มีเรื่องอยากเล่าสู่กันฟังและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายค่ะ คือบ้านเรากำลังประสบกับปัญหาใหญ่ที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เจอ มันเริ่มต้นมาจากพ่อเราได้รู้จักกับคนรู้จักคนนึงและตกลงกันว่าจะกู้เงินธนาคารมาทำทุน แต่คนกลางที่ทำให้พ่อกับคนๆนี้รู้จักกันอ้างว่าพ่อเราเป็นเกษตรกรธรรมดาอาจจะมีเครดิตไม่พอที่จะผ่านกู้ จึงตกลงกันจะกู้ในชื่อของคนๆนี้เพราะเขาเป็นข้าราชการค่ะ แล้วเหมือนไปคุยท่าไหนไม่รู้บอกว่าจะต้องใช้โฉนดที่ดินในการขอกู้ พ่อเราด้วยความเชื่อใจก็เซ็นชื่อยกที่ดินให้เป้นชื่อคนนี้ค่ะ แต่พอกู้มากลับไม่มีเงินมาถึงมือ แถมยังต้องช่วยจ่ายค่าธรรมเนียมอะไรไม่รู้อีกจนเข้าเนื้อ
ปัญหามันเกิดหลังจากนี้ค่ะ ถึงจะไม่ได้เงินจากการกู้ยืมธนาคารแต่ที่ดินอยู่ในมือเขา เขาบอกให้พ่อเราช่วยเขาผ่อนเงินที่ไปกู้ยืมธนาคารมาถ้าผ่อนหมดจะโอนที่ดินคืนให้ พ่อเราก็ช่วยส่งทุกเดือนจนเวลาผ่านมาสี่ปี แต่เราเพิ่งรู้ว่านางไม่ได้นับเป็นการช่วยผ่อนแต่คิดว่าเราอยู่ในที่ดินของนางและจ่ายค่าเช่าให้เขาเท่านั้น เพราะนางถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของนางไปแล้ว ส่วนเงินที่ไปกู้ธนาคารมาพอนางผ่อนจ่ายไปได้สักพักนางก็ไปกู้ออกมาใหม่จนยอดมันมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมานางก็ให้ทนายของนางส่งจดหมายไล่ที่พ่อเราและบริวารออกจากที่ดิน พ่อเราไม่ยอม จนมีเรื่องขึ้นศาลกันมาซักพัก จนมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนางส่งจดหมายไล่ที่มาอีกและรวมถึงให้ทางบ้านเราจ่ายค่าเช่าที่ดินตั้งแต่ต้นปีมาถึงเดือนนี้รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายขึ้นศาลของนาง แต่คราวนี้มันแย่ตรงที่พ่อเราไปเซ็นรับรู้ค่ะ เพราะปกติทนายความให้คำแนะนำมาว่าเขาไม่มีสิทธิมาไล่เราออกจากที่ดินผืนนี้ มีอะไรอย่าไปเซ็นรับรู้เด็ดขาด อยากทราบว่าพอจะมีทางออกสำหรับเรื่องนี้มั้ยคะ เพราะทางเราอยากให้จบเรื่องนี้ไปซักที เนื่องจากทางบ้านเราใช้ค่าใช้จ่ายไปเยอะมาก ทนายก็ดูเหมือนไม่พยายามสู้อะไรเลยค่ะ ปล. เราสังเกตว่าจดหมายที่เซ็นรับรู้ไปมีจุดที่พิมพ์ผิดพลาด พอจะถือว่าเอกสารเป็นโมฆะไปได้มั้ยคะ
สอบถามผู้รู้ทางด้านกฎหมายค่ะ
ปัญหามันเกิดหลังจากนี้ค่ะ ถึงจะไม่ได้เงินจากการกู้ยืมธนาคารแต่ที่ดินอยู่ในมือเขา เขาบอกให้พ่อเราช่วยเขาผ่อนเงินที่ไปกู้ยืมธนาคารมาถ้าผ่อนหมดจะโอนที่ดินคืนให้ พ่อเราก็ช่วยส่งทุกเดือนจนเวลาผ่านมาสี่ปี แต่เราเพิ่งรู้ว่านางไม่ได้นับเป็นการช่วยผ่อนแต่คิดว่าเราอยู่ในที่ดินของนางและจ่ายค่าเช่าให้เขาเท่านั้น เพราะนางถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของนางไปแล้ว ส่วนเงินที่ไปกู้ธนาคารมาพอนางผ่อนจ่ายไปได้สักพักนางก็ไปกู้ออกมาใหม่จนยอดมันมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมานางก็ให้ทนายของนางส่งจดหมายไล่ที่พ่อเราและบริวารออกจากที่ดิน พ่อเราไม่ยอม จนมีเรื่องขึ้นศาลกันมาซักพัก จนมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนางส่งจดหมายไล่ที่มาอีกและรวมถึงให้ทางบ้านเราจ่ายค่าเช่าที่ดินตั้งแต่ต้นปีมาถึงเดือนนี้รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายขึ้นศาลของนาง แต่คราวนี้มันแย่ตรงที่พ่อเราไปเซ็นรับรู้ค่ะ เพราะปกติทนายความให้คำแนะนำมาว่าเขาไม่มีสิทธิมาไล่เราออกจากที่ดินผืนนี้ มีอะไรอย่าไปเซ็นรับรู้เด็ดขาด อยากทราบว่าพอจะมีทางออกสำหรับเรื่องนี้มั้ยคะ เพราะทางเราอยากให้จบเรื่องนี้ไปซักที เนื่องจากทางบ้านเราใช้ค่าใช้จ่ายไปเยอะมาก ทนายก็ดูเหมือนไม่พยายามสู้อะไรเลยค่ะ ปล. เราสังเกตว่าจดหมายที่เซ็นรับรู้ไปมีจุดที่พิมพ์ผิดพลาด พอจะถือว่าเอกสารเป็นโมฆะไปได้มั้ยคะ