วิกฤตการศึกษาไทย (อีกครั้ง) กับผลสอบ PISA ปี 2018 - By Billionaire VI

ผมเพิ่งได้อ่านข่าวผลสอบของ Program for International Student Assessment (PISA) แล้วเป็นห่วงกับการศึกษาของเด็กไทยเป็นอย่างยิ่ง 
ลูกหลานพวกเราที่เติบโตขึ้นมาจะขับเคลื่อนประเทศ เพื่อต่อสู้กับโลกภายนอกได้อย่างไร ลองมาอ่านรายละเอียดกันดังนี้
การสอบ PISA ซึ่งจัดโดยองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) เป็นการสอบของนักเรียนอายุ 15 ปี ทุกๆสามปี โดยครั้งล่าสุดจัดไปเมื่อปลายปี 2018
การสอบครั้งนี้มีเด็กนักเรียนเข้าร่วมทั้งหมด 600,000 คน ใน 75 ประเทศ จากนักเรียนทั้งหมด 32 ล้านคนทั่วโลก มีเด็กนักเรียนไทยเข้าสอบทั้งหมด 8,633 คน จาก 290 โรงเรียนทั้วประเทศไทย
พวกเราคิดว่าผลสอบของนักเรียนไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆจะเป็นอย่างไรบ้าง?
การสอบแยกเป็นสามส่วน 1) การอ่าน 2) คณิตศาตร์ 3) วิทยาศาสตร์ โดยในรอบนี้เน้นทักษะการอ่านเป็นสำคัญ เพราะเป็นรากฐานการเรียนรู้ที่ต่อยอดไปทักษะด้านอื่นๆ ในยุคดิจิตอล
ผลสอบด้านการอ่านห้าดับแรกของโลกมีดังนี้ 
อันดับที่หนึ่งได้แก่ ประเทศจีนซึ่งรวมทั้งสี่มณฑล ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เจียงชู และเจ้อเจียง แล้วตามมาด้วยประเทศ สิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง และเอสโตเนีย
ในส่วนของนักเรียนไทยทำคะแนนการอ่านได้ 393 คะแนนตกค่าเฉลี่ยของ OECD ที่ 426 คะแนน
ส่วนของคณิตศาสตร์ทำได้ 419 คะแนนตกค่าเฉลี่ยที่ 489 คะแนน
วิทยาศาสตร์ก็ตกค่าเฉลี่ยเพราะทำได้ 426 คะแนนจากค่าเฉลี่ย 489 คะแนน
เมื่อเทียบกับปี 2015 คะแนนการอ่านลดลงถึง 16 คะแนน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น 3 และ 4 คะแนนตามลำดับ
จุดที่น่าสนใจจากการสอบครั้งนี้คือ นักเรียนที่มาจากกลุ่มโรงเรียนเน้นวิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับเดียวกับกลุ่มประเทศ/เศรษฐกิจสูงสุดห้าดับแรก นอกจากนี้กลุ่มโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอีกด้วย
สรุปว่าเด็กไทยเก่งกระจุกตัวอยู่ในโรงเรียนดังๆ แต่ค่าเฉลทั้งหมดคงต้องมีการพัฒนาอย่างเร่งด่วน เป็นวาระแห่งชาติกันเลยทีเดียว
ถ้าดูของไทยอย่างเดียวคงไม่รู้ว่าแย่ขนาดไหน ผมเลยเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ความเจริญทางเศรษฐกิจยังตามหลังประเทศไทยอยู่
ในส่วนของเวียดนามซึ่งผลการนับคะแนนออกมาอย่างไม่การ (ข้อมูลนี้เปิดเผยโดยกระทรวงศึกษาธิการของเวียดนาม) สามารถทำได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ทั้งสามวิชา
เวียดนามทำคะแนนการอ่านได้ 505 คะแนน ได้ที่ 12 ของโลก
คณิตศาสตร์ทำได้ 496 คะแนน ได้ที่ 24 ของโลก
ที่โดดเด่นมากๆคือคะแนนวิทยาศาสตร์ทำได้ 543 คะแนน ได้ที่ 4 ของโลก
ในส่วนของเพื่อนบ้านอย่างมาเลเชีย คะแนนการอ่านได้ 415 คะแนน คณิตศาสตร์ได้ 440 คะแนน และวิทยาศาสตร์ได้ 438 คะแนน อยู่อันดับสูงกว่าไทย
จากรายงานการสอบ PISA ครั้งนี้น่าจะสะท้อนถึงนโยบายการศึกษาไทยที่ยังต้องมีการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน 
ผมเพิ่งได้คุยกับอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังว่าการศึกษาไทยตอนนี้มีนโยบายวัดผลงานครูจากการสอบผ่านในแต่ละชั้นเรียน ถ้าสอบไม่ผ่านคุณครูก็ต้องติวกี่รอบก็ตามให้ผ่านให้ได้
เพราะฉะนั้นคุณครูเลยจำเป็นต้องปล่อยผ่าน เพราะไม่อย่างนั้นจะกระทบต่อผลงานของตนเอง เมื่อมีนักเรียนที่คุณภาพไม่ถึงเกณฑ์จำนวนมากเข้ามหาลัยอุดมศึกษา ประเทศก็มีแนวโน้มที่จะขาดแรงงานอาชีวะ มาทำงานในโรงงานเพื่อผลิตสินค้า และแรงงานในอุตสาหกรรมบริการ
ผมว่าเพื่อนๆรู้ว่าการศึกษาไทยเป็นอย่างไร และมีแนวทางแก้ไขอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้บริหารกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงกันเมื่อไหร่ หรืออยากให้ลูกหลานเราต้องลำบากกันครับ #ผลสอบPISA #PISA2018
ที่มา: เวป PISA Thailand และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่