ้านเกิด เพราะพ่อถูกขู่ฆ่าจากผลของการกระทำตัวเอง...
หลังสะสางคดี หมดเงิน เป็นหนี้อีก 200,000 ญาติตัดขาด ส่งเสียครอบครัวอีก 3 ชีวิต และถูกคู่หมั้นที่หมายเป็นคู่ชีวิตบอกเลิกไล่ออกจากบ้าน เพราะพี่สาวเค้ารังเกียจจากเหตุการณ์ที่พ่อเราเป็นฆาตกร
ไม่มีที่ไป เพราะไม่มีเงินและต้องเลี้ยงดูอีก 3 ชีวิต เลยหน้าด้านทนอยู่ให้เขาไล่เรื่อยๆ จนความสัมพันธ์ย่ำแย่ชนิดที่ อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่เคยคุยกันหลาย ซื้อข้าวมาเผื่อเขาก็ไม่กินและโยนทิ้งถังขยะ...