คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ^^
ทุกคนล้วนต้องทุกข์เพราะการพลัดพรากและสูญเสียบุคคลที่รัก และในเวลาเดียวกัน เราเองทุกคนก็ต้องจากโลกนี้ไปเช่นกัน หากเชื่อตามคำสอนของพระพุทธองค์ คนเรามีกรรมเป็นแดนเกิด เป็นที่อาศัยและเป็นที่ไป เมื่อความตายมาถึง ไม่ว่าใครก็ช่วยใครไม่ได้ นี้คือความจริงของโลก ชีวิตและสรรพสิ่งซึ่งอยู่ภายใต้กฎพระไตรลักษณ์ เป็นความจริงที่โหดร้าย และยอมรับได้ยาก
ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ในกรณีของ จขกท นับว่ายังใหม่มาก ระหว่างนี้หากเสียใจและคิดถึงจนร้องไห้ ก็ร้องได้เลยนะคะ ไม่ต้องเก็บกดไว้ น้ำตาจะช่วยให้ความโศกเศร้าค่อย ๆ ลดลง เช่นเดียวกัน เวลาก็เป็นอีกสิ่งที่จะช่วยคนที่สูญเสียคนที่รักไปได้ เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้ แม้จะเสียใจ แต่ก็ต้องพยายามอดทน และจากประสบการณ์ตรง แม้ผ่านไปหลายปี ก็ยังไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงทั้งสองท่านเลย
เมื่อยังอยู่ ความตายของพ่อจะช่วยบอก จขกท ว่าชีวิตนั้นเปราะบางยิ่งนัก พระพุทธองค์สอนว่า ร่างกายของเราทุกคนเปรียบได้กับรังของโรค มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะฉะนั้น ขอให้ จขกท ตระหนักถึงความมีค่าของชีวิตและการดำรงชีวิตให้มาก อาทิ เรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น ที่สุดแล้ว เราไม่รู้เลยว่าจะได้เจอกันอีกหรือไม่ สิ่งที่ทำได้คือ ไม่ควรโกรธ และไม่ควรทำร้ายใคร หากแต่ควรอยู่ร่วมกันด้วยความรัก เกื้อกูลและปรารถนาดีต่อกัน
สิ่งที่ จขกท ทำเพื่อลดความเศร้า นับว่าดีมาก ๆ เลยนะคะ คิดถึงความทรงจำที่ดี และใส่บาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่าน ที่สำคัญ ท่านไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป
จะว่าไป ยามเราเสียใจ กัลยาณมิตรจะปลอบใจด้วยคำอธิบายว่าท่านไม่ได้หายไปไหน หากแต่อยู่ในตัวของเราเอง เพราะฉะนั้น เมื่อยังมีลมหายใจ ขอให้ใช้ร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาที่ท่านมอบให้เพื่อกระทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศล ทั้งเพื่อตัวเองและเพื่ออุทิศผลบุญให้ท่าน
เอาใจช่วยให้ จขกท มีกำลังใจเข้มแข็ง อยู่กับความจริงใหม่ของชีวิต ได้อยากราบรื่นและปกติสุขมากเท่าที่จะทำได้ค่ะ
ทุกคนล้วนต้องทุกข์เพราะการพลัดพรากและสูญเสียบุคคลที่รัก และในเวลาเดียวกัน เราเองทุกคนก็ต้องจากโลกนี้ไปเช่นกัน หากเชื่อตามคำสอนของพระพุทธองค์ คนเรามีกรรมเป็นแดนเกิด เป็นที่อาศัยและเป็นที่ไป เมื่อความตายมาถึง ไม่ว่าใครก็ช่วยใครไม่ได้ นี้คือความจริงของโลก ชีวิตและสรรพสิ่งซึ่งอยู่ภายใต้กฎพระไตรลักษณ์ เป็นความจริงที่โหดร้าย และยอมรับได้ยาก
ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ในกรณีของ จขกท นับว่ายังใหม่มาก ระหว่างนี้หากเสียใจและคิดถึงจนร้องไห้ ก็ร้องได้เลยนะคะ ไม่ต้องเก็บกดไว้ น้ำตาจะช่วยให้ความโศกเศร้าค่อย ๆ ลดลง เช่นเดียวกัน เวลาก็เป็นอีกสิ่งที่จะช่วยคนที่สูญเสียคนที่รักไปได้ เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้ แม้จะเสียใจ แต่ก็ต้องพยายามอดทน และจากประสบการณ์ตรง แม้ผ่านไปหลายปี ก็ยังไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงทั้งสองท่านเลย
เมื่อยังอยู่ ความตายของพ่อจะช่วยบอก จขกท ว่าชีวิตนั้นเปราะบางยิ่งนัก พระพุทธองค์สอนว่า ร่างกายของเราทุกคนเปรียบได้กับรังของโรค มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะฉะนั้น ขอให้ จขกท ตระหนักถึงความมีค่าของชีวิตและการดำรงชีวิตให้มาก อาทิ เรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น ที่สุดแล้ว เราไม่รู้เลยว่าจะได้เจอกันอีกหรือไม่ สิ่งที่ทำได้คือ ไม่ควรโกรธ และไม่ควรทำร้ายใคร หากแต่ควรอยู่ร่วมกันด้วยความรัก เกื้อกูลและปรารถนาดีต่อกัน
สิ่งที่ จขกท ทำเพื่อลดความเศร้า นับว่าดีมาก ๆ เลยนะคะ คิดถึงความทรงจำที่ดี และใส่บาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่าน ที่สำคัญ ท่านไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป
จะว่าไป ยามเราเสียใจ กัลยาณมิตรจะปลอบใจด้วยคำอธิบายว่าท่านไม่ได้หายไปไหน หากแต่อยู่ในตัวของเราเอง เพราะฉะนั้น เมื่อยังมีลมหายใจ ขอให้ใช้ร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาที่ท่านมอบให้เพื่อกระทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศล ทั้งเพื่อตัวเองและเพื่ออุทิศผลบุญให้ท่าน
เอาใจช่วยให้ จขกท มีกำลังใจเข้มแข็ง อยู่กับความจริงใหม่ของชีวิต ได้อยากราบรื่นและปกติสุขมากเท่าที่จะทำได้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น
คิดถึงพ่อที่จากไป ทำใจยังไงดีคะ
บางทีก็อยากรู้ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง
คิดถึงเสียงของท่าน นึกถึงเมื่อตอนเป็นเด็กที่ท่านไปรับ-ส่งไปโรงเรียน
บางวันก็พอที่จะทำใจได้ บางวันก็ร้องไห้หนักมาก พยายามคิดว่าท่านไม่ต้องเจ็บปวดกับโรคที่เป็นก่อนเสีย (โรคมะเร็ง)
ทุกวันนี้ใส่บาตรอุทิศให้ท่านทุกเช้าค่ะ