สวัสดีค่ะ ขอเรียกตัวเองว่าพี่ชิแล้วกัน อิอิ
พี่ชิจัดฟันมาแล้ว 90 วัน ซึ่งการจัดฟันใน 30 วันแรกก็ดำเนินมาได้ด้วยดีแหล่ะ แต่พอไปเปลี่ยนลวดครั้งแรกปุ๊บ
หายนะมาเยือนเลยค่ะ
เดี่ยวจะค่อยๆเล่าให้ฟัง ลองดูภาพประกอบไปด้วยกันเน๊าะ
อ้อ ถ้าใครขี้เกียจอ่าน สามารถเข้าไปดูคลิปที่พี่ชิทำไว้ใน Youtube ได้เลยนะคะ อัพเดทฟันตลอดทุกเดือน แชร์ประสบการณ์ทุกอย่างไว้ในนั้นค่ะ
เผื่อใครอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปรงฟันเพิ่มเติมจนจัดเสร็จ อิอิ
อันนี้เป็นรูปก่อนจัดฟัน หน้าตรง ทุกคนบอกว่าฟันสวยดูดีอยู่แล้ว
และเราก็คิดแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งได้มาทำคลิปใน youtube จึงได้เห็นตัวเองในมุมที่คนอื่นเห็นเรา ก็ตกใจมาก
ฟันเราเป็นแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ !?? จึงตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมั้ย
ยังทันอยู่มั้ย ตอนนี้ก็ปามาครึ่งชีวิตแล้วนะ
สรุปคือ พี่ชิคนที่ไม่ค่อยรักสวยรักงามคนนี้คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ ครั้งใหญ่ด้วย (เราว่าการจัดฟันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเรา)
มาดูมุมเงยกันบ้าง
จะเห็นได้ชัดว่าว่าฟันซ้อนเป็นบันไดเชียว
รูปมุมเงย เงยได้น่าเกลียดพอดี
ความคางเบี้ยวก็มา
และเวลาถ่ายรูปออกมาจะมีข้างนึงที่ดูได้ อีกข้างดูไม่ค่อยได้
รูปนี้คือจัดฟันวันแรก
และเพียงเดือนกว่าๆ คุณหมอก็ได้จัดการฟันที่รูปร่างเหมือนบันได ให้กลายมาเป็นกันสาด
หรือแก้วหน้าม้าได้
ขอโทษในความหนวดลึ่ม
ฟันหน้ามีความแบนราบเหมือนหน้าอกพี่ชิก็ไม่ปาน
ตอนนั้นดูตัวเองในกระจกคือ อยากจะร้องไห้ทุกครั้ง นมก็แบนฟันก็ยังมาแบนอีก
เอาฟันแบบบันไดของเราคืนมานะ
คิดไปเรื่อยเปื่อยมาก กลัวว่าการจัดฟันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด
และเหมือนสวรรค์จะกลั่นแกล้งอีกรอบ
หลังเปลี่ยนลวดครั้งที่ 2 ได้ประมาณอาทิตย์นึงก็พบว่า ฟัน-เปลี่ยน-สี !!!!
พระเจ้า !!
นับจากฟันกระต่ายไปทางขวา 2 ซี่ จะเห็นได้ชัดว่า ฟันเปลี่ยนสีอยู่ซี่เดียว คือถ้ามันเหลืองทั้งแถบ หรือซีดทั้งแถบนี่จะไม่ตกใจเลย
แต่นี่คือซีดอยู่ซี่เดียว ออกคล้ำด้วย
เลยนัดคุยกับคุณหมอ
ตอนแรกหมอจัดฟันของพี่ชิไม่อยู่ เลยเจอแต่หมอเวร หมอตรวจแล้วบอกอย่างไม่ใยดีเลยว่า “ฟันตาย” ต้องรักษารากฟันค่ะ
กลับไปนอนร้องห้ายยยย ยังก่ะปู่เสีย
เลยนัดวันจะรักษารากฟันกับคุณหมอเร็วที่สุด
เรื่องถึงหูคุณหมอจัดฟัน คุณหมอโทรมาบอกว่า เดี่ยวให้หมอดูก่อนอย่าพึ่งรักษารากฟัน
อ่ะ เราก็ตามใจหมอ
จริงๆเราควรจะรอพบคุณหมอจัดฟันให้เค้าดูก่อน เพราะเค้าดูเคสเราอยู่ ถ่ายรูป รักษาเราตั้งแต่เริ่มจัดฟันแล้ว เค้าจะทราบข้อมูลเราดีนะคะ
หลังจากพบคุณหมอจัดฟัน คุณหมอบอกว่า
อาการนี้อาจเป็นได้ 2 อย่าง คือ ฟันตาย กับฟันช็อค
… ตอนนี้คนช็อคยิ่งกว่าฟัน
คุณหมอให้น้ำหนักไปทางฟันช็อคมากกว่า
ฟันช็อคคือ ปกติฟันเราอยู่นิ่งๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอจู่ๆโดนกระทำ โดนลวดออกแรงดึง ฟันก็เลยช็อค และเปลี่ยนสี (ทำไมยิ่งอธิบาย ยิ่งดูเหมือนความรู้สึกคน)
คุณหมอบอกว่า คุณหมอมีเคสที่ดูแลอยู่และฟันเปลี่ยนสีเหมือนพี่ชิอยู่ 3 คน ประมาณ 3-4 เดือน สีฟันจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ฟันยังไม่ตายนะคะ เราก็ค่อยสบายใจ
คุณหมอเลยเอาแบรคเก็ตออกเพื่อที่จะปล่อยฟันนั้นให้เป็นไปตามยถากรรมของน้องไปก่อน กลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่ ค่อยจัดต่อ
เวลาตอนนี้ผ่านไป 90 วันแล้ว
จะเห็นว่า ในเดือนที่ 3 เนี่ย ความกันสาด ความแก้วหน้าม้าได้หายไปละ ฟันเริ่มเข้าที่ เรียงสวย
เว้นเสียแต่น้องฟันที่ช็อคอยู่ เพราะคุณหมอเอาแบรคเก็ตออก เลยไม่เคลื่อนที่ไปกับหมู่คณะ
และรูฟันที่ถอนออกไปก็เคลื่อนที่เข้ามาชิดขึ้นอีกสักมิลสองมิลได้มั้ง ถ้าดูด้วยตาเปล่านะคะ
ช่วงนี้เวลาถ่ายรูป ก็จะดูตลกๆหน่อย
คนก็จะถามว่า เหล็กหลุดหรอ อยู่บ่อยๆ
ส่วนฟันล่าง พึ่งมาถ่ายไว้ตอนที่จัดได้ครบ 1 เดือนเองค่ะ เพราะกว่าพี่ชิจะได้จัดฟันล่าง คือจัดฟันบนผ่านไป 2 เดือนแล้ว
ทีแรกไม่ได้ถ่ายออกมาแบบนี้นะ
มันออกมาเป็นแบบนี้
คือมีความคางเบี้ยวสุด
แทนที่ฟันล่างจะเป็นรูปตัว U เหมือนคนปกติ แต่ของพี่ชิฝั่งนึงโค้ง อีกฝั่งหนึ่งตรงจ้า เลยเป็นเหมือนตัว U ไม่สมประกอบ
ก่อนจะไปจัดฟัน ตอนแรกพี่ชิไปปรึกษาคุณหมอในเรื่องของการตัดกราม
และดึงกราม แต่ค่าใช้จ่ายโหดร้ายมาก เราเก็บเงินไปโมหน้าที่เกาหลีดีกว่า ฮ่าๆๆ
ก็เลยเลิกคิดเรื่องตัดกรามและจัดฟันแทน อย่างน้อยมันก็คงดีขึ้น
สาเหตุที่ทำให้คิดเรื่องตัดกราม
เป็นเพราะครั้งนึงปวดตรงขากรรไกรมาก ข้างเดียว
น่าจะเกิดจากตอนนั้นไปกินแฮมเบอร์เกอร์แล้วอ้าปากกว้างมากไป
เลยปวดอยู่พักหนึ่ง และก็ไปเสิชอ่านในเน็ต
เค้าก็บอกว่า คนที่คางเบี้ยว เคี้ยวข้าวข้างเดียวอย่างเรา
ตอนแก่มีสิทธิที่ขากรรไกรจะมีปัญหา
เราก็กลัวสิ เลยเป็นเหตุให้ต้องไปปรึกษาคุณหมอน่ะค่ะ
ค่ะ ทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพที่ถ่ายมาในแต่ละเดือน เพื่ออัพเดทฟันตัวเอง
หวังว่า จะมีประโยชน์กับน้องๆหรือคนที่คิดกำลังจะไปจัดฟันนะคะ
สามารถติดตามความหายนะ เอ้ย การเปลี่ยนแปลงการจัดฟันของพี่ชิได้ที่ช่องพี่นะ
https://www.youtube.com/user/TheKiddoSmile
ขอบคุณพื้นที่ให้แชร์ประสบการณ์ค่ะ
แชร์ประสบการณ์จัดฟันครบ 90 วัน | วิวัฒนาการ การจัดฟันใน 3 เดือนกับฟัน 1 ซี่ที่มีปัญหา
พี่ชิจัดฟันมาแล้ว 90 วัน ซึ่งการจัดฟันใน 30 วันแรกก็ดำเนินมาได้ด้วยดีแหล่ะ แต่พอไปเปลี่ยนลวดครั้งแรกปุ๊บ
หายนะมาเยือนเลยค่ะ
เดี่ยวจะค่อยๆเล่าให้ฟัง ลองดูภาพประกอบไปด้วยกันเน๊าะ
อ้อ ถ้าใครขี้เกียจอ่าน สามารถเข้าไปดูคลิปที่พี่ชิทำไว้ใน Youtube ได้เลยนะคะ อัพเดทฟันตลอดทุกเดือน แชร์ประสบการณ์ทุกอย่างไว้ในนั้นค่ะ
เผื่อใครอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปรงฟันเพิ่มเติมจนจัดเสร็จ อิอิ
อันนี้เป็นรูปก่อนจัดฟัน หน้าตรง ทุกคนบอกว่าฟันสวยดูดีอยู่แล้ว
และเราก็คิดแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งได้มาทำคลิปใน youtube จึงได้เห็นตัวเองในมุมที่คนอื่นเห็นเรา ก็ตกใจมาก
ฟันเราเป็นแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ !?? จึงตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมั้ย
ยังทันอยู่มั้ย ตอนนี้ก็ปามาครึ่งชีวิตแล้วนะ
สรุปคือ พี่ชิคนที่ไม่ค่อยรักสวยรักงามคนนี้คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ ครั้งใหญ่ด้วย (เราว่าการจัดฟันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเรา)
มาดูมุมเงยกันบ้าง
จะเห็นได้ชัดว่าว่าฟันซ้อนเป็นบันไดเชียว
รูปมุมเงย เงยได้น่าเกลียดพอดี
ความคางเบี้ยวก็มา
และเวลาถ่ายรูปออกมาจะมีข้างนึงที่ดูได้ อีกข้างดูไม่ค่อยได้
รูปนี้คือจัดฟันวันแรก
และเพียงเดือนกว่าๆ คุณหมอก็ได้จัดการฟันที่รูปร่างเหมือนบันได ให้กลายมาเป็นกันสาด
หรือแก้วหน้าม้าได้
ขอโทษในความหนวดลึ่ม
ฟันหน้ามีความแบนราบเหมือนหน้าอกพี่ชิก็ไม่ปาน
ตอนนั้นดูตัวเองในกระจกคือ อยากจะร้องไห้ทุกครั้ง นมก็แบนฟันก็ยังมาแบนอีก
เอาฟันแบบบันไดของเราคืนมานะ
คิดไปเรื่อยเปื่อยมาก กลัวว่าการจัดฟันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด
และเหมือนสวรรค์จะกลั่นแกล้งอีกรอบ
หลังเปลี่ยนลวดครั้งที่ 2 ได้ประมาณอาทิตย์นึงก็พบว่า ฟัน-เปลี่ยน-สี !!!!
พระเจ้า !!
นับจากฟันกระต่ายไปทางขวา 2 ซี่ จะเห็นได้ชัดว่า ฟันเปลี่ยนสีอยู่ซี่เดียว คือถ้ามันเหลืองทั้งแถบ หรือซีดทั้งแถบนี่จะไม่ตกใจเลย
แต่นี่คือซีดอยู่ซี่เดียว ออกคล้ำด้วย
เลยนัดคุยกับคุณหมอ
ตอนแรกหมอจัดฟันของพี่ชิไม่อยู่ เลยเจอแต่หมอเวร หมอตรวจแล้วบอกอย่างไม่ใยดีเลยว่า “ฟันตาย” ต้องรักษารากฟันค่ะ
กลับไปนอนร้องห้ายยยย ยังก่ะปู่เสีย
เลยนัดวันจะรักษารากฟันกับคุณหมอเร็วที่สุด
เรื่องถึงหูคุณหมอจัดฟัน คุณหมอโทรมาบอกว่า เดี่ยวให้หมอดูก่อนอย่าพึ่งรักษารากฟัน
อ่ะ เราก็ตามใจหมอ
จริงๆเราควรจะรอพบคุณหมอจัดฟันให้เค้าดูก่อน เพราะเค้าดูเคสเราอยู่ ถ่ายรูป รักษาเราตั้งแต่เริ่มจัดฟันแล้ว เค้าจะทราบข้อมูลเราดีนะคะ
หลังจากพบคุณหมอจัดฟัน คุณหมอบอกว่า
อาการนี้อาจเป็นได้ 2 อย่าง คือ ฟันตาย กับฟันช็อค
… ตอนนี้คนช็อคยิ่งกว่าฟัน
คุณหมอให้น้ำหนักไปทางฟันช็อคมากกว่า
ฟันช็อคคือ ปกติฟันเราอยู่นิ่งๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอจู่ๆโดนกระทำ โดนลวดออกแรงดึง ฟันก็เลยช็อค และเปลี่ยนสี (ทำไมยิ่งอธิบาย ยิ่งดูเหมือนความรู้สึกคน)
คุณหมอบอกว่า คุณหมอมีเคสที่ดูแลอยู่และฟันเปลี่ยนสีเหมือนพี่ชิอยู่ 3 คน ประมาณ 3-4 เดือน สีฟันจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ฟันยังไม่ตายนะคะ เราก็ค่อยสบายใจ
คุณหมอเลยเอาแบรคเก็ตออกเพื่อที่จะปล่อยฟันนั้นให้เป็นไปตามยถากรรมของน้องไปก่อน กลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่ ค่อยจัดต่อ
เวลาตอนนี้ผ่านไป 90 วันแล้ว
จะเห็นว่า ในเดือนที่ 3 เนี่ย ความกันสาด ความแก้วหน้าม้าได้หายไปละ ฟันเริ่มเข้าที่ เรียงสวย
เว้นเสียแต่น้องฟันที่ช็อคอยู่ เพราะคุณหมอเอาแบรคเก็ตออก เลยไม่เคลื่อนที่ไปกับหมู่คณะ
และรูฟันที่ถอนออกไปก็เคลื่อนที่เข้ามาชิดขึ้นอีกสักมิลสองมิลได้มั้ง ถ้าดูด้วยตาเปล่านะคะ
ช่วงนี้เวลาถ่ายรูป ก็จะดูตลกๆหน่อย
คนก็จะถามว่า เหล็กหลุดหรอ อยู่บ่อยๆ
ส่วนฟันล่าง พึ่งมาถ่ายไว้ตอนที่จัดได้ครบ 1 เดือนเองค่ะ เพราะกว่าพี่ชิจะได้จัดฟันล่าง คือจัดฟันบนผ่านไป 2 เดือนแล้ว
ทีแรกไม่ได้ถ่ายออกมาแบบนี้นะ
มันออกมาเป็นแบบนี้
คือมีความคางเบี้ยวสุด
แทนที่ฟันล่างจะเป็นรูปตัว U เหมือนคนปกติ แต่ของพี่ชิฝั่งนึงโค้ง อีกฝั่งหนึ่งตรงจ้า เลยเป็นเหมือนตัว U ไม่สมประกอบ
ก่อนจะไปจัดฟัน ตอนแรกพี่ชิไปปรึกษาคุณหมอในเรื่องของการตัดกราม
และดึงกราม แต่ค่าใช้จ่ายโหดร้ายมาก เราเก็บเงินไปโมหน้าที่เกาหลีดีกว่า ฮ่าๆๆ
ก็เลยเลิกคิดเรื่องตัดกรามและจัดฟันแทน อย่างน้อยมันก็คงดีขึ้น
สาเหตุที่ทำให้คิดเรื่องตัดกราม
เป็นเพราะครั้งนึงปวดตรงขากรรไกรมาก ข้างเดียว
น่าจะเกิดจากตอนนั้นไปกินแฮมเบอร์เกอร์แล้วอ้าปากกว้างมากไป
เลยปวดอยู่พักหนึ่ง และก็ไปเสิชอ่านในเน็ต
เค้าก็บอกว่า คนที่คางเบี้ยว เคี้ยวข้าวข้างเดียวอย่างเรา
ตอนแก่มีสิทธิที่ขากรรไกรจะมีปัญหา
เราก็กลัวสิ เลยเป็นเหตุให้ต้องไปปรึกษาคุณหมอน่ะค่ะ
ค่ะ ทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพที่ถ่ายมาในแต่ละเดือน เพื่ออัพเดทฟันตัวเอง
หวังว่า จะมีประโยชน์กับน้องๆหรือคนที่คิดกำลังจะไปจัดฟันนะคะ
สามารถติดตามความหายนะ เอ้ย การเปลี่ยนแปลงการจัดฟันของพี่ชิได้ที่ช่องพี่นะ
https://www.youtube.com/user/TheKiddoSmile
ขอบคุณพื้นที่ให้แชร์ประสบการณ์ค่ะ