พอดีมีเรื่องอยากระบายค่ะ พอดีนาง B ได้ว่าจ้างทนายท่านหนึ่ง ในเรื่องแบ่งสินสมรส เนื่องจากนาย A มีภรรยาน้อย สุดท้ายตกลงกันว่าไม่ได้แบ่งทรัพย์สินอะไร แต่ก็แยกกันอยู่ จึงดำเนินการถอนฟ้อง ทนายไม่เชื่อว่าไม่แบ่งเงินอะไรให้เลย คือตอนทำสัญญาทนายทำว่านาง B ต้องจ่าย 20% ของเงินที่ได้รับจากการแบ่งทรัพย์สินสมรส แต่ระหว่างดำเนินการคดีแบ่งสินสมรสก็ได้จ่ายเงินค่าทนายดำเนินการไปแล้ว เป็นจำนวนเงิน 5 หลักแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินในสัญญา แต่ในเมื่อไม่มีการให้เงิน จะมาเอาอะไรได้อย่างไร ทนายคนนั้นไม่เชื่อ นาง B เห็นแก่ว่าเคยเป็นเพื่อนมาก่อน จึงให้สินน้ำใจตอบแทนพิเศษ 6 หลัก แต่ทนายคิดว่านาง B จ่ายให้เขาไม่ครบจึงมาฟ้องนาง B เพื่อเรียกค่าทนาย เนื่องจากเชื่อคำยุยงจากภรรยาน้อยของนาย A ว่ามีการแบ่งเงินทั้งที่ความจริงไม่มีการแบ่งใดๆเลย ตอนแรกก็ฟ้องผิดศาล (ทนายฟ้องผิดศาล พระเจ้า เขาอ้างมาตลอดว่าเป็นทนายอาชีพมา 30 ปีแล้ว) ผู้พิพากษาจึงได้ให้ถอนฟ้องไป ต่อมาเขาจึงฟ้องใหม่เป็นคดีคุ้มครองผู้บริโภค นาง B จึงไม่ไกล่เกลี่ย ขอสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เมื่อถึงวันสืบพยาน ท่านผู้พิพากษาได้ขอไกล่เกลี่ยก่อนเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ หลักฐานที่เขามี มีแค่แชทไลน์ที่เขาคุยกับนาง B เรื่องว่าอาจจะตกลงแบ่งทรัพย์สินประมาณนึง แต่แค่อาจจะยังไม่เกิดผล และหลักฐานที่หาว่านาย A โทรมาคุยกับเขาว่าจะตกลงยังไง โดยcapหน้าจอเบอร์ของนาย A ที่โทรเข้ามา แล้วทนายเขียนข้อความมโนเอาเองว่านาย A พูดอะไรกับเขาบ้าง โดยไม่มีคลิปเสียงใดๆ แบบนี้ก็ได้เหรอคะ งั้นเกิดวันหลังดิฉันไม่พอใจใคร ก็ล่อให้เขาโทรเข้า แล้วดิฉันแค่แคปหน้าจอเบอร์ที่โทรเข้า แล้วเขียนมโนเอาเองว่าเขาหมิ่นประมาทเราแบบนั้นนี้ แล้วเอาไปฟ้องศาลก็ได้เหรอ นี่คือสิ่งที่ทนายอาชีพทำนะ แล้วอ้างว่าภรรยาน้อยของนาย A บอก นาง B เลยบอกให้ลากคนที่บอกมาเป็นพยานสิ เขาก็บอกไม่อยากเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง งงในงง ไม่เกี่ยวข้องได้ไงก็พยานคุณนี่ ทนายจะมากล่าวหานาง Bโดยไม่มีหลักฐานและพยานได้อย่างไร นี่คุณเป็นทนายนะ ทนายอ้างว่านาย A จ่ายเงินให้นาง B เป็นแคชเชียร์เช็ค โดยได้รับฟังมาจากภรรยาน้อยของนาย A ซึ่งยังไม่รู้เลยว่าภรรยาน้อยของนาย A พูดเรื่องจริงหรือไม่จริง หลักฐานแคชเชียร์เช็คก็ไม่มี หลักฐานเส้นทางการเงินของนาง B ก็ไม่มี แล้วมาฟ้องเพื่อwhat สุดท้ายท่านผู้พิพากษาเลยบอกว่าถ้างั้นเป็นเพื่อน ได้ไป 6 หลัก ก็เยอะแล้ว เลิกแล้วต่อกันได้ไหม ทนายไม่ยอมจะเอา 6 หลัก พอท่านผู้พิพากษาเสนอ 5 หลัก รีบตกลงทันทีจ้า แต่นาง Bไม่ยอมค่า ให้แค่ 4 หลัก ไม่งั้นก็สืบพยานไม่ถอยแล้ว คือจริงๆดิฉันอยากให้นาง B สืบเพราะยังไงนาง Bก็ชนะความที่ทนายฟ้องมาอยู่แล้ว จะได้เรียกค่าเสียหายตอนฟ้องกลับ แต่นาง B อยากจบๆเลยโยนเศษเงิน 4 หลักให้ถือว่าทำบุญปีใหม่ ผู้พิพากษาต้องเกลี้ยกล่อมทนายอยู่ 40 นาที จึงยอมรับค่า เหมือนท่านบอกว่าเห็นใจเขาให้เขาบ้างละกัน ไม่งั้นเขาเสียหน้า เป็นทนายฟ้องเรื่องของตัวเองแล้วมาแพ้คดี คงดูไม่ดี (จากเรียก 6 หลัก จบลงที่ 4 หลัก) For what
ระบายความทุกข์ค่ะ