ภาพวาด “สตรีกำลังชั่งทองและเหรียญเงิน” (Woman Weighing Gold and Silver Coins)
เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงของปีเตอร์ เด ฮูช (Pieter de Hooch) ศิลปินชาวดัตช์ผู้กำเนิดเมื่อค.ศ. 1629 อีกหนึ่งภาพก็มีประตูเปิดแง้มอยู่ด้านหลังสตรีในภาพเช่นกัน ภาพวาดนี้น่าจะวาดขึ้นในช่วงค.ศ. 1644 เวลาผ่านไปเกือบ 400 ปีต่อมา ภาพเขียนของเขาเพิ่งถูกผู้เชี่ยวชาญที่มีสายตาคมกล้าชี้เป้าลายเซ็นซึ่ง “แฝง” อยู่ในจุดที่ไม่ค่อยพบเห็นในภาพเขียนน้ำมันบนผ้าใบ
ผู้เชี่ยวชาญบ่งชี้จุดที่ลายเซ็นของปีเตอร์แฝงอยู่บนภาพ ตรงกรอบหน้าต่างที่เปิดอยู่ เป็นอักษรว่า “P.D. HOOCH” ผู้เชี่ยวชาญที่พบลายเซ็นคือ Johanneke Verhave และ Katja Kleinert ซึ่งเป็นผู้ร่วมดูแลพิพิธภัณฑ์ ทั้งคู่พบจุดดังกล่าวระหว่างกำลังเตรียมภาพเขียนเพื่อนำไปจัดแสดง ขณะที่แอนิตา แยนเซ่น (Anita Jansen) ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ระดับอาวุโสประจำพิพิธภัณฑ์ Prinsenhof Delft พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งคู่เปิดเผยผ่านสื่อมวลชนว่า จากการศึกษาเทคนิกระหว่างช่วง 2 ปีมานี้ช่วยเปิดเผยว่า เด ฮูช มักจรดลายเซ็นของตัวเองบนกรอบหน้าต่างที่ปรากฏในภาพ
ภาพเขียน “นักเล่นไพ่ในห้องที่มีแดดส่อง” (Cardplayers in a Sunlit Room)
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญค้นพบคือ “รอยนิ้วมือ” ในภาพเขียน “นักเล่นไพ่ในห้องที่มีแดดส่อง” ซึ่งคาดว่าน่าจะเขียนขึ้นราวปี 1658 และผู้ค้นพบคือผู้สังเกตการณ์อีกเช่นกัน ผู้ค้นพบรายละเอียดจุดนี้คือ Krista Blessley จากกลุ่มงานสะสมศิลปะหลวงแห่งบริเทน (Royal Collection in Britain) ในช่วงเตรียมชิ้นงานสำหรับจัดส่งไปยังเนเธอร์แลนด์ (ข้อมูลจากกลุ่มงานสะสมศิลปะหลวงระบุว่า ผู้ได้ครอบครองภาพนี้คือพระเจ้าจอร์จที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร, 1762-1830 โดยพระองค์ซื้อจากจอห์น สมิธ เมื่อปี 1825 ด้วยราคา 700 ปอนด์ สถานะปัจจุบันก็ถูกนำไปจัดแสดงในนิทรรศการที่เนเธอร์แลนด์ชั่วคราว)
เชื่อว่า ลายนิ้วมือที่ปรากฏร่องรอยในภาพนั้น ผู้เชี่ยวชาญพบเห็นบนกระเบื้องในภาพ และคาดว่าน่าจะเป็นลายนิ้วมือของนิ้วโป้ง นิ้วของศิลปินน่าจะถูกประทับลงบนภาพเขียนในช่วงที่สียังไม่แห้ง แยนเซ่น สันนิษฐานว่า ลายนิ้วมือของศิลปินน่าจะประทับลงบนภาพขณะที่เขากำลังยกภาพขึ้นจากขาตั้งกระดานวาดรูป
ภาพ “ลานบ้านดัตช์” (A Dutch Courtyard)
ส่วนร่องรอยที่เพิ่งพบบนภาพเขียนอีกชิ้นคือร่องรอยของเสาเรือที่ปรากฏบนภาพ “ลานบ้านดัตช์” (A Dutch Courtyard) ซึ่งน่าจะวาดขึ้นระหว่าง 1658-60 รายงานข่าวเผยว่า จากการวิเคราะห์ด้วยอินฟราเรดที่หอศิลป์แห่งชาติ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้พบเสาเรือในตำแหน่งด้านบนซ้ายของภาพราวกับเรือกำลังล่องลอยอยู่บนฟ้า สันนิษฐานว่า ภาพวาดนี้น่าจะเป็นร่างของภาพวาดที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือไม่ก็เป็นภาพเขียนที่ถูกนำมารีไซเคิลอีกรอบ
Cr.
https://www.silpa-mag.com/
ภาพ “The Arnolfini Portrait” โดย Jan van Eyck
ภาพเหมือน The Arnolfini Portrait เป็นภาพเขียนสีน้ำมันบนไม้โอ๊ก ผู้เขียนคือ Jan van Eyck จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ ภาพนี้เป็นภาพเขียนลวงตาอันน่าประทับใจ ในภาพนี้เราสามารถเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพได้อย่างเจาะลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการใช้แสง รวมทั้งการสร้างช่องว่างภายในของภาพ นอกจากนี้ยังเป็นภาพที่ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจ ว่าเป็นภาพของห้องและผู้ที่อยู่ในห้อง
ความสำคัญอันได้สร้างชื่อเสียงให้กับ The Arnolfini Portrait ก็คือ มันเป็นภาพวาดซึ่งสร้างการถกเถียง ตีความ รวมทั้งเต็มไปด้วยความลึกลับมากที่สุดภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งวงการศิลปะ ไม่ด้อยไปกว่าภาพ Mona Lisa เลย
มีความคิดเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่รองเท้าแตะไปจนถึงการวางตำแหน่งของมือของผู้หญิง รวมถึงภาพสะท้อนในกระจกเงาซึ่งผู้คนเชื่อว่าคือตัว Van Eyck เอง เนื่องจากลายเซ็นของเขาสามารถถอดความได้ว่า “Jan van Eyck was here” (Jan van Eyck อยู่ที่นี่ )
สิ่งที่ชวนให้เกิดความสงสัยมาก คือ บุคคลในภาพกำลังทำอะไร เป็นการหมั้นหมายว่าจะแต่งงาน หรือเป็นภาพในพิธีแต่งงาน หรือจะเป็นเหตุการณ์อะไรอันนอกเหนือจากนี้ อาจเรียกได้ว่า ทุกรายละเอียดซึ่งปรากฏอยู่บนภาพ The Arnolfini Potrait ล้วนได้รับการตีความ วิเคราะห์หาความหมายอย่างละเอียด แต่ยิ่งเพียรหาคำตอบเท่าไร ก็กลับยิ่งพบปริศนาลึกลับมากขึ้นเท่านั้น
Cr.webtasarimtoplist.com/
ภาพ “Garden of Earthly Delights” สวนแห่งความสุขทางโลก
นักศึกษาวิทยาลัยชื่อ Amelia ได้สังเกตเห็นเสียงเพลงที่ถูกซ่อนอยู่ในภาพนี้และบันทึกเอาไว้โดยตั้งชื่อว่า “600-years-old butt song from hell”
Garden of Earthy Delightsเป็นงานที่โด่งดังที่สุดของ Bosch มันมีขนาดใหญ่มาก (กว้างเกินกว่าสิบสองฟุต) เต็มไปด้วยรายละเอียดที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ดูเหมือนทั้งหมดทาสีด้วยสีที่ส่องสว่าง งานชิ้นนี้เป็นงานอันมีค่า เป็นภาพเขียนที่มีสามแผ่นติดตั้งเข้าด้วยกัน
ภาพนี้คือแผงด้านขวา สีมีความเข้มมากขึ้นด้วยโทนสีทั้งหมดของ Gardens of Eden และ Earthly Delights ให้ทางไปยังเฉดสีมืดของนรก สถาปัตยกรรมที่แปลกประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์นกและผู้คนที่สนุกสนาน ซึ่งนักศึกษาวิทยาลัยชื่อ Amelia ได้สังเกตเห็นเสียงเพลงที่ถูกซ่อนอยู่และบันทึกเอาไว้โดยตั้งชื่อว่า “600-years-old butt song from hell”
Cr.smarthistory.org/
ภาพ “Netherlandish Proverbs” ของ Pieter Brugel
เป็นภาพวาดเก่าแก่อายุกว่า 450 ปีของศิลปินชาวดัตช์ที่ชื่อว่า Pieter Bruegel ภาพนี้ถูกเก็บไว้ที่ Gemäldegalerie กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ในภาพวาดของเขาแฝงเอาสุภาษิตโบราณของชาวดัชต์กว่าร้อยสุภาษิต
The Dutch Proverbsภาพเขียนสีน้ำมันบนไม้นี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่มีรายละเอียดสูง ของบรูเกล ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องงานที่ละเอียดอ่อนและสิ่งที่ดูเหมือนเป็นฉากแรกของหมู่บ้านที่มีตัวละครที่กว้าง
ภาพนี้มีสุภาษิตกว่า 100 บทร้อยเรียงอยู่ในนั้น ตัวอย่างเช่น ภาพของปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนตาบอดเดินนำทางให้กัน(เตี้ยอุ้มค่อม) และสุภาษิตอื่นๆ อีกมากมายที่ยังใช้ในปัจจุบัน
Cr.catdumb.com/
ภาพ The fresco
รูปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ภาพชุดจิตรกรรมฝาผนัง 28 ภาพ ในโบสถ์ ซาน ฟรานเซสโก เล่าเรื่องราวตำนานของ นักบุญฟรานซิส (St. Francis ผู้ก่อตั้ง ลัทธิ ฟรานซิสกัน) ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า 25 ภาพ เป็นฝีมือการวาดภาพปูนเปียกของGiotto ยุคแรกๆ
นักฟื้นฟูศิลปะที่ทำงานบนปูนเปียกโดยจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ Giotto di Bondone ได้ค้นพบใบหน้าที่ยิ้มแย้มของปีศาจที่ปลอมตัวเป็นก้อนเมฆในภาพวาด
ปูนเปียกศตวรรษที่ 13 ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิหารเซนต์ฟรานซิสในอัสซีซีเป็นหนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของ Giotto ปีศาจที่ซ่อนเร้นนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นมาหลายร้อยปีแล้วเพราะศิลปินได้รวมใบหน้าที่ยิ้มเยาะในลักษณะที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชมทั่วไปจะมองเห็นจากพื้นดิน
ตามที่ Chiara Frugoni ผู้เชี่ยวชาญยุคกลางที่ค้นพบใบหน้า“ ในยุคกลางเชื่อว่าปีศาจอาศัยอยู่บนท้องฟ้าและพวกเขาสามารถขัดขวางสวรรค์ของมนุษย์สู่สวรรค์”
นักประวัติศาสตร์ศิลปะยังไม่ได้รับความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับความสำคัญของภาพ ทฤษฎีบางอย่างที่ Giotto อาจรวมหัวปีศาจเป็นเรื่องตลกหรือใช้อุปมาอุปไมยสำหรับใบหน้าของซาตาน
Cr.italymagazine.com/
ภาพ Bacchus เทพเจ้าแห่งไวน์ของชาวกรีก
ภาพวาดเทพ Bacchus โดย Michelangelo Merisi da Caravaggio หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dionysus เทพเจ้าแห่งไวน์ของชาวกรีกนั้นดูงดงามและนุ่มนวลก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าภายในโถไวน์ข้างๆ Bacchus นั้น มีเงาสะท้อนบนผิวไวน์ออกมาเป็นใบหน้าของ Caravaggio ผู้วาดภาพนี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วความลับนี้ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1922 แต่ก็ถูกลบเลือนไปหลังจากภาพนี้มีการเก็บรักษาที่ย่ำแย่ แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงทำให้มีการค้นพบใบหน้าของ Caravaggio อีกครั้งในปี 2009
Cr.thai.ac/
ภาพ “Café Terrace at Night”
“Café Terrace at Night” วาดโดย Vincent Van Gogh ภาพนี้วาดขึ้นในปี 1888 ในภาพ “Café Terrace at Night” มีลูกค้าในคาเฟ่12 คน และบริกรที่ยืนอยู่กลางภาพ
หลายคนเชื่อว่า Van Gogh มักจะมีตนเองเป็นแบบอย่างเสมอ แต่ว่าในงานนี้เขาได้แสดงความเคารพต่อ Leonardo Da Vinci ด้วยการวาดภาพที่ละม้ายคล้ายคลึงกับภาพ The Last Supper โดยผู้คนในร้านอาหาร 12 คน หมายถึงเหล่าอัครทูต ส่วนเด็กเสิร์ฟหนึ่งคนในชุดขาว ที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับพระเยซูนั้นสื่อถึงพระเยซู และด้านหลังเด็กเสิร์ฟบริเวณหน้าต่างยังดูคล้ายภาพไม้กางเขนที่อาจหมายถึงการจากไปของพระเยซูก็เป็นได้
Cr.thai.ac/
งานศิลปะที่เป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังในหนังสยองขวัญสุดฮิต IT
IT (2017) หนังสยองขวัญที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อดังในปี 1986 ของราชานิยายสยองขวัญ สตีเฟน คิง หนังกำกับโดยผู้กำกับชาวอาร์เจนตินา อันเดรส มูคิอาติ (Andrés Muschietti) ที่เล่าเรื่องราวของเด็กๆ กลุ่มหนึ่ง ในเมืองเดอร์รี รัฐเมน สหรัฐอเมริกา ที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวตลกปิศาจสุดสยองจากนรก เพนนีไวส์ ผู้เป็นต้นเหตุของการหายสาบสูญของเด็กๆ ในเมือง
ตัวหนังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมอย่างล้นหลาม หลายคนกล่าวว่ามันเป็นหนึ่งในหนังที่ดัดแปลงนิยายของ สตีเฟน คิง ออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างถล่มทลาย โดยทำเงินทั่วโลกไปกว่า 505 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีปิศาจตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวให้ สแตน เด็กชายชาวยิว ผู้เป็นหนึ่งในแก๊งเด็กๆ ลูสเซอร์คลับ ปรากฏตัวอยู่ในภาพวาดหญิงสาวนักเป่าฟลุตหน้าตาประหลาดหลอนชวนขนหัวลุก ที่แขวนในห้องทำงานของพ่อของหนุ่มน้อยสแตน
ผู้กำกับได้แรงบันดาลใจในการออกแบบปิศาจตัวนี้จากผลงานศิลปินที่ชื่อว่า อเมเดโอ โมดิกลิอานี* จิตรกรชาวอิตาเลียน แห่งยุคเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ นี่เอง
Cr.
https://www.wurkon.com/blog/83-it-2017
ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด
ร่องรอย “ความลับ” ในภาพเขียน
เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงของปีเตอร์ เด ฮูช (Pieter de Hooch) ศิลปินชาวดัตช์ผู้กำเนิดเมื่อค.ศ. 1629 อีกหนึ่งภาพก็มีประตูเปิดแง้มอยู่ด้านหลังสตรีในภาพเช่นกัน ภาพวาดนี้น่าจะวาดขึ้นในช่วงค.ศ. 1644 เวลาผ่านไปเกือบ 400 ปีต่อมา ภาพเขียนของเขาเพิ่งถูกผู้เชี่ยวชาญที่มีสายตาคมกล้าชี้เป้าลายเซ็นซึ่ง “แฝง” อยู่ในจุดที่ไม่ค่อยพบเห็นในภาพเขียนน้ำมันบนผ้าใบ
ผู้เชี่ยวชาญบ่งชี้จุดที่ลายเซ็นของปีเตอร์แฝงอยู่บนภาพ ตรงกรอบหน้าต่างที่เปิดอยู่ เป็นอักษรว่า “P.D. HOOCH” ผู้เชี่ยวชาญที่พบลายเซ็นคือ Johanneke Verhave และ Katja Kleinert ซึ่งเป็นผู้ร่วมดูแลพิพิธภัณฑ์ ทั้งคู่พบจุดดังกล่าวระหว่างกำลังเตรียมภาพเขียนเพื่อนำไปจัดแสดง ขณะที่แอนิตา แยนเซ่น (Anita Jansen) ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ระดับอาวุโสประจำพิพิธภัณฑ์ Prinsenhof Delft พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งคู่เปิดเผยผ่านสื่อมวลชนว่า จากการศึกษาเทคนิกระหว่างช่วง 2 ปีมานี้ช่วยเปิดเผยว่า เด ฮูช มักจรดลายเซ็นของตัวเองบนกรอบหน้าต่างที่ปรากฏในภาพ
ภาพเขียน “นักเล่นไพ่ในห้องที่มีแดดส่อง” (Cardplayers in a Sunlit Room)
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญค้นพบคือ “รอยนิ้วมือ” ในภาพเขียน “นักเล่นไพ่ในห้องที่มีแดดส่อง” ซึ่งคาดว่าน่าจะเขียนขึ้นราวปี 1658 และผู้ค้นพบคือผู้สังเกตการณ์อีกเช่นกัน ผู้ค้นพบรายละเอียดจุดนี้คือ Krista Blessley จากกลุ่มงานสะสมศิลปะหลวงแห่งบริเทน (Royal Collection in Britain) ในช่วงเตรียมชิ้นงานสำหรับจัดส่งไปยังเนเธอร์แลนด์ (ข้อมูลจากกลุ่มงานสะสมศิลปะหลวงระบุว่า ผู้ได้ครอบครองภาพนี้คือพระเจ้าจอร์จที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร, 1762-1830 โดยพระองค์ซื้อจากจอห์น สมิธ เมื่อปี 1825 ด้วยราคา 700 ปอนด์ สถานะปัจจุบันก็ถูกนำไปจัดแสดงในนิทรรศการที่เนเธอร์แลนด์ชั่วคราว)
เชื่อว่า ลายนิ้วมือที่ปรากฏร่องรอยในภาพนั้น ผู้เชี่ยวชาญพบเห็นบนกระเบื้องในภาพ และคาดว่าน่าจะเป็นลายนิ้วมือของนิ้วโป้ง นิ้วของศิลปินน่าจะถูกประทับลงบนภาพเขียนในช่วงที่สียังไม่แห้ง แยนเซ่น สันนิษฐานว่า ลายนิ้วมือของศิลปินน่าจะประทับลงบนภาพขณะที่เขากำลังยกภาพขึ้นจากขาตั้งกระดานวาดรูป
ภาพ “ลานบ้านดัตช์” (A Dutch Courtyard)
ส่วนร่องรอยที่เพิ่งพบบนภาพเขียนอีกชิ้นคือร่องรอยของเสาเรือที่ปรากฏบนภาพ “ลานบ้านดัตช์” (A Dutch Courtyard) ซึ่งน่าจะวาดขึ้นระหว่าง 1658-60 รายงานข่าวเผยว่า จากการวิเคราะห์ด้วยอินฟราเรดที่หอศิลป์แห่งชาติ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้พบเสาเรือในตำแหน่งด้านบนซ้ายของภาพราวกับเรือกำลังล่องลอยอยู่บนฟ้า สันนิษฐานว่า ภาพวาดนี้น่าจะเป็นร่างของภาพวาดที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือไม่ก็เป็นภาพเขียนที่ถูกนำมารีไซเคิลอีกรอบ
Cr.https://www.silpa-mag.com/
ภาพ “The Arnolfini Portrait” โดย Jan van Eyck
ภาพเหมือน The Arnolfini Portrait เป็นภาพเขียนสีน้ำมันบนไม้โอ๊ก ผู้เขียนคือ Jan van Eyck จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ ภาพนี้เป็นภาพเขียนลวงตาอันน่าประทับใจ ในภาพนี้เราสามารถเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพได้อย่างเจาะลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการใช้แสง รวมทั้งการสร้างช่องว่างภายในของภาพ นอกจากนี้ยังเป็นภาพที่ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจ ว่าเป็นภาพของห้องและผู้ที่อยู่ในห้อง
ความสำคัญอันได้สร้างชื่อเสียงให้กับ The Arnolfini Portrait ก็คือ มันเป็นภาพวาดซึ่งสร้างการถกเถียง ตีความ รวมทั้งเต็มไปด้วยความลึกลับมากที่สุดภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งวงการศิลปะ ไม่ด้อยไปกว่าภาพ Mona Lisa เลย
มีความคิดเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่รองเท้าแตะไปจนถึงการวางตำแหน่งของมือของผู้หญิง รวมถึงภาพสะท้อนในกระจกเงาซึ่งผู้คนเชื่อว่าคือตัว Van Eyck เอง เนื่องจากลายเซ็นของเขาสามารถถอดความได้ว่า “Jan van Eyck was here” (Jan van Eyck อยู่ที่นี่ )
สิ่งที่ชวนให้เกิดความสงสัยมาก คือ บุคคลในภาพกำลังทำอะไร เป็นการหมั้นหมายว่าจะแต่งงาน หรือเป็นภาพในพิธีแต่งงาน หรือจะเป็นเหตุการณ์อะไรอันนอกเหนือจากนี้ อาจเรียกได้ว่า ทุกรายละเอียดซึ่งปรากฏอยู่บนภาพ The Arnolfini Potrait ล้วนได้รับการตีความ วิเคราะห์หาความหมายอย่างละเอียด แต่ยิ่งเพียรหาคำตอบเท่าไร ก็กลับยิ่งพบปริศนาลึกลับมากขึ้นเท่านั้น
Cr.webtasarimtoplist.com/
ภาพ “Garden of Earthly Delights” สวนแห่งความสุขทางโลก
นักศึกษาวิทยาลัยชื่อ Amelia ได้สังเกตเห็นเสียงเพลงที่ถูกซ่อนอยู่ในภาพนี้และบันทึกเอาไว้โดยตั้งชื่อว่า “600-years-old butt song from hell”
Garden of Earthy Delightsเป็นงานที่โด่งดังที่สุดของ Bosch มันมีขนาดใหญ่มาก (กว้างเกินกว่าสิบสองฟุต) เต็มไปด้วยรายละเอียดที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ดูเหมือนทั้งหมดทาสีด้วยสีที่ส่องสว่าง งานชิ้นนี้เป็นงานอันมีค่า เป็นภาพเขียนที่มีสามแผ่นติดตั้งเข้าด้วยกัน
ภาพนี้คือแผงด้านขวา สีมีความเข้มมากขึ้นด้วยโทนสีทั้งหมดของ Gardens of Eden และ Earthly Delights ให้ทางไปยังเฉดสีมืดของนรก สถาปัตยกรรมที่แปลกประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์นกและผู้คนที่สนุกสนาน ซึ่งนักศึกษาวิทยาลัยชื่อ Amelia ได้สังเกตเห็นเสียงเพลงที่ถูกซ่อนอยู่และบันทึกเอาไว้โดยตั้งชื่อว่า “600-years-old butt song from hell”
Cr.smarthistory.org/
ภาพ “Netherlandish Proverbs” ของ Pieter Brugel
เป็นภาพวาดเก่าแก่อายุกว่า 450 ปีของศิลปินชาวดัตช์ที่ชื่อว่า Pieter Bruegel ภาพนี้ถูกเก็บไว้ที่ Gemäldegalerie กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ในภาพวาดของเขาแฝงเอาสุภาษิตโบราณของชาวดัชต์กว่าร้อยสุภาษิต
The Dutch Proverbsภาพเขียนสีน้ำมันบนไม้นี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่มีรายละเอียดสูง ของบรูเกล ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องงานที่ละเอียดอ่อนและสิ่งที่ดูเหมือนเป็นฉากแรกของหมู่บ้านที่มีตัวละครที่กว้าง
ภาพนี้มีสุภาษิตกว่า 100 บทร้อยเรียงอยู่ในนั้น ตัวอย่างเช่น ภาพของปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนตาบอดเดินนำทางให้กัน(เตี้ยอุ้มค่อม) และสุภาษิตอื่นๆ อีกมากมายที่ยังใช้ในปัจจุบัน
Cr.catdumb.com/
ภาพ The fresco
รูปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ภาพชุดจิตรกรรมฝาผนัง 28 ภาพ ในโบสถ์ ซาน ฟรานเซสโก เล่าเรื่องราวตำนานของ นักบุญฟรานซิส (St. Francis ผู้ก่อตั้ง ลัทธิ ฟรานซิสกัน) ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า 25 ภาพ เป็นฝีมือการวาดภาพปูนเปียกของGiotto ยุคแรกๆ
นักฟื้นฟูศิลปะที่ทำงานบนปูนเปียกโดยจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ Giotto di Bondone ได้ค้นพบใบหน้าที่ยิ้มแย้มของปีศาจที่ปลอมตัวเป็นก้อนเมฆในภาพวาด
ปูนเปียกศตวรรษที่ 13 ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิหารเซนต์ฟรานซิสในอัสซีซีเป็นหนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของ Giotto ปีศาจที่ซ่อนเร้นนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นมาหลายร้อยปีแล้วเพราะศิลปินได้รวมใบหน้าที่ยิ้มเยาะในลักษณะที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชมทั่วไปจะมองเห็นจากพื้นดิน
ตามที่ Chiara Frugoni ผู้เชี่ยวชาญยุคกลางที่ค้นพบใบหน้า“ ในยุคกลางเชื่อว่าปีศาจอาศัยอยู่บนท้องฟ้าและพวกเขาสามารถขัดขวางสวรรค์ของมนุษย์สู่สวรรค์”
นักประวัติศาสตร์ศิลปะยังไม่ได้รับความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับความสำคัญของภาพ ทฤษฎีบางอย่างที่ Giotto อาจรวมหัวปีศาจเป็นเรื่องตลกหรือใช้อุปมาอุปไมยสำหรับใบหน้าของซาตาน
Cr.italymagazine.com/
ภาพ Bacchus เทพเจ้าแห่งไวน์ของชาวกรีก
ภาพวาดเทพ Bacchus โดย Michelangelo Merisi da Caravaggio หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dionysus เทพเจ้าแห่งไวน์ของชาวกรีกนั้นดูงดงามและนุ่มนวลก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าภายในโถไวน์ข้างๆ Bacchus นั้น มีเงาสะท้อนบนผิวไวน์ออกมาเป็นใบหน้าของ Caravaggio ผู้วาดภาพนี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วความลับนี้ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1922 แต่ก็ถูกลบเลือนไปหลังจากภาพนี้มีการเก็บรักษาที่ย่ำแย่ แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงทำให้มีการค้นพบใบหน้าของ Caravaggio อีกครั้งในปี 2009
Cr.thai.ac/
ภาพ “Café Terrace at Night”
“Café Terrace at Night” วาดโดย Vincent Van Gogh ภาพนี้วาดขึ้นในปี 1888 ในภาพ “Café Terrace at Night” มีลูกค้าในคาเฟ่12 คน และบริกรที่ยืนอยู่กลางภาพ
หลายคนเชื่อว่า Van Gogh มักจะมีตนเองเป็นแบบอย่างเสมอ แต่ว่าในงานนี้เขาได้แสดงความเคารพต่อ Leonardo Da Vinci ด้วยการวาดภาพที่ละม้ายคล้ายคลึงกับภาพ The Last Supper โดยผู้คนในร้านอาหาร 12 คน หมายถึงเหล่าอัครทูต ส่วนเด็กเสิร์ฟหนึ่งคนในชุดขาว ที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับพระเยซูนั้นสื่อถึงพระเยซู และด้านหลังเด็กเสิร์ฟบริเวณหน้าต่างยังดูคล้ายภาพไม้กางเขนที่อาจหมายถึงการจากไปของพระเยซูก็เป็นได้
Cr.thai.ac/
งานศิลปะที่เป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังในหนังสยองขวัญสุดฮิต IT
IT (2017) หนังสยองขวัญที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อดังในปี 1986 ของราชานิยายสยองขวัญ สตีเฟน คิง หนังกำกับโดยผู้กำกับชาวอาร์เจนตินา อันเดรส มูคิอาติ (Andrés Muschietti) ที่เล่าเรื่องราวของเด็กๆ กลุ่มหนึ่ง ในเมืองเดอร์รี รัฐเมน สหรัฐอเมริกา ที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวตลกปิศาจสุดสยองจากนรก เพนนีไวส์ ผู้เป็นต้นเหตุของการหายสาบสูญของเด็กๆ ในเมือง
ตัวหนังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมอย่างล้นหลาม หลายคนกล่าวว่ามันเป็นหนึ่งในหนังที่ดัดแปลงนิยายของ สตีเฟน คิง ออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างถล่มทลาย โดยทำเงินทั่วโลกไปกว่า 505 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีปิศาจตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวให้ สแตน เด็กชายชาวยิว ผู้เป็นหนึ่งในแก๊งเด็กๆ ลูสเซอร์คลับ ปรากฏตัวอยู่ในภาพวาดหญิงสาวนักเป่าฟลุตหน้าตาประหลาดหลอนชวนขนหัวลุก ที่แขวนในห้องทำงานของพ่อของหนุ่มน้อยสแตน
ผู้กำกับได้แรงบันดาลใจในการออกแบบปิศาจตัวนี้จากผลงานศิลปินที่ชื่อว่า อเมเดโอ โมดิกลิอานี* จิตรกรชาวอิตาเลียน แห่งยุคเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ นี่เอง
Cr.https://www.wurkon.com/blog/83-it-2017
ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด