ปรบมือให้ฟ้าใส น้องทำดีที่สุดแล้ว ขณะเดียวกันขอชื่นชมความมีไหวพริบ ความเป็นผู้นำ ความเป็นตัวของตัวเองของมิสแอฟริกาใต้ ยิ่งได้ฟังคลิปการให้สัมภาษณ์สื่อหลังจากที่ได้มงแล้ว เรียกว่าเพิ่งได้มงหมาดๆ ก็มาตอบคำถามสื่อทันที ยิ่งทำให้ประจักษ์เลยว่ากองเลือกนางไม่ผิดเลย นางเหมาะกับมงมาก ตอบได้ฉะฉาน สละสลวย มั่นใจ ตอบหลากหลายประเด็นมาก ไม่ต้องมีพี่เลี้ยงมาคอยกำกับ ทางกองก็เปิดไฟเขียวให้นางตอบเต็มที่
การประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สปีนี้แข่งกันดุเดือดนะ เพราะดูการตอบคำถามของแต่ละคน ตอบได้ดีกันทุกคน แต่คนที่ยิ่งตอบยิ่งสวย ยิ่งพูดยิ่งสวย ตอบดีที่สุด คมที่สุด เด่นที่สุด สร้างแรงบันดาลใจให้คนได้มากที่สุดคือโซซิบินิ ทุนซีนั่นเอง กองเลือกคนเข้ามารับตำแหน่งเพื่อทำงานให้กับกองได้เหมาะสมที่สุด
แฟนนางงามคนไทยหลายคนผิดหวังมากที่ไม่เห็นน้องฟ้าใสเข้ารอบลึกๆ ไปถึงรอบสามคน หรือไปถึงคว้ามงที่สาม ตรงนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้รับข่าวสารเข้ามาในหูตลอดจากบรรดากูรูนางงาม บล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ว่า "มงสามมาแน่" "ฟ้าใสเข้าถึงรอบสามคนแน่" เลยทำให้เชื่อมั่นและไม่เผื่อใจไว้ จริงอยู่ฟ้าใสเป็นนางงามที่ครบเครื่องคนหนึ่งของไทยในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่เราต้องมองโลกกว้าง ไม่มีอะไรรับประกันกับคำว่า "แน่" หรอก เพราะว่ากองประกวดเป็นผู้ตัดสิน เป็นผู้เลือกคนเข้าไปทำงาน ดังนั้นเขาต้องเลือกคนที่เหมาะที่สุด
[cr. Facebook Miss Universe Thailand 2019]
เพลียใจกับแฟนนางงามหลายคน พอฟ้าใสไม่ได้ก็ทำเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ฟาดหัวฟาดหาง ใช้คำพูดที่หยาบคายกับผู้อื่น เรียกเป็น อีโน่น อีนี่ ใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติสีผิวกับผู้ชนะ โทษว่าไม่ยุติธรรมบ้าง คำถามยากบ้าง จิปาถะ การแข่งขันย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะเสมอ ส่วนตัวเห็นว่าโซซิบินี ทุนซีเหมาะสมที่สุด
ทัศนคติเรื่องความงาม โดยวัดจากรูปร่างหน้าตามีหลากหลายรูปแบบและเปลี่ยนไปตามเวลา ตามยุคสมัย และยิ่งเดี๋ยวนี้การประกวดไม่ได้วัดกันที่ความงามจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว [ถ้าจะวัดกันที่รูปร่างหน้าตา ไม่ต้องเดินทางมาประกวดให้เห็นตัวจริงหรอก ส่งภาพมาและจิ้มเลือกก็ได้] ยุคนี้นางงามต้องกล้าแสดงจุดยืน ต้องเป็นกระบอกเสียงผลักดันประเด็นที่มาจากใจ ต้องมีเรื่องราวของตนเอง ต้องสร้างแรงบันดาลใจ ต้องเป็นผู้นำ ต้องพูดเป็น ต้องอยู่เป็น ต้องมีไหวพริบ ทักษะการพูดในเวทีสาธารณะต้องมี ดังนั้นนางงามยุคนี้จึงต้องเหนื่อยกว่ายุคก่อน
เชื่อว่า การประกวดครั้งนี้มีบทเรียนหลายข้อที่ทางทีมทีพีเอ็นสามารถนำไปปรับใช้ในการเฟ้นหา และปั้นสาวไทยคนต่อไปที่จะไปเป็นตัวแทนของประเทศในการประกวดในปีหน้าได้
นางงามโลกสวยตุ๊กตาบาร์บี้หลบไป ยุคนี้นางงามต้องสร้างแรงบันดาลใจและเป็นผู้นำ
การประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สปีนี้แข่งกันดุเดือดนะ เพราะดูการตอบคำถามของแต่ละคน ตอบได้ดีกันทุกคน แต่คนที่ยิ่งตอบยิ่งสวย ยิ่งพูดยิ่งสวย ตอบดีที่สุด คมที่สุด เด่นที่สุด สร้างแรงบันดาลใจให้คนได้มากที่สุดคือโซซิบินิ ทุนซีนั่นเอง กองเลือกคนเข้ามารับตำแหน่งเพื่อทำงานให้กับกองได้เหมาะสมที่สุด
แฟนนางงามคนไทยหลายคนผิดหวังมากที่ไม่เห็นน้องฟ้าใสเข้ารอบลึกๆ ไปถึงรอบสามคน หรือไปถึงคว้ามงที่สาม ตรงนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้รับข่าวสารเข้ามาในหูตลอดจากบรรดากูรูนางงาม บล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ว่า "มงสามมาแน่" "ฟ้าใสเข้าถึงรอบสามคนแน่" เลยทำให้เชื่อมั่นและไม่เผื่อใจไว้ จริงอยู่ฟ้าใสเป็นนางงามที่ครบเครื่องคนหนึ่งของไทยในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่เราต้องมองโลกกว้าง ไม่มีอะไรรับประกันกับคำว่า "แน่" หรอก เพราะว่ากองประกวดเป็นผู้ตัดสิน เป็นผู้เลือกคนเข้าไปทำงาน ดังนั้นเขาต้องเลือกคนที่เหมาะที่สุด
[cr. Facebook Miss Universe Thailand 2019]
เพลียใจกับแฟนนางงามหลายคน พอฟ้าใสไม่ได้ก็ทำเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ฟาดหัวฟาดหาง ใช้คำพูดที่หยาบคายกับผู้อื่น เรียกเป็น อีโน่น อีนี่ ใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติสีผิวกับผู้ชนะ โทษว่าไม่ยุติธรรมบ้าง คำถามยากบ้าง จิปาถะ การแข่งขันย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะเสมอ ส่วนตัวเห็นว่าโซซิบินี ทุนซีเหมาะสมที่สุด
ทัศนคติเรื่องความงาม โดยวัดจากรูปร่างหน้าตามีหลากหลายรูปแบบและเปลี่ยนไปตามเวลา ตามยุคสมัย และยิ่งเดี๋ยวนี้การประกวดไม่ได้วัดกันที่ความงามจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว [ถ้าจะวัดกันที่รูปร่างหน้าตา ไม่ต้องเดินทางมาประกวดให้เห็นตัวจริงหรอก ส่งภาพมาและจิ้มเลือกก็ได้] ยุคนี้นางงามต้องกล้าแสดงจุดยืน ต้องเป็นกระบอกเสียงผลักดันประเด็นที่มาจากใจ ต้องมีเรื่องราวของตนเอง ต้องสร้างแรงบันดาลใจ ต้องเป็นผู้นำ ต้องพูดเป็น ต้องอยู่เป็น ต้องมีไหวพริบ ทักษะการพูดในเวทีสาธารณะต้องมี ดังนั้นนางงามยุคนี้จึงต้องเหนื่อยกว่ายุคก่อน
เชื่อว่า การประกวดครั้งนี้มีบทเรียนหลายข้อที่ทางทีมทีพีเอ็นสามารถนำไปปรับใช้ในการเฟ้นหา และปั้นสาวไทยคนต่อไปที่จะไปเป็นตัวแทนของประเทศในการประกวดในปีหน้าได้