สงสัยเรื่องสำเนียงการพูดของกระเทยครับ มันเป็นไปเองตามธรรมชาติไหม เพราะบางคนสำเนียงชัดมาก แต่บางคนฟังไม่ชัดนะ

ตัวผมเองค่อนข้างเชื่อว่ามันเป็นไปเองตามธรรมชาติของเขา
แต่จุดที่ผมสงสัยคือเพื่อนผมที่เป็นกระเทยบางคนนะ สำเนียงกระเทยมีนิดเดียว แค่พอฟังออกว่าเป็นกระเทย
หรืออย่างคุณ ม.ด. ผมว่าสำเนียงแกก็ไม่ออกกระเทยมาก กิริยาอาการพอดูออกแต่ก็ไม่ถึงกับมากนัก
ส่วนคุณ ฟ.ก. ชัดเจนจากระยะ 150 เมตรครับ ทั้งสำเนียง ทั้งอากัปกิริยา ใครดูไม่ออกก็คงจะสายตาสั้นมากละ สงสัยต้องเปลี่ยนแว่น
ในส่วนของอากัปกิริยาผมเชื่อว่ามันเป็นไปตามธรรมชาติของกระเทยแต่ละคน แต่...บางคนอาจจะมีพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้หรือลอกเลียนแบบเพิ่มเข้าไปด้วย
เรื่องพวกนี้ผมมองและวิเคราะห์/วิจารณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา ไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือแสดงความรังเกยจใครทั้งสิ้น ถ้าอ่านดีๆจะรู้ครับ
ส่วนที่ทำไมผมไม่ไปถามเจ้าตัวเขาเองนั้น...ผมกลัวโดนถีบปากครับ เพราะบางคนเขาอาจไม่พอใจถ้าถามเรื่องแบบนี้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จะเรียกว่าธรรมชาติ ที่หมายถึงดั้งเดิมก็ไม่ใช่แน่นอน
แต่เริ่มจากการต้องการแสดงออกให้เป็นอย่างที่เป็น
อะไรทีทำนานๆ จนฝังลงในจิตใต้สำนึก ก็จะเหมือนออกจากธรรมชาติตัวเองในที่สุด
คนเราสามารถจินตนาการบ่อยๆ ซ้ำๆ เหมือนการฝึกอะไรนานๆ แล้วแสดงท่าทีออกมาแบบนั้นได้
ไม่ใช่การแสดงออกของเพศที่ว่านี้เท่านั้น เรื่องบุคลิกภาพทั่วไปก็ด้วย
มันช่วยเปลี่ยนท่าทาง เปลี่ยนบุคลิกได้จริง แล้วการจินตนาการซ้ำๆ สามารถเปลี่ยนเราไปในทางที่เราต้องการได้เยอะ ถึงจะได้ไม่หมด แต่ก็เป็นคนละคน


มีคำของฝรั่ง บอกว่า fake it till you make it. ที่จริงมีความหมายแฝงทางจิตวิทยาในเรื่องที่ว่าข้างต้นนี้





กิริยามารยาท และนิสัยก็ด้วย ไม่ว่าน่ารัก น่าตื้บ น่ากลัว น่าเคารพ น่าเกรงขาม ก็เกิดจากการเรียนรู้
เด็กเกิดมาแรกๆ ก็เหมือนหุ่นยนต์ที่ขายจากโรงงาน ยังไม่มี data ยังไร้ความสามารถตามที่คนซื้อมาอยากให้ทำงานตามต้องการ มีแต่โปรแกรมพื้นฐานมาทางธรรมชาติ คือตาม DNA

แล้วต่อไป การเป็นตัวตนคนใดคนหนึ่ง ในคนทั่วไป สิ่งที่มีอิทธิพลมากกว่าธรรมชาติ คือขึ้นกับจะใส่โปรแกรม ใส่ data เพิ่มเติมอะไรลงไป (... บางทีก็มีข้อมูลติดไวรัสมั่ง มัลแวร์มั่ง ข้อมูลขยะมั่ง ทำให้คนที่ตอนเด็ก เหมือนจะดี กลายเป็นขยะสังคมตอนโตได้)
การจะเป็นบุคลิกคนใดคนหนึ่ง องค์ประกองมีทั้งมาจากการเรียนรู้ในสิ่งแวดล้อมซึมซับลงไป ทั้งเกิดจากการอบรม และการฝึกตัวเอง...



ในทางตรงข้ามที่จขกท. ถาม กรณีที่เคยมี แม่อยากมีลูกชาย แต่ได้เด็กหญิง ก็เลี้ยงให้เป็นผู้ชาย ก็จะพยายามออกท่าทางเหมือนผู้ชาย ถึงธรรมชาติร่างกายจะขัดกันก็ตาม
ก็จะเกิดปัญหาขัดแย้งในจิตใจบ้าง เพราะสับสนเมื่อมองเห็นคนทั่วไป เป็นอีกแบบ ...
ทอมอยากเป็นผู้ชายก็ทำนองเดียวกัน อยากเป็นเอง แสดงออกเองห้าวๆ จนคิดจะเป็นอะไรแบบนั้นมากๆ ก็ฝังลงในหัว ลงในจิตใต้สำนึก มากน้อยก็แล้วแต่คน


ถึงจะเรียกว่าท่าทางประดิษฐ์ แต่ก็คือรูปแบบการฝึกอย่างหนึ่งไม่รู้ตัว ที่ไม่ต่างการฝึกมารยาท ฝึกนักฆ่า ฝึกผู้ก่อการร้าย ฝึกครู ฝึกทหาร ฯลฯ
มีที่ไม่ได้เป็นการฝึก แต่ว่าแบบการถูกทำร้ายซ้ำๆ จนกลายเป็นบุคลิกคนอ่อนแอฝังในหัว นี่ก็เช่นกัน

ระดับหนักเลย แบบที่ในสงครามที่เรียกว่าการล้างสมอง ถึงไม่สามารถล้างให้สมองจริงเปลี่ยนได้หมดตามชื่อ เพราะจำยอมและมีความขัดแย้งต่อต้าน
แต่ก็จะเปลี่ยนไปเยอะ และเปลี่ยนไปจากเดิม ในทางใดทางหนึ่ง เมื่อถูกให้ทำอะไรไปซ้ำๆ ในสถานการณ์ที่ตัวเองคิดว่าสูญเสียการควบคุม
ในประวัติศาสตร์ ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน คือจักรพรรดิองค์สุดท้าย ของจีน






พูดมาซะยาว จะสรุปจบด้วยตัวอย่าง เรื่องของบุคลิกคน ที่จะเรียกว่าแสดงออกจนเป็นธรรมชาติ... จะเรียกว่าเรียนรู้ เรียกว่าฝึก เรียกว่าอะไรก็เถอะ ... แต่ธรรมชาติไม่ได้สร้างหรอก แต่เกิดจากการใส่ข้อมูล data รอบข้าง จนฝังเข้าไปในบุคลิก มี hardware ร่างกาย สมอง ให้มาเป็นองค์ประกอบ ว่าจะเรียนรู้อะไร ต่อต้านอะไร และเรียนรู้ได้ขนาดไหน
(คือก็มีคนส่วนน้อยจำนวนหนึ่งที่ผิดปกติโชคร้ายจากธรรมชาติ ร่างกายไม่ปกติ หรือมีที่สารเคมีไม่สมดุลในสมอง ทำให้แปรปรวน และมากๆ เป็นคนเพี้ยนๆ คนวิกลจริต เหมือนเครื่องที่สร้างมารุ่นเดียวพร้อมกับเพื่อน บังเอิญมีบางส่วนภายในชำรุด ทำให้ทำงานแบบตก spec)



ถ้าไม่แน่ใจ ให้นีกภาพจ่าห้าว ฝึกทหารดุดันทั้งกองร้อย
หรือผู้การปืนโหด ชอบวิสามัญผู้ร้ายหัวทะลุ บ่อยเกินจนถูกผู้บังคับบัญชาคาดโทษ
หรือพลอวกาศเอก ประยุทธ์ จันทรโชว์อา ร้อยอากาศเอก เฉลิม อยู่กะลุง ชวน หลีกใคร ธนาพร จิตรุ่งเรืองกลึง
หรือบารัค โอบาม่า โทนี่ แบลร์ จอร์จ บุช...

ตอนคนเหล่านี้ เป็นเด็กอายุ 3 ขวบไปจนถึงวัยรุ่น ล้วนเป็นคนละคนกับตอนนี้ แต่ช่วยี่น กำลังสะสม เรียนรู้ ฝึกโน่น นี่ นั่น มาเป็นคนที่ว่าหลายสิบปี
ฝรั่งบางคนนี่ มีที่ปรึกษา ปรับปรุงบุคลิก หรือเข้าคอร์สฝึกท่าทางด้วยเลย

การแสดงออก ของคนที่เพศสภาพไม่ตรงก็เช่นกัน
ที่เราเห็นว่าเป็นการประดิษฐ์ แต่ทำบ่อยๆ มันฝังลงในจิตใจไปแล้ว ถึงจะเรียกประดิษฐ์ คนที่เพิ่งแสดงออกใหม่ๆ อาจจะใช่ แต่เมื่อนานไป ไม่ใช่เป็นการเสแสร้งแน่นอนครับ เพราะแม้แต่ละเมอ ก็จะแสดงอาการในบุคลิกนี้ได้เหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่